พระครูสิริกิตติคุณ เจ้าคณะตำบลสระแก้ว เจ้าอาวาสวัดสังฆจายเถร อ.เมืองสุพรรณบุรี เปิดเผยถึงที่มาการสร้างพระสังกัจจายณ์ว่าได้ร่วมกับชาวบ้าน สร้างพระสังกัจจายน์องค์ใหญ่ขึ้นมา หน้าตักกว้าง 9 เมตร สูง 10 เมตร ทำการหล่อตั้งแต่ปี พ.ศ. 2557 แล้วเสร็จเมื่อปีร 2560 นับเป็นนิมิตหมายที่ดีที่ทางวัดสร้างพระสังกัจจายน์เนื้อโลหะองค์ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย เพื่อให้เป็นเอกลักษณ์ของทางวัด และเพื่อให้พุทธศาสนิกชนได้กราบไหว้ เป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจ แต่หลังจากที่ชาวบ้านมากราบไหว้ขอพร ขอโชคขอลาภ ปรากฏว่าได้ตามที่ขอพรไว้ทั้งเรื่องโชคลาภ หน้าที่การงาน ทำให้มีชาวบ้านและนักท่องเที่ยวเดินทางมากราบไหว้กันไม่ขาดสาย
โดยเฉพาะก่อนวันหวยออก อย่างไรก็ตามอยากเดินทางขอพรมากราบไหว้ เพื่อความสบายใจ แต่อย่ามัวเมาลุ่มหลงกับหวยให้มากนัก อยากให้ทุกคนประกอบอาชีพ ขยัน ชื่อสัตย์ ถ้าเราคิดดี พูดดี ทำดี ก็ไม่ต้องขอโชคขอพรกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ไหน โชคลาภจะมาหาเราเอง และเป็นที่เชื่อกันว่าใครมากราบไหว้ขอพรพระสังกัจจายน์ ที่อุดมไปด้วยโชคลาภ เป็นผู้ที่เเปี่ยมไปด้วยเมตตามหานิยม จะส่งผลโชคลาภเงินทองไหลมาเทมาไม่ขาดสายแก่ญาติโยมที่มาขอพรขอโชคลาภ เพราะพระสังกัจจายน์เป็นพระอรหันต์องค์หนึ่งในพระพุทธศาสนาที่เป็นสาวกของพระพุทธเจ้าจำนวน 80 องค์ ที่บันดาลซึ่งโชคลาภ
พระครูสิริกิตติคุณ กล่าวต่อว่าขณะนี้นอกจากทางวัดได้เปิดให้ญาติโยมมาไหว้พระตอนกลางวันที่มีอากาศร้อนแล้ว ทางวัดยังเปิดให้มาไหว้พระตอนกลางคืนอีกด้วยจนถึงเวลา 22.00 น. และยังมีตลาดนัดกลางคืนให้ญาติโยมได้มาจับจ่ายซื้อของรับประทาน ที่สำคัญขณะนี้ที่กำลังเป็นที่นิยมแก่นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างประเทศ เดินทางชมหิ่งห้อยที่ลำน้ำท่าว้าหลังวัดสังฆจายเถร กันจำนวนมาก ซึ่งก่อนหน้านี้ชาวบ้านเห็นกันจนชินตา แต่ไม่ได้มีการผลักดันให้เป็นแหล่งท่องเที่ยว แต่ขณะนี้โดยได้รับการผลักดันให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวจาก บ.ชมเดือน คอมเพล็กซ์ฯมาช่วย เพื่อให้ชาวบ้านในพื้นที่มีรายได้จากนักท่องเที่ยว ฉะนั้นเมื่อมาไหว้พระในภาคกลางคืนแล้วยังได้ลงเรือชมหิ้งห้อยอีกด้วย
ด้าน น.ส.หนึ่งฤทัย หนูสวัสดิ์ ชาว อ.เมืองสุพรรณบุรี กล่าวว่า หลังทราบที่วัดมีสังกัจจายน์องค์ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ตนจึงมาร่วมทำบุญ และขอพรกระทั่งสิ่งที่ขอไว้สำเร็จตนจึงเดินทางมากราบไหว้ขอพรเป็นประจำ และมาชมหิ่งห้อยต้องบอก อเมซิ่งมาก มีหิ่งห้อยจำนวนมากจริงๆดูสวยงามส่องแสงในยามค่ำคืน