วันที่ 20 ธันวาคม 2566 พระครูปลัดสิทธิวัฒน์ (หลวงพี่น้ำฝน) เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม อ.เมือง จ.นครปฐม นำคณะสงฆ์และเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ไปเยี่ยมดูอาการ นางแหวน กะลำพัก อายุ 83 ปี ที่หมู่บ้านแสนสุข เลขที่ 107/160 ม.2 ต.นครปฐม อ.เมือง จ.นครปฐม ซึ่งเป็นผู้ป่วยนอนติดเตียง มีการเจ็บป่วยสะโพกหัก เดินไม่ได้ และยังมีโรคคประจำตัวด้วยโรคหัวใจ เบาหวาน ความดัน พร้อมกับได้นำเตียงผู้ป่วย ซึ่งเป็นเตียงที่อยู่ในธนาคารเตียงของวัดไผ่ล้อมไปมอบให้ เนื่องจากได้รับการร้องขอจากหลานสาวว่าไม่สามารถจัดหาเตียงสำหรับผู้ป่วยมาให้คุณยายแหวนได้ใช้ชีวิตหลังจากประสบอุบัติเหตุได้อย่างปกติ ซึ่งนอกจากจะมอบเตียงผู้ป่วย ยังได้มอบปัจจัยส่วนหนึ่งเป็นทุนสำหรับใช้ในการซื้ออุปกรณ์และยาในการรักษาตัวให้กับคุณยายแหวน เพื่อเป็นกำลังใจให้ด้วย
นางลำใย จูจีน อายุ 56 ปี บุตรสาวของคุณยายแหวน บอกว่า รู้สึกประหลาดใจและตกใจที่ช่วงสายบุตรสาวได้โทรมาบอกว่า หลวงพี่น้ำฝน จะเข้ามาเยี่ยมคุณแม่และจะนำเตียงผู้ป่วยมามอบให้ที่บ้าน เมื่อได้พบกันแล้วมีทั้งพระ เจ้าหน้าที่นำเตียงมาให้และมาประกอบให้ใช้งานได้ทันทีทำให้รู้สึกมีกำลังใจมาก ไม่คิดว่าจะได้รับการช่วยเหลือได้เร็วมากซึ่งคุณยายแหวน เพิ่งประสบอุบัติเหตุเมื่อประมาณกลางเดือนธันวาคม ที่ผ่านมาโดยได้เดินแล้วหกล้มในบ้าน จึงได้นำไปส่งโรงพยาบาลนครปฐม ปรากฏว่าแพทย์ได้ลงความเห็นว่าไม่สามารถจะผ่าตัดได้เนื่องจากมีวามเสี่ยงที่จะเป็นอันตราย เพราะมีอายุมากและยังเป็นโรคความดัน เบาหวาน หัวใจ ซึ่งจากนี้คงต้องนอนอยู่บนเตียงไปตลอด
“เรื่องไปขอเตียงลูกสาวเคยประสานไปยังหน่วยงานรัฐแต่ยังไม่มีของจึงได้ประสานไปที่วัดไผ่ล้อม และได้รับเตียงมาจริงๆ และเตียงสำหรับผู้ป่วยมีความจำเป็นมากเนื่องจากคุณแม่ ต้องมีการพลิกตัวป้องกันแผลกดทับและต้องยกตัวเพื่อกินยาหรือยืดกล้ามเนื้อ เตียงที่บ้านที่มีก็ไม่สะดวก วันนี้ตนเองรู้สึกหายป่วยหายเครียดและต้องขอขอบคุณหลวงพี่น้ำฝน ที่ไม่ทอดทิ้งและยังมาด้วยตัวเอง” นางลำใย กล่าว
ขณะที่หลวงพี่น้ำฝน กล่าวว่า ทางวัดไผ่ล้อม มีโครงการธนาคารเตียงและรถเข็น ซึ่งอยู่ในกองทุนหลวงพ่อพูล โดยหลวงพี่น้ำฝน ซึ่งมีการจัดโครงการที่เอาไว้สำหรับดูแลคนที่มีชีวิตและเสียชีวิต โดยเตียงที่ได้รับบริจาคมาจากกองทัพสายบุญของวัดไผ่ล้อม ได้ถูกจัดสรรไปให้กับผู้ป่วยที่จำเป็นต้องใช้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งหากรายใดใช้จบสิ้นแล้วก็จะนำกลับคืนสำหรับส่งต่อให้รายต่อไปได้ไปใช้งาน นี่คือการทำงานส่วนหนึ่งที่วัดไผ่ล้อมทำมาไม่เคยหยุด และเป็นการช่วยโยมที่มีความลำบากและประสบปัญหาของชีวิตในสังคมด้วย
“ครอบครัวนี้ถือว่าดีที่ยังมีการดูแลบุพการี ไม่ทอดทิ้งและพยายามหาหนทางในการดูแลคนในครอบครัว ซึ่งต้องขอชื่นชนในความกตัญญูที่มีอยู่ซึ่งเตียงที่ได้มาในวันนี้ เป็นเตียงของโยมเบ็ญจวรรณ ริทเทอร์ ซึ่งเป็นโยมน้องสาว และเป็นส่วนหนึ่งที่อยู่ในหลายๆคนที่มาร่วมกันทำบุญ ซึ่งการดูแลในเรื่องเกิด แก่ เจ็บและตายก็เป็นภารกิจของวัดไผ่ล้อมที่จะดำเนินต่อไป และขออนุโมทนาบุญกับกองทัพบุญของวัดไผ่ล้อมด้วย” หลวงพี่น้ำฝน กล่าวปิดท้าย
