วันที่ 7 กันยายน 2561 ที่ชั้นหนึ่ง หน้าอาคารกองบัญชาการ ตำรวจภูธรภาค 7 อำเภอเมืองจังหวัดนครปฐม พลตำรวจโทกิตติพงษ์ เงามุข ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 พลตำรวจตรี กฤษณะ ทรัพย์เดช รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 พลตำรวจตรี กฤษณะ ศิริปิยะวัฒน์ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 รักษาราชการ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดกาญจนบุรี พลตำรวจตรี ปิยะ สุขประเสริฐ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 พันตำรวจเอก สุรพจน์ วิสุทธิวงส์รองผู้บังคับการ ตำรวจภูธรจังหวัดกาญจนบุรี จุมพล เลขสุนทราการ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรทองผาภูมิ พันตำรวจเอก มานิต ผลวานิชย์ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรสังขละบุรี พร้อมชุดจับกุม ทั้งสองท้องที่ ร่วมกันนำของกลางยาเสพติด ยาบ้าจำนวน 50,000 เม็ด ยาไอซ์ จำนวน 45 กิโลกรัม คุณค้ายาเสพติด กว่า 40 ล้านบาท หากหลุดรอด ไปถึงประเทศเพื่อนบ้านด้านชายแดนภาคใต้ จะมีมูลค่าเพิ่มขึ้นเป็นร้อยเท่า
ตรวจยึดทรัพย์สิน รถยนต์ โทรศัพท์มือถือเงินในบัญชี รวมมูลค่ากว่า 5 ล้าน 6 แสน 9 หมื่น บาท จับกุม ผู้ร่วมกระทำความผิดรวม 8 คน มีนายสุทัศน์ชัยวัฒน์ ธนาวุฒิ อายุ 36 ปี ชาวตำบลหนองลูอำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี นายวุฒิชัย ปิ่นเวหา อายุ 45 ปีชาวตำบลบางระกำ อำเภอบางเลนจังหวัดนครปฐม นางสาวสมหมาย สิงหา อายุ 40 ปีชาวตำบลบ้านแก้ง อำเภอเมือง จังหวัดสระแก้ว นายพีระยุทธ ปิ่นเวหา อายุ 47 ปี ชาวตำบลบางแก้วฟ้า อำเภอนครชัยศรี จังหวัดนครปฐม นางดวงมณี ตั้งเคียน อายุ 54 ปี ชาวตำบลแหลมสอน อำเภอปะเหลียน จังหวัดตรัง นางกิ่งแก้ว ทักแก้วอายุ 48 ปี ชาวตำบลทุ่งค่าย อำเภอย่านตาขาว จังหวัดตรัง นายอัมพร ณะสติ อายุ 77 ปีชาวตำบลทุ่งลูกนกอำเภอกำแพงแสน จังหวัดนครปฐม และนายล้อหรือแซโก ไม่มีนามสกุลชาวเมียนมาร์ อายุ 21 ปี อยู่ที่อำเภอพญาตองซู ประเทศเมียนมาร์
ซึ่งผู้ต้องหาที่จับกุมได้ทั้งหมด จะมีหน้าที่ขนยาเสพติดส่งต่อกันเป็นทอดๆ เพื่อลำเลียง ไปยัง ชายแดนภาคใต้ อ้างว่าได้รับค่าจ้าง รายละ 20,000 30,000 ถึง 50,000 บาท จากนายทุนชาวเมียนมาร์ วิธีการจะทำหน้าที่ขับรถยนต์ ที่บรรทุกยาเสพติดซุกซ่อน ตามที่ต่างๆในตัวถังรถยนต์ ทั้งในช่องประตูคอนโซลถังน้ำมันที่มีการดัดแปลงเพื่อซุกซ่อนยาเสพติด โดยเฉพาะในราย ของ ผู้ต้องหาที่ชื่อ นายอัมพร ณะสติ ซึ่งมีอายุมากถึง 77 ปี ชาวตำบลทุ่งลูกนก อำเภอกำแพงแสน จังหวัดนครปฐมรับว่า ทำมาแล้วมากกว่า 1 ครั้ง เพิ่งมาถูกจับ..
พิราบ5 ภาพ/ข่าว