เมื่อเวลา 09.00 น.วันที่ 13 ก.ย.2566 นายองครักษ์ ทองนิรมล รองผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เป็นประธานการประชุมสรุปผลการคัดเลือกรูปแบบการพัฒนาโครงการ (สัมมนาครั้งที่ 2) โครงการจ้างวิศวกรที่ปรึกษาสำรวจและออกแบบทางหลวง 4 ช่องจราจร บนทางหลวงหมายเลข 4373 สายบ้านหนองหิน – ด่านสิงขร ต.คลองวาฬ อ.เมือง จ.ประจวบฯ ซึ่งจัดขึ้นเป็นครั้งที่ 3 โดยมี นายเศรษฐ์ จันทอาด รองผู้อำนวยการแขวงทางหลวงประจวบคีรีขันธ์ (หัวหิน) กล่าวรายงาน และมี ผู้แทนจากกรมทางหลวง ประกอบด้วย ดร.วศิน รุจิเกียรติกำจร วิศวกรโยธาชำนาญการพิเศษ , นายสุบิน ทองเงิน ผอ.ส่วนกฎหมายและกรรมสิทธิ์ที่ดิน นายสมชาย ปี่แก้ว นายก อบต.คลองวาฬ ผู้แทนหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน ส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ผู้นำท้องที่ ตลอดจนประชาชนในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ เข้าร่วม ที่ห้องสิงขร โรงแรมประจวบแกรนด์ อ.เมือง จ.ประจวบคีรีขันธ์
นายองครักษ์ ทองนิรมล รองผู้ว่าฯ กล่าวว่า ในสมัยก่อนบริเวณด่านสิงขร เป็นเส้นทางที่พ่อค้าและนักเดินทางทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ ใช้เป็นเส้นทางลัดระหว่างมหาสมุทรอินเดียกับอ่าวไทย และจุดนี้ยังเป็นส่วนที่แคบที่สุดของประเทศไทย ปัจจุบันทางหลวงหมายเลข 4373 เป็นทางหลวงเชื่อมระหว่างทางหลวงหมายเลข 4 ไปสู่ด่านสิงขร ด่านชายแดนติดกับประเทศเพื่อนบ้าน สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา ซึ่งแนวเส้นทางมีปริมาณการจราจรเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้ผู้ใช้ทางไม่ได้รับความสะดวกในการเดินทาง ดังนั้น การที่กรมทางหลวง ได้ดำเนินการโครงการสำรวจและออกแบบทางหลวง 4 ช่องจราจร บนทางหลวงหมายเลข 4373 สายบ้านหนองหิน-ด่านสิงขร จึงนับว่าเป็นวิสัยทัศน์ที่ดี เล็งเห็นถึงประโยชน์อันจะเกิดแก่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ โดยเฉพาะการอำนวยความสะดวกแก่พี่น้องประชาชน นักท่องเที่ยว และกลุ่มนักธุรกิจ ที่ต้องการสัญจรไปยังด่านสิงขร
ด้าน นายเศรษฐ์ จันทอาด รอง ผอ.แขวงทางหลวงประจวบฯ (หัวหิน) กล่าวว่า ด่านสิงขร เป็นหนึ่งในเส้นทางที่เชื่อมไปยัง บ้านมูด่อง อำเภอตะนาวศรี จังหวัดมะริด สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา และยังเป็นตลาดการค้าชายแดนระหว่างประเทศ ซึ่งในการเดินทาง จะใช้ทางหลวงหมายเลข 4 ( ถ.เพชรเกษม ) เชื่อมกับทางหลวงหมายเลข 4373 เป็นเส้นทางหลัก ทำให้ปริมาณการจราจรเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ผู้ใช้เส้นทางไม่ได้รับความสะดวกในการเดินทาง ดังนั้น กรมทางหลวง จึงได้ว่าจ้างกลุ่มบริษัทที่ปรึกษา ให้ดำเนินงานบริการด้านวิศวกรรมการสำรวจและออกแบบโครงการจ้างวิศวกรที่ปรึกษาสำรวจและออกแบบทางหลวง 4 ช่องจราจร บนทางหลวงหมายเลข 4373 สาย บ.หนองหิน-ด่านสิงขร
