รมว.เกษตรและสหกรณ์ลงพื้นที่ชัยนาทติดตามโครงการไทยนิยมยั่งยืนพร้อมชี้แจงมาตรการช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกข้าวนาปี

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ลงพื้นที่ จ.ชัยนาท ติดตามการใช้งบประมาณตามโครงการไทยนิยมยั่งยืนของสหกรณ์การเกษตรมโนรมย์ จำกัด พร้อมชี้แจงมาตรการช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกข้าวปีกับตัวแทนสหกรณ์ 190 แห่ง จาก 23 จังหวัดภาคกลางและภาคเหนือตอนล่างหวังใช้กลไกสหกรณ์ช่วยชะลอปริมาณข้าวเปลือกล้นตลาด พยุงราคาข้าวไม่ให้ตกต่ำ บรรเทาความเดือดร้อนของเกษตรกร

นายกฤษฎา บุญราช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เดินทางลงพื้นที่จังหวัดชัยนาท ตรวจเยี่ยมการดำเนินงานตามนโยบายของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ตามโครงการไทยนิยