เจริญพรญาติโยมผู้อ่านทุกท่าน ในปีนี้ก็ถือเป็นวาระโอกาสอันเป็นมงคลสมัยที่เราทั้งหลายผู้เป็นศิษยานุศิษย์ในพระเดชพระคุณหลวงพ่อพูล อตฺตรกฺโข อมตเถราจารย์แห่งเมืองนครปฐมผู้ทรงคุณวิเศษในศีลาจารวัตรและพุทธาคม จะได้ร่วมฉลอง 111 ปี ชาตกาลของพระเดชพระคุณหลวงพ่อพูล นับเป็นโอกาสอันดีที่เราทั้งหลายจะได้ร่วมบูชาระลึกถึงพระเดชพระคุณหลวงพ่อพูลโดยประการต่าง ๆ แม้ท่านจะได้ละสังขารไปนับสิบกว่าปีแล้วก็ตาม
แต่ตำนานก็ยังคงเป็นตำนาน หลวงพ่อพูลยังคงอยู่ในความทรงจำของคนนครปฐม และพี่น้องศิษยานุศิษย์ชาวไทยทั้งใกล้ไกล อีกทั้งในต่างประเทศ เป็นความทรงจำที่เต็มไปด้วยความดีงาม ความอบอุ่นทางใจ ความเป็นครูที่แท้จริง จุดไฟในใจคนฉบับนี้ อาตมาจะพากลับไปย้อนรอยชีวิตของหลวงพ่อพูล อตฺตรกฺโข ปูชนียบุคคลแห่งนครปฐม
พระเดชพระคุณหลวงพ่อพูล หรือพูล ปิ่นทอง เกิดเมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน 2455 หรือเมื่อต้นรัชกาลที่ 6 เป็นบุตรนายจู และนางสำเนียง ปิ่นทอง ท่านเรียนจบถึงชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ตามมาตรฐานของเด็กไทยสมัยนั้น แล้วท่านจึงฝากตัวเรียนวิชาอักษรขอมกับการแพทย์แผนโบราณกับปู่แย้ม ปิ่นทอง ปู่แท้ ๆ ของท่าน นอกจากนี้ท่านได้เรียนวิชาคาถาอาคมต่าง ๆ จากหลวงพ่อจ้อย วัดบางช้างเหนือ หลวงพ่อแช่ม วัดตาแช่มหลวงพ่อกลั่น หลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอม ซึ่งเรียกว่าเป็นสำนักสำคัญของเมืองนครปฐมในสมัยนั้น
นอกจากนี้ นายพูล ปิ่นทอง ยังมีความสามารถเชิงมวย ถือเป็นนักมวยที่มีความสามารถคนหนึ่ง จนถึงกำหนดเกณฑ์ทหาร นายพูลได้เข้ารับการเกณฑ์ทหาร เข้าสังกัดทหารบกเหล่าทหารม้า ประจำการอยู่แถวถนนราชดำเนินนอก สะพานมัฆวานรังสรรค์ ท่านเข้ากรุงอยู่ระยะหนึ่ง ได้ยศสิบตรีกินเงินเดือน 2 บาท จนครบกำหนดปลดประจำการ สิบตรีพูล ปิ่นทองก็กลับคืนบ้านเกิดนครปฐมด้วยความภูมิใจ กลับมาแล้วก็สละโลก เข้าวัดเลย ท่านได้เข้าอุปสมบทเมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม 2480 ณ พัทธสีมาวัดพระงาม นครปฐมมีพระครูอุตตรการบดี (สุข ปทฺวณฺโณ) แห่งวัดห้วยจระเข้ เป็นพระอุปัชฌาย์ จากสิบตรีพูล ปิ่นทอง ก็กลายเป็นพระพูล อตฺตรกฺโข ท่านใช้เวลาศึกษาภาคปริยัติสองปี ก็สอบได้นักธรรมตรีมีภูมิธรรม ท่านจึงมุ่งทางปฏิบัติ โดยได้ให้ความสนใจศึกษาด้านการเจริญจิตภาวนา ฝึกฝนวิปัสสนากรรมฐาน ควบคู่กับการศึกษาวิชาคาถาอาคม ด้วยพื้นฐานความรู้ที่มีอยู่แล้วซึ่งได้รับมอบมาจากปู่แย้ม ปิ่นทอง ทำให้ท่านสามารถเรียนรู้ได้อย่างรวดเร็ว และที่วัดพระงามนี้ ทำให้ท่านได้มีโอกาสฝากตัวเป็นศิษย์ของ หลวงพ่อพร้อมวัดพระงาม ได้รับคำแนะนำสั่งสอนเรื่องการเจริญสมาธิภาวนา การเขียนอักขระเลขยันต์ ปลุกเสกวัตถุมงคล วิชาอาคมต่าง ๆ จากหลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอม หลวงพ่อเงินท่านเมตตาถ่ายทอดอย่างไม่ปิดบัง
