ททท. สำนักงานกาญจนบุรี ขอเชิญนักท่องเที่ยวร่วมเฉลิมฉลองปี Amazing Thailand Grand Tourism and Sports Year 2025 แบ่งปันประสบการณ์ความประทับใจ “Grand Moment ผจญภัยตามล่าหินหัวเอเลี่ยน” ผ่านโซเชียล ลุ้นรับรางวัลที่พักหรู

นางสาวสรียา  บุญมาก  ผู้อำนวยการ ททท. สำนักงานกาญจนบุรี  เปิดเผยว่า ปีนี้เป็นปี Amazing Thailand Grand Tourism and Sports Year 2025 จึงได้ร่วมกับอุทยานแห่งชาติลำคลองงู ขยายผลต่อยอดสร้างการรับรู้ “Grand Moment ผจญภัยตามล่าหินหัวเอเลี่ยน” ในถ้ำนกนางแอ่น อุทยานแห่งชาติลำคลองงู จังหวัดกาญจนบุรี  โดยเชิญชวนนักท่องเที่ยวที่เดินทางไปพิชิตถ้ำนกนางแอ่นในฤดูกาลท่องเที่ยว ประจำปี 2568 นี้ ร่วมกิจกรรมแชร์ประสบการณ์การเดินทางที่เป็น Grand Moment สุดประทับใจ จากการผจญภัยของตนลงในโซเชียล เพื่อลุ้นรับรางวัลบัตรกำนัล (Gift Voucher) ที่พักหรูในจังหวัดกาญจนบุรี สำหรับ 2 ท่าน 1 คืน พร้อมอาหารเช้า จำนวน 12 รางวัล และยังมีรางวัลปลอบใจ เป็นของที่ระลึกจาก ททท. จำนวน 20 รางวัล โดยโพสต์คอนเทนต์ในรูปแบบของคลิปวีดีโอสั้น ความยาว 1-5 นาที หรือคอนเทนต์ประกอบภาพถ่ายอย่างน้อย 10 ภาพ ลงเว็บไซต์  Facebook  Instagram  TikTok หรือ YouTube พร้อมติดแฮชแท็ก #GrandMoment #ลำคลองงู #กาญจนบุรี ตั้งค่าโพสต์เป็น “สาธารณะ” แล้วแคปภาพหน้าจอ พร้อมระบุวันที่เดินทาง ส่งมาทาง Inbox เพจ Facebook : ททท. สำนักงานกาญจนบุรี (tatkan) ตั้งแต่วันที่ 1 มี.ค. – 15 พ.ค. 68  ประกาศผลผู้โชคดีทางหน้าเพจ ในวันที่ 30 พ.ค. 68 สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ททท.สำนักงานกาญจนบุรี โทรศัพท์ 034 511200 (ในวันเวลาทำการ) หรือทาง Facebook : tatkan 

นางสาวสรียา ยังกล่าวอีกว่า อุทยานแห่งชาติลำคลองงู ตั้งอยู่ในตำบลชะแล  อำเภอทองผาภูมิ  จังหวัดกาญจนบุรี ติดต่อกับเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร จึงมีผืนป่าอุดมสมบูรณ์และเป็นแหล่งต้นน้ำสำคัญ มีแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจมากมายทั้งทางธรรมชาติและวัฒนธรรม โดยเฉพาะ“ถ้ำเสาหิน” ที่ภายในปรากฏประติมากรรมเสาหินปูนธรรมชาติความสูง 62.5 เมตร ได้รับการบันทึกลงในกินเนสเวิลด์เรคคอร์ดในปี พ.ศ. 2548 ว่าเป็นเสาหินในถ้ำที่สูงที่สุดในโลก ส่วน “ถ้ำนกนางแอ่น” ที่อยู่ไม่ไกลกันนั้น เป็นเป้าหมายของนักผจญภัยจากทั่วสารทิศที่หวังจะได้พิชิตสักครั้งหนึ่งในชีวิต อุทยานแห่งชาติลำคลองงูเปิดให้เที่ยวชมถ้ำทั้งสองแห่งนี้ในช่วงเดือนมีนาคมถึงเมษายนของทุกปี เฉพาะวันศุกร์ – เสาร์ – อาทิตย์ เท่านั้น โดยมีการบริหารจัดการอย่างเป็นระบบภายใต้การดูแลของเจ้าหน้าที่อุทยานฯ และมัคคุเทศก์ท้องถิ่นที่ได้รับการฝึกอบรมมาเป็นอย่างดี พร้อมทั้งจำกัดปริมาณผู้เข้าเยี่ยมชมเพื่อรักษาสมดุลของธรรมชาติอีกด้วย