จากอิทธิพลของลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดผ่านภาคใต้ตอนล่างตั้งแต่วันที่ 29 ตุลาคมที่ผ่านมาส่งผลให้ 13 อำเภอของจังหวัดนราธิวาส ฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่องติดต่อกันหลายวัน ส่งผลให้ แม่น้ำสายหลัก 3 สายแม่น้ำบางนรา แม่น้ำสายบุรีและแม่น้ำสุไหงโกลก เพเพิ่มระดับสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ในส่วนของอำเภอเจาะไอร้อง ว่าที่ร้อยตรีสมบัติ สิงห์คาร นายอำเภอเจาะไอร้อง ลงพื้นที่พร้อมนายแพทย์ นายเพ็ญภาส เพชรภาพสาธารณสุขอำเภอเจาะไอร้อง ลงสำรวจพื้นที่หลังรับรายงานว่ามีถนนและสะพานของชาวบ้านชำรุดซึ่งได้รับผลกระทบจากน้ำระลอกแรกของปีนี้ จนถนนขาดและสะพานพังทำให้ชาวบ้านได้รับผลกระทบจุดแรกคือถนนสายบ้านโต๊ะหมู่ 5 ตำบลมะรือโบออก เชื่อมต่อกับบ้านบาโงดุดุงหมู่ 6 ตำบลจวบ ถนนขาดส่งผลให้ ประชาชนไม่สามารถสัญจรไปมาได้ และสะพานที่ถูกน้ำเชี่ยวกรากกัดเซาะ จนสะพานหักพังลงมา ในพื้นที่บ้านบาโงดุดุงหมู่ 6 ตำบลจวบ ซึ่งสะพานนี้ ถูกน้ำกัดเซาะพังตั้งแต่ปี 2559 ซึ่งขณะนี้ก็ยังไม่สามารถที่จะหางบประมาณมาซ่อมแซมได้
ด้านว่าที่ร้อยตรีสมบัติ นายอำเภอเจาะไอร้อง ลงพื้นที่สำรวจบ้านของชาวบ้านที่เริ่มถูกน้ำท่วมขังโดยออกแจกจ่ายยาสามัญประจำบ้านยารักษาโรคน้ำกัดเท้า พร้อมนำเรือเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมในพื้นที่ที่ห่างไกลจากถนนบรรเทาความเดือดร้อนเบื้องต้น ในภาพรวมของอำเภอเจาะไอร้องจำนวนทั้งหมด 10 หมู่บ้าน 2 ตำบลคือตำบลมะรือโบออก 7 หมู่บ้านตำบลจวบ 3 หมู่บ้าน
อย่างไรก็ตาม ในส่วนของอำเภอเจาะไอร้องได้มีการประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องระดับอำเภอเพื่อลงพื้นที่ความเสียหายเพื่อลงสำรวจพื้นที่ความเสียหาย และจะบูรณาการร่วมกับทุกฝ่ายเพื่อได้เข้าให้ความช่วยเหลือกับประชาชนในพื้นที่ได้อย่างทันท่วงทีเหมือนเช่นทุกปีที่ผ่านมาและจุดไหนที่วิกฤตหรือได้รับความเสียหายเช่นถนนขาดสะพานขาดเช่นนี้ตนเองจะรีบของบประมาณจากทางจังหวัดมารีบซ่อมแซมโดยเร็วที่สุด