เมื่อพระพูล พระหนุ่มผู้เก่งกาจมีความมั่นใจในความรู้ และสามารถปฏิบัติตามพระวินัยข้อสั่งสอนต่าง ๆ จนเป็นที่วางใจแก่ครูบาอาจารย์แล้ว ท่านจึงออกธุดงค์ไปตามป่าเขาลำเนาไพร ฝึกฝนสมาธิจิตของท่านเป็นเวลายาวนาน
กระทั่งถึงปี 2490 วัดใกล้องค์พระปฐมเจดีย์แห่งหนึ่งที่ชื่อ “วัดไผ่ล้อม” ซึ่งมีมาตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 4 ขาดเจ้าอาวาส ไม่ทราบว่าด้วยเหตุผลกลใด ในเวลานั้นพระสงฆ์ที่ได้ตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อมนั้น ต้องสึกสาลาเพศไปหลังจากเป็นเจ้าอาวาสไปไม่นานองค์แล้วองค์เล่า ทำให้ต้องหาพระมาเป็นเจ้าอาวาสแทนอยู่เสมอ พระพูลที่มุ่งปฏิบัติภาวนาอยู่ในเวลานั้นก็ถูกอาราธนาให้มาครองวัดไผ่ล้อมที่กำลังว่างเจ้าอาวาส ท่านก็รับอาราธนา ขึ้นเป็นเจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม แต่ครั้งนี้อาถรรพ์ไม่ซ้ำรอย หลวงพ่อพูลครองวัดไผ่ล้อมมาจนถึงปี 2548 เป็นเวลากว่า 58 ปี
58 ปีดังกล่าวนี้ วัดไผ่ล้อมเกิดความเปลี่ยนแปลงอย่างมหาศาล จากวัดเล็ก ๆ กลางป่าไผ่ กลายเป็นวัดใหญ่ที่ใคร ๆ ก็อยากมา เป็นจุดหมายของผู้ศรัทธาทั้งไกลใกล้ ทุกชนชั้นวรรณะ เป็นหลวงพ่อพูลของประชาชนคนนครปฐม เสนาสนะต่าง ๆ ถาวรวัตถุต่างๆ ถูกสร้างขึ้นด้วยแรงศรัทธาของมหาชนที่มีต่อหลวงพ่อพูล ผ่านวัตถุมงคลต่าง ๆ ที่หลวงพ่อตั้งใจสร้างเพื่อเป็นที่ระลึกในวาระต่าง ๆ พุทธาคมอันวิเศษของท่านร่วมกับจิตศรัทธาของผู้บูชาทำให้วัตถุมงคลเหล่านี้เกิดความศักดิ์สิทธิ์ ให้ผลดังประสงค์ ก็ยิ่งทำให้หลวงพ่อพูลมีชื่อเสียงไปทั่ว ตราบจนท่านได้ละสังขารในวันวิสาขบูชา 22 พฤษภาคม 2548 เวลา 14.55 น. ณ โรงพยาบาลนครปฐม สิริอายุ 92 ปี อยู่ในสมณเพศ 67 พรรษา
มาถึงปีนี้ 2566 ครบ 111 ปี ชาตกาลของหลวงพ่อพูล อาตมาก็ดำริว่าจะจัด “งานวัด” ขึ้น เพื่อส่งมอบความสุขให้กับญาติโยม เพราะตั้งแต่อดีตมา วัดคือทุกอย่างของชุมชนให้ทั้งทางโลก และทางธรรม จะสุขจะทุกข์ก็อยู่ที่วัด โดยจะจัดขึ้นในวันที่ 10-18 พฤศจิกายน 2566 หนึ่งสัปดาห์แห่งความสุข ในรูปแบบของงานวัด โดยจะมีสินค้าราคาถูกมากมายจากโรงงานผู้ผลิตโดยตรงวางจำหน่าย และพบกับการแสดงของศิลปินนักร้อง
วันที่ 10 พฤศจิกายน พบกับ มิน เฉาก๊วย
วันที่ 11 พฤศจิกายน พบกับ แสงดาวพิมมะศรี
วันที่ 12 พฤศจิกายน พบกับ พงษ์สิทธิ์คำภีร์
วันที่ 13 พฤศจิกายน พบกับ เนสกาแฟ ศรีนคร
วันที่ 14 พฤศจิกายน พบกับ ไทรถแห่
วันที่ 15 พฤศจิกายน พบกับ มหาหิงค์
วันที่ 16 พฤศจิกายน พบกับ ลำไย ไหทองคำ
วันที่ 17 พฤศจิกายน พบกับ ก๊อปปี้โชว์ หนุ่มหนุมาน
วันที่ 18 พฤศจิกายน พบกับ โจ๊กเกอร์แฟมิลี่คอนเสิร์ต นำทีม โดยบอลเชิญยิ้ม ตั๊กบริบูรณ์ บ๊อบบี้ 3บาท 50 และคณะ
จึงเจริญพรมาเพื่อประชาสัมพันธ์ และขอเชิญมาร่วมงาน รับความสุข แบ่งปันความสุขร่วมกัน ขอเจริญพร