ที่สถานีตำรวจภูธรเมืองนครปฐม เวลา 14.45 น.ที่งานป้องกัน ปราบปรามสถานีตำรวจภูธรเมืองนครปฐม (ศปก.สายตรวจ) พันตำรวจเอก ไพฑูรย์ พิทักษ์ธรรม ผู้กำกับการสถานี ตำรวจภูธรนครปฐม ได้มอบหมายให้ พันตำรวจโท สมชาติ ขันบุรี รองผู้กำกับป้องกันปราบปราม สถานีตำรวจภูธรเมืองนครปฐม นำโครงการ”บัตรเตือนภัย” ไปให้กำชับการปฏิบัติต่อให้ สารวัตรป้องกันปราบปรามผู้ปฏิบัติ(สวป. รองสวป.และ สายตรวจ) ซึ่งทาง พลตำรวจตรี คำรณ บุญเลิศ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครปฐม ได้มีดำริให้สถานีตำรวจภูธรเมืองนครปฐม เป็นสถานีนำร่องโดยการ ทำบัตรเตือนภัย กระดาษแข็ง ขนาด10 cm ยาว 21 cm มีข้อความว่า”บัตรเตือนภัย”มีช่องกรอกวันที่เวลา มีข้อความให้สายตรวจที่ออกปฏิบัตินพไปแจ้งเตือนประชาชนโดยในบัตรมีข้อความว่า “เจ้าหน้าที่สายตรวจสถานีตำรวจภูธรเมืองนครปฐมได้ตรวจพบ และฝากข้อความเตือนภัยไว้ดังนี้” (เป็นหัวข้อให้เจ้าหน้าที่สายตรวจขีดหัวข้อและใส่ข้อความเตือนภัยเจ้าของทรัพย์และแต่เหตุการณ์ เช่น “อย่าจอดรถทิ้งไว้โดยไม่มีการล็อกกุญแจ และ อย่าปล่อยหรือทิ้งบ้านไว้โดยไม่มีคนดูแลหรือไม่ล็อกประตูหน้าต่าง” และช่องว่างให้เจ้าหน้าที่สายตรวจที่ไปพบบ้าน หรือรถจักรยานยนต์ ที่จอดทิ้งไว้ในลักษณะล่อแหลมเช่นจอดในที่เปลี่ยว ซึ่งจะเป็นโอกาสให้คนร้ายก่อเหตุลักหรือขโมยได้ หรือจอดในลักษณะที่ไม่ล็อคหรือป้องกัน ให้แน่นหนา หรือแม้กระทั่งจอดรถไว้โดยไม่ถอดกุญแจออก ซึ่งจะเป็นช่องทางให้คนร้ายประสบโอกาส ก่อเหตุได้ จึงได้ออกบัตรเตือนภัยออกมาเพื่อให้สายตรวจ ที่ออกปฏิบัติหน้าที่ไปพบ ก็จะเขียนข้อความดังกล่าวแล้วก็คล้องบัตรไว้กับรถหรือประตูบ้าน โดยในท้ายบัตรเตือนภัยจะมีข้อความพร้อมเบอร์โทรของผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเมืองนครปฐม และรองผู้กำกับป้องกันและปราบปรามสถานีตำรวจภูธรเมืองนครปฐม พิมพ์ใส่ไว้ เพื่อให้ประชาชนที่พบเห็นบัตรดังกล่าวได้แสดงความคิดเห็นโดยการโทรศัพท์กลับไป ติชมว่าสิ่งที่ทางเจ้าที่ตำรวจได้ทำบัตรนี้เตือนภัยนั้นมีความคิดเห็นอย่างไร
ซึ่งจากโครงการดังกล่าวน่าจะเป็นประโยชน์ สำหรับประชาชน ทั้งการดูแลทรัพย์สิน รถจักรยานยนต์ ที่พักอาศัยได้เป็นอย่างดี ซึ่งการที่จะป้องกันเหตุร้ายไม่ให้คนร้ายสบโอกาสในการลงมือเจ้าทรัพย์หรือเจ้าของทรัพย์เองก็ต้องมีส่วนในการป้องกันในชั้นแรกด้วย ซึ่งถือว่า โครงการบัติเตือนภัย เป็นโครงการที่ดี ที่ทางผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครปฐม มีแนวีดออกมาอีกโครงการหนึ่ง ซึ่งน่าจะขยายโครงการออกไปยังสถานีตำรวจในสังกัดทุกสถานีต่อไป…