โดยมีวัตถุประสงค์ก็เพื่อนำเสนอข้อมูลความก้าวหน้าของการศึกษาด้านต่างๆ โดยเฉพาะผลการคัดเลือกรูปแบบการพัฒนาโครงการที่เหมาะสม ผลการศึกษาและการดำเนินงานด้านสิ่งแวดล้อม และผลการดำเนินงานด้านการมีส่วนร่วมของประชาชนที่ผ่านมา ให้กลุ่มเป้าหมายที่เกี่ยวข้องได้รับทราบ พร้อมทั้งเปิดโอกาสให้ทุกภาคส่วน ได้ร่วมแสดงความคิดเห็น และข้อเสนอแนะ ที่จะเป็นประโยชน์ต่อการดำเนินงานของโครงการ รวมทั้งรับทราบความห่วงกังวลต่อผลกระทบ ที่คาดว่าจะเกิดขึ้นจากการพัฒนาโครงการ เพื่อให้กรมทางหลวงและคณะผู้ศึกษา ได้นำไปพิจารณาประกอบการศึกษาโครงการให้มีความเหมาะสมต่อไป
สำหรับจุดเริ่มต้นโครงการ ประมาณ กม.0+378 (บริเวณที่ทำการองค์การบริหารส่วนตำบลคลองวาฬ) และจุดสิ้นสุดที่ประมาณ กม.13+378 มีระยะทางประมาณ 13 กิโลเมตร ทั้งนี้ กรมทางหลวง โดยสำนักสำรวจและออกแบบ ได้พิจารณากำหนดเขตทางของโครงการในช่วง กม. 0+378 ถึง กม. 12+400 ความกว้างที่เหมาะสมประมาณ 50 เมตร และช่วง กม. 12+400 ถึง กม.13+378 ซึ่งปัจจุบันเป็นถนนขนาด 4 ช่องจราจรอยู่แล้ว พิจารณาใช้เขตทางเดิมซึ่งปัจจุบันเขตทางบนเส้นทางหลวงหมายเลข 4373 มีขนาดความกว้าง 30 เมตร (เพิ่มฝั่งละ 10 เมตร) สำหรับการกำหนดขนาดของเขตทางนั้น ได้พิจารณาตามลักษณะภูมิประเทศ หลักเกณฑ์ตามมาตรฐานทางวิศวกรรม และจากการหารือร่วมกับหน่วยงานต่างๆที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้มีความสอดคล้องและสามารถรองรับการใช้งานในอนาคต
และจากการพิจารณาคัดเลือกรูปแบบเกาะกลางถนนที่มีความเหมาะสมของโครงการ แบ่งตามลักษณะทางกายภาพของพื้นที่ 2 พื้นที่นั้น สามารถสรุปได้ดังนี้ 1.พื้นที่ในเขตชุมชน ออกแบบเป็นเกาะกลางแบบยก 2.พื้นที่นอกเขตชุมชน ออกแบบเกาะกลางแบบกำแพงคอนกรีต นอกจากนี้ได้มีการออกแบบระบบระบายน้ำ ระบบสาธารณูปโภคและองค์ประกอบอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่ออำนวยความสะดวก และรวดเร็ว พร้อมทั้งคำนึงถึงความปลอดภัย ลดผลกระทบที่จะเกิดกับชุมชนโดยรอบ และตระหนักถึงผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมในแนวสายทางโครงการ
สำหรับขั้นตอนในการดำเนินการต่อไป จะมีการจัดทำรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม เสนอต่อคณะกรรมการพิจารณารายงานฯ (สผ.) และจะมีการออกประกาศ พ.ร.ฎ.เวนคืนที่ดิน และเริ่มก่อสร้างถนนโครงการต่อไป โดยเปิดใช้ 4 ช่องจราจรก่อน ยังไม่ได้เปิดเต็มเขตทาง 50 เมตร โดยจะกันเขตทางเพื่อรองรับรถในอนาคต เมื่อด่านสิงขรเปิดเป็นด่านถาวร //////