วันที่ 12 ธันวาคม 2567 ณ ห้องประชุมจันหอมชั้น 2 สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครปฐม เขต 1 เวลา 13.30 น. นางพัทธนันท์ นิลพัฒน์ ศึกษาธิการจังหวัดนครปฐม เป็นประธาน ประชุมคณะกรรมการคัดเลือกครูผู้สมควรได้รับพระราชทานรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรี ระดับจังหวัด แนวทางการจัดทำ บ.4 และมีมติคัดเลือกครูผู้สมควรได้รับพระราชทานรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรี ระดับจังหวัด
ตามที่ คณะกรรมการคัดเลือกครูผู้สมควรได้รับพระราชทานรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรี ระดับจังหวัด ครั้งที่ ปี พ.ศ. ๒๕๖๘ (จังหวัดนครปฐม) ได้ดำเนินการประชุม ครั้งที่๒ ประจำปี ๒๕๖๗เมื่อวันที่ ๑๑ พฤศจิกายน ๒๕๖๗ เพื่อดำเนินการคัดเลือกผู้สมควรได้รับพระราชทานรางวัลดังกล่าวผลปรากฏว่า คณะกรรมการๆ ได้มีมติคัดเลือกครูผู้สมควรได้รับพระราชทานรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรีระดับจังหวัด จำนวน ๓ ราย ดังนี้
๑. นายธนภัทร สุนทรภักดี
ครูโรงเรียนสามพรานวิทยา
๒. นางสาวกัญญาณัฐ เต็กจินดา
ครูโรงเรียนวัดวังน้ำขาว
๓. นางวรรณวิมล ครองระวะ
ครูโรงเรียนโพรงมะเดื่อวิทยาคม
สำนักงานศึกษาธิการจังหวัดนครปฐม ได้เสนอผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐมเพื่อลงนามในประกาศผลการคัดเลือกดังกล่าวเรียบร้อยแล้ว รายละเอียดตามประกาศคณะกรรมการคัดเลือกครูผู้สมควรได้รับพระราชทานรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรี จังหวัดนครปฐม เรื่อง รายชื่อครูผู้สมควรได้รับพระราชทานรางวัล สมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรี จังหวัดนครปฐม ครั้งที่ ๖ ปี พ.ศ. ๒๕๖๘ ลงวันที่ ๒๙ พฤศจิกายน ๒๕๖๗
ในโอกาสที่สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ๆ สยามบรมราชกุมารี ทรงมีพระชนมายุครบ๖๐ พรรษา เมื่อปี พ.ศ. ๒๕๕๘ สำนักงานเลขาธิการคุรุสภา ร่วมกับ ผู้ปฏิบัติงานด้านการศึกษา ได้ขอพระราชทานพระราชานุญาตจัดตั้งรางวัลระดับนานาชาติเพื่อเฉลิมพระเกียรติพระปรีชาด้านการศึกษา ที่ทรงอุทิศพระองค์เพื่อเสริมสร้างการศึกษาให้แก่เด็กและเยาวชนในระดับต่าง ๆมาโดยตลอด โดยเฉพาะเด็ก เยาวชน ผู้ด้อยโอกาสในท้องถิ่นห่างไกลทั่วประเทศ พระองค์ทรงเปี่ยมด้วยคุณลักษณะสำคัญของความเป็นครู ๔ ประการ ได้แก่ ความรอบรู้ การสอนดี ความมีจรรยาบรรณ และความมุ่งมั่นพัฒนาทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทาน พร่ะราชานุญาตตั้งนามรางวัลว่า “รางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรี” (Princess Maha Chakri Award) และ มีพระราชานุญาตให้จัดตั้ง “มูลนิธิรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรี” เพื่อเป็นองค์กรหลักในการดำเนินงานและพิจารณารางวัล
รางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรี เป็นรางวัลเพื่อยกย่องเชิดชูเกียรติครูผู้มีผลงานดีเด่นและสร้างคุณประโยชน์ ต่อการศึกษาในประเทศต่าง ๆ ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จำนวน ๑๑ ประเทศ (เนการาบรูไนดารุสซาลาม ราชอาณาจักรกัมพูชา สาธารณรัฐอินโดนีเซีย สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวมาเลเซีย สาธารณรัฐแห่ง สหภาพเมียนมา สาธารณรัฐฟิลิปปินส์ สาธารณรัฐสิงคโปร์ ราชอาณาจักรไทย สาธารณรัฐ สังคมนิยมเวียดนาม และ สาธารณรัฐประชาธิปไตยติมอร์-เลสเต) และในกระบวนการคัดเลือกครูรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรี ครั้งที่ ๖ ปี พ.