หลวงพี่น้ำฝนไม่หยุด เดินสายมอบเตียงผู้ป่วยช่วยลูกสาวแบ่งเบาภาระ ดูแลพ่อป่วยนอนติดเตียง พร้อมอบเครื่องยังชีพและเงินทุนสำหรับใช้จ่ายบำบัดอาการ โดยเจ้าตัวเผยประทับใจมารอรับข้าวสาร เครื่องใช้งานทิ้งกระจาด เปิดปากขอความช่วยเหลือเพียง 2 วันได้เตียงให้พ่อได้นอนบำบัดร่างกายหวังกลับมาเดินได้อีกครั้ง โดยหลวงพี่น้ำฝน ชื่นชมความกตัญญู พร้อมผลักดันส่งเสริมให้สังคมยึดมั่นการดูแลบุพาการีในฐานะลูกที่ดี
วันที่ 29 สิงหาคม 67 ที่วัดไผ่ล้อม ต.พระปฐมเจดีย์ อ.เมือง จ.นครปฐม พระครูปลัดสิทธิวัฒน์ หลวงพี่น้ำฝน เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม นำคณะสงฆ์ เจ้าหน้าที่วัดไผ่ล้อม จัดเตรียมเตียงนอนสำหรับผู้ป่วย ข้าวสาร น้ำดื่ม นำไปให้ กับครอบครัวจันทร์เขียว ที่บ้านเลขที่ 40/2 ม.9 ต.ลำพยา อ.เมือง จ.นครปฐม หลังได้รับประสานขอความช่วยเหลือเนื่องจาก นายภัคตร์ จันร์เขียว อายุ 86 ปี มีความเจ็บป่วยและเป็นผู้ป่วยติดเตียง โดยมีนางสาววันดี จันทร์เขียว บุตรสาวคอยดูแลอยู่ในบ้านพัก
หลวงพี่น้ำฝน เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม ได้สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมจากบุตรสาว ทราบว่า นายภัคตร์ บิดา เพิ่งมีอาการป่วยด้วยโรคเก๊าและอ่อนแรง โดยมีการหายใจไม่สะดวก และเข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลนครปฐม ก่อนจะได้รับการอนุญาตให้กลับบ้านมาดูแลต่อด้วยการกายภาพและให้รับประทานยาที่บ้านพัก โดยมีบุตรสาวคอยเป็นผู้ดูแลอย่างใกล้ชิด จากนั้นได้นำเตียงสำหรับผู้ป่วยติดตั้งภายในบ้าน ก่อนจะมอบข้าวสารและน้ำดื่ม พร้อมกับมอบเงินเป็นทุนสำหรับการซื้ออุปกรณ์ที่จำเป็นในการพักฟื้นร่างกาย
นางสาววันดี จันทร์เขียว บุตรสาว บอกว่าบิดามีอาการป่วยมาราว 2 เดือนซึ่งปกติจะเดินไปทำสวนหน้าบ้านได้แต่หลังจากมีอาการป่วย ก็ไม่สามารถลุกขึ้นเดินได้ตามปกติ ซึ่งในช่วงที่อยู่ในโรงพยาบาลนครปฐม ตนเองได้สอบถามถึงเรื่องของการจัดเตรียมเตียงผู้ป่วยเพื่อนำมาใช้กับบิดาหลังออกจากโรงพยาบาลนครปฐม ซึ่งได้รับการแจ้งว่าที่วัดไผ่ล้อมได้มีการจัดโครงการธนาคารเตียงผู้ป่วยและรถวีลแชร์ โดยในช่วงที่วัดไผ่ล้อม ได้มีการจัดพิธีทิ้งกระจาดได้เข้ามารับของภายในงาน และได้เข้าประสานขอความช่วยเหลือซึ่งเพียง 2 วัน หลวงพี่น้ำฝน ก็ได้เดินมามอบด้วยตัวเอง ทำให้รู้สึกวมีความประทับใจและขอบคุณที่นำเตียงมาให้พ่อซึ่งได้เจอหลวงพี่น้ำฝน ก็มีกำลังใจมากขึ้นด้วย
หลวงพี่น้ำฝน กล่าวว่า สำหรับกรณีครอบครัว จันทร์เขียว เป็นอีกครอบครัวหนึ่งที่ประสบปัญหาเกี่ยวกับด้านสุขภาพของบิดาซึ่งทางวัดไผ่ล้อมได้มีการติดตามข้อมูลทันทีที่ได้รับการประสานขอความช่วยเหลือ และทราบว่ามีปัญหาจริงเนื่องขากบุตรสาวต้องหยุดงานเพื่อมาดูแลพ่อซึ่งป่วยทำให้รายได้ที่มีอยู่ทุกวันนั้นหายไป แต่ก็ต้องขอชื่นชมความกตัญญู กตเวทิตา ที่ลูกสาวมีให้กับบิดายามท่านเจ็บป่วย ซึ่งเรื่องยนี้เป็นเรื่องสำคัญของสถาบันครอบครัวในบ้านเรา และอาตมาพร้อมสนับสนุนส่งเสริมให้กับคนที่มีความกตัญญู ได้รับการช่วยเหลือและประสานงานต่างๆ เพื่อให้บรรเทาความเดือดร้อนที่เกิดขึ้นและสิ่งที่ทำให้สังคมไทยสวยงามและเดินหน้าไปได้แม้มีวิกฤติภัยต่างๆ นั่นคือคำว่ากตัญญูและมีน้ำใจต่อกันในสังคมไทย ซึ่งอาตมาและคณะสงฆ์วัดไผ่ล้อมพร้อมเดินหน้าขับเคลื่อนเป้าหมายนี้ด้วยเช่นกัน