ทีมบริหารโรงพยาบาลนครปฐม ประสานหลวงพี่น้ำฝน ลงพื้นที่ ให้แนวทางการรักษา น้องบัว เหยื่อเมาขับชน นอนติดเตียงนานนับปี

ผู้อำนวยการโรงพยาบาลนครปฐม ส่งทีมบริหารโรงพยาบาลนครปฐม ประสานความร่วมมือหลวงพี่น้ำฝน ลงพื้นที่เยี่ยมให้กำลังใจและประสานการให้การช่วยเหลือ ครอบครัว น้องบัว นักศึกษานิติวิทยาศาสตร์ เหยื่อคนเมาแล้วขับนอนติดเตียง 1 ปีเศษ โดยมีการรับการรักษาอย่างถูกขั้นตอนและมีวินัยในการพัฒนาร่างกายเป็นอย่างดี ซึ่งจะมีการจัดการประสานงานเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลนครปฐม เทศบาลนครนครปฐม เพิ่มการกายภาพร่างกายเสริมกล้ามเนื้อ พร้อมประสานการติดตามงบประมาณในการจัดทำทางเข้าบ้านให้สะดวกสำหรับผู้พิการและบรรเทาปัญหาน้ำท่วมขังเมื่อฝนตกหนัก เป็นอุปสรรคของหลายครอบครัวในชุมชน

วันที่ 29 พฤศจิกายน 2567 ที่ชุมชนนครปฐม ฝั่งไทยสมุทร เขตเทศบาลนครนครปฐม นพ.สุรชัย โชคครรชิตไชย ตำแหน่งผู้อำนวยการโรงพยาบาลนครปฐม มอบหมายให้  คุณเกษา นาสวน อดีต รองผู้อำนวยการฝ่ายการพยาบาลโรงพยาบาลนครปฐม คุณนพรัตน์ ศรีสุวิภา รองหัวหน้าพยาบาลด้านบริการ คุณธิดา ชื่นชม ผู้ช่วยรองหัวหน้าพยาบาลด้านบริการ คุณเตือนใจ เทียนทอง หัวหน้า กลุ่มงานการพยาบาลชุมชน  คุณอำไพ แก้วใส พยาบาลวิชาชีพชำนาญการพิเศษ กลุ่มงานเวชกรรมสังคม โรงพยาบาลนครปฐม คุณอินทิรา หมู่วิเศษ นักกายภาพบำบัด ชำนาญการ ทีมบริหารงาน ประสานความร่วมมือกับ พระครูปลัดสิทธิวัฒน์ (หลวงพี่น้ำฝน) เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม ลงพื้นที่ในการเข้าเยี่ยมครอบครัวของน.ส.เบญจมาศ ผิวบัวคำ หรือน้องบัว อายุ 23 ปี นักศึกษานิติวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยสวนสุนันทา ซึ่งเป็นผู้พิการที่เกิดจากความประมาทของคนเมาแล้วขับ ซึ่งนอนติดเตียงมานานกว่า 1 ปี โดยมีอาการอ่อนแรงในช่วงด้านล่างตั้งแต่ช่วงเอว เนื่องจากสมองขาดเลือด และมารดาคือน.ส.ชลดา สอนดี อายุ 47 ปี ได้มีการขอความช่วยเหลือไปยังหลวงพี่น้ำฝน ในการขอรถวีลแชร์ และประสานการดูแลในการรักษาตัวให้อาการดีขึ้น

โดยคณะทีมบริหารงานโรงพยาบาลนครปฐม ได้นำเอกสารในการรักษาตัวของ น้องบัว มาทำการตรวจสอบ ซึ่งพบว่าเป็นผู้ป่วยที่ใช้สิทธิการรักษาโรงพยาบาลนครปฐมอ โดยได้ส่งตัวไปรักษาตัวต่อที่สถาบันสิริธรและโรงพยาบาลลวงพ่อเปิ่น ตามกระบวนการรักษาซึ่งเป็นผู้ป่วยที่มีวินัยในการกายภาพเป็นที่ทราบกันดีของคณะทีมแพทย์พยาบาลทุกแห่งและมีมารดาซึ่งถือเป็นประชาชนทั่วไปที่ใส่ใจในการหาความรู้ในการดูแลรักษาผู้ป่วยที่ดีเยี่ยม โดยแนวทางการช่วยเหลือทีมบริหารได้แจ้งให้กับหลวงพี่น้ำฝน และครอบครัวของน้องบัวได้ทราบ ว่ามีทิศทางในการพัฒนาและฟื้นฟูร่างกายได้ดีขึ้นมาก ส่วนการจะกลับมาเดินได้เหมือนเดิมหรือไม่จะต้องดูไปในอนาคตอีกครั้ง แต่ความมีวินัยและปฏิบัติอย่างถูกต้องมีกระบวนการที่ดีเยี่ยมอยู่แล้ว ซึ่งทางโรงพยาบาลนครปฐม จะได้เพิ่มในส่วนของงานด้านการบริการชุมชน ประสานงานกับทีมเวชกรรม ที่มีการลงพื้นที่ร่วมกับหน่วยงานของเทศบาลนครนครปฐม จัดการกายภาพเพิ่มเติมขึ้นอีกสัปดาห์ละ 1 ครั้งซึ่งเป็นภารกิจที่ได้มีการดำเนินการอยู่แล้ว

และในส่วนที่ น.ส.ชลดา สอนดี อายุ 47 ปี มารดา ได้แจ้งว่าได้ประสานงานกับเทศบาลนครนครปฐม ในการปรับพื้นถนนทางเข้าบ้านประมาณ 30 เมตร เพื่อให้เป็นทางเรียบเพื่อง่ายต่อการใช้รถวีลแชร์ รวมถึงการยกพื้นถนนทางเข้าบ้านในชุมชน ซึ่งจะประสบปัญหาเวลามีฝนตกลงมาอย่างหนักจะมีน้ำท่วมขังสูงถึงระดับต้นขา  ที่ได้แจ้งไปแล้วนั้น จะมีการประสานงานเพื่อสอบถามถึงความคืบหน้าซึ่งเบื้องต้นทราบว่าได้รับแจ้งไปแล้วโดยกำลังอยู่ในช่วงรองบประมาณว่าจะสามารถดำเนินการได้เมื่อไหร่ ซึ่งจะส่งผลให้หลายครอบครัวได้รับประโยชน์ จากช่วงน้ำท่วมด้วย