นายไพศาล สุขปุณพันธ์ ประมงจังหวัดสุพรรณบุรี เปิดเผยว่าในวันนี้ (7 พฤศจิกายน 2567)เวลา 10.00 น. ณ สำนักงานประมงจังหวัดสุพรรณบุรี ได้กำหนดจัดพิธีรับมอบอาหารปลากินพืช จากทีม CSR ส่วนกลาง นายธวัช หมัดเต๊ะ ผู้จัดการฝ่ายงานชุมชน และนายกกฤษณะ ภาคกลาง/ภาคใต้ ผู้แทน บริษัท เบทาโกร จำกัด (มหาชน)จำนวน 30 กระสอบเพื่อนำไปใช้ประโยชน์เป็นอาหารสมทบให้กับสัตว์น้ำวัยอ่อนที่อาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก บริเวณเขตพื้นที่รักษาพันธุ์สัตว์น้ำประตูระบายน้ำโพธิ์พระยา หมู่ที่ 1 ตำบลโพธิ์พระยา อำเภอเมืองสุพรรณบุรี จังหวัดสุพรรณบุรี
ประมงจังหวัดสุพรรณบุรี กล่าวเพิ่มเติมว่า สืบเนื่องจากบริเวณเขตพื้นที่รักษาพันธุ์สัตว์น้ำประตูระบายน้ำโพธิ์พระยา เป็นสถานที่จับสัตว์น้ำในจังหวัดสุพรรณบุรี ที่มีสภาพพื้นที่เหมาะสมในการบำรุงรักษาให้เป็นแหล่งที่อยู่อาศัยแพร่ขยายพันธุ์ วางไข่และเลี้ยงตัวในวัยอ่อนของสัตว์น้ำได้เป็นอย่างดี ประกอบกับบริเวณดังกล่าวมีการทำประมงอยู่เป็นจำนวนมาก หากปล่อยไว้จะทำให้สัตว์น้ำบริเวณดังกล่าวถูกจับในปริมาณที่มาก จนเกินศักยภาพการผลิตของธรรมชาติ อาจจะส่งผลกระทบต่อความอุดมสมบูรณ์ของสัตว์น้ำได้ ดังนั้นเพื่อเป็นการอนุรักษ์และบริหารจัดการให้เกิดสมดุลของธรรมชาติ และรักษาทรัพยากรสัตว์น้ำให้สามารถใช้ประโยชน์ได้อย่างยั่งยืน
ทางสำนักงานประมงจังหวัดสุพรรณบุรี จึงได้ทำหนังสือขอความอนุเคราะห์อาหารปลากินพืชจาก บริษัท เบทาโกรจำกัด (มหาชน) เพื่อใช้ประโยชน์ในการเป็นอาหารสมทบให้กับสัตว์น้ำวัยอ่อนที่อาศัยอยู่ในบริเวณดังกล่าวเป็นจำนวนมาก และในโอกาสนี้ทางสำนักงานประมงจังหวัดสุพรรณบุรีขอขอบคุณภาคเอกชนที่เห็นความสำคัญในการดูแลเขตพื้นที่รักษาพันธ์สัตว์น้ำวัยอ่อนที่จะเป็นห่วงโซ่อาหารให้เกิดความอุดมสมบูรณ์ในภายภาคหน้าเป็นแหล่งอาหารโปรตีนให้พี่น้องประชาชนได้บริโภคอย่างยั่งยืน ต่อไปและภายหลังจากเสร็จสิ้นพิธีรับมอบอาหารปลากินพืช จากผู้แทน บริษัท เบทาโกร จำกัด (มหาชน) แล้ว จะได้ร่วมกันลงพื้นที่ดูพันธุ์สัตว์น้ำ ณ เขตพื้นที่รักษาพันธุ์สัตว์น้ำบริเวณประตูระบายน้ำโพธิ์พระยา
สำหรับเขตพื้นที่รักษาพันธ์สัตว์น้ำ โดยคณะกรรมการประมงประจำจังหวัดโดยอนุมัติรัฐมนตรีประกาศกำหนดเป็นเขตพื้นที่รักษาพันธุ์สัตว์น้ำ ตามมาตรา 56 ห้ามมิให้ผู้ใดจับสัตว์น้ำในเขตพื้นพื้นที่รักษาพันธุ์สัตว์น้ำตามที่รัฐมนตรีหรือคณะกรรมการประมงประจำจังหวัดโดยอนุมัติรัฐมนตรีประกาศกำหนดเว้นแต่เป็นการกระทำเพื่อประโยชน์ในทางวิชาการหรือเพื่อการบำรุงรักษาพันธุ์สัตว์น้ำและได้รับอนุญาตเป็นหนังสือจากอธิบดีหรือผู้ซึ่งอธิบดีมอบหมาย ตามมาตรา 138 ผู้ใดผ้าฝืนมาตรา 56 ต้องระวางโทษปรับตั้งแต่ห้าพันบาทถึงห้าหมื่นบาท หรือปรับจำนวนห้าเท่าของมูลค่าสัตว์น้ำที่ได้จากการทำการประมงแล้วแต่จำนวนใดจะสูงกว่า