ศ. ๒๕๖๘ มูลนิธิรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้า มหาจักรีได้ขยายประเทศในภูมิภาคเอเชีย อีกจำนวน ๓ ประเทศ (สาธารณรัฐประชาชนบังกลาเทศ ราชอาณาจักรภูฏาน และมองโกเลีย) รวมเป็น ๑๔ ประเทศประเทศละ ๑ คน รวม ๑๔ รางวัล ซึ่งจะดำเนินการคัดเลือกทุก ๆ ๒ ปี โดยคณะกรรมการมูลนิธิรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรี จะเสนอกรอบความคิดและคุณลักษณะเฉพาะของครูผู้สมควรได้รับพระราชทานรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรีไปยัง กระทรวงศึกษาธิการทั้ง ๑๔ ประเทศ ซึ่งที่ผ่านมา มูลนิธิรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรี ได้จัดพิธีพระราชทานรางวัลแล้ว ๔ ครั้งคือ ปี พ.ศ. ๒๕๕๘,ปี พ.ศ. ๒๕๖๐,ปี พ.ศ. ๒๕๖๒, ปี พ.ศ. ๒๕๖๔ และปี พ.ศ.๒๕๖๖ โดยมีลำดับของรางวัลดังนี้
๑) รางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรี จำนวน ๑ รางวัล
๒) รางวัลคุณากร จำนวน ๒ รางวัล
๓) รางวัลครูยิ่งคุณ จำนวน ๑๗ รางวัล
๔) ครูผู้ได้รับการคัดเลือกจากคณะกรรมการฯระดับจังหวัดจะได้รับ “รางวัลครูขวัญศิษย์”
มูลนิธิรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรี ได้ขอความอนุเคราะห์ให้ผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม แต่งตั้งคณะกรรมการคัดเลือกครูรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้า ระดับจังหวัดและเป็นประธานคณะกรรมการคัดเลือกดังกล่าวโดยมูลนิธิรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรี ได้ประกาศฯ หลักเกณฑ์ วิธีการสรรหาและคัดเลือกครูรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรี ครั้งที่ ๖ ปี ๒๕๖๘ (สำหรับประเทศไทย) และกำหนดให้มีการคัดเลือกครูผู้สมควรได้รับพระราชทานรางวัล ดังกล่าวในระดับจังหวัด ภายในเดือนธันวาคม๒๕๖๗ โดยกำหนดให้ ครูผู้สมควรได้รับพระราชทานรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรี ต้องมีคุณสมบัติทั่วไปและคุณสมบัติเฉพาะ ดังนี้
คุณสมบัติทั่วไป
๑. มีสัญชาติไทย และมีถิ่นที่อยู่ในประเทศไทย
๒. ปฏิบัติหน้าที่อย่างใดอย่างหนึ่ง ดังต่อไปนี้
๑) เป็นหรือเคยเป็นครูผู้สอนระดับการศึกษาขั้นพื้นฐานในสถานศึกษาของรัฐ เอกชนหรือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
๒) เป็นหรือเคยเป็นครูนอกสถานศึกษาที่สอนผู้เรียนในวัยการศึกษาขั้นพื้นฐาน
๓) มีประสบการณ์ปฏิบัติงานสอนอย่างต่อเนื่องมาแล้วเป็นเวลาไม่น้อยกว่า๑๒ ปี นับถึงวันที่ ออกประกาศนี้ ในกรณีที่เป็นผู้บริหารสถานศึกษาต้องมีชั่วโมงสอนในรายวิชาในระดับการศึกษา ขั้นพื้นฐานอย่างต่อเนื่อง โดยสามารถตรวจสอบหลักฐานและหรือร่องรอยการปฏิบัติงานได้ ในกรณีที่มีช่วงเวลาที่ไม่ได้ปฏิบัติการสอน ไม่ควรเกิน๑ ภาคเรียน หรือไม่เกิน ๔ เดือน โดยนับเป็นประสบการณ์ต่อเนื่อง ทั้งนี้ให้นับเวลาที่เคยปฏิบัติการสอนผู้เรียนในระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน ทั้งในระบบทุกสังกัดและนอกระบบ โรงเรียนอย่างต่อเนื่องได้
๔) ปฏิบัติงานสอนและหรือปฏิบัติหน้าที่ด้านการศึกษาอยู่จนถึงวันประกาศผล
การพิจารณา ตัดสินยกเว้นครูผู้เกษียณในปีที่มีการคัดเลือก
๕) ไม่เป็นครูสอนพิเศษเป็นอาชีพหลัก
๖) ไม่มีความประพฤติเสื่อมเสียหรือบกพร่องในศีลธรรมอันดี
โดยการประชุมวันนี้นั้น มีการนำเสนอเกี่ยวกับการบันทึกข้อมูลเพิ่มเติม จากคณะกรรมการและผู้ทรงคุณวุฒิ ของครูทั้ง 3 ท่าน ที่ได้รับการคัดเลือกจากคณะกรรมการคัดเลือกครูผู้สมควรได้รับพระราชทานรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรี ระดับจังหวัด ครั้งที่ ๖ ปี พ.ศ. ๒๕๖๘ (จังหวัดนครปฐม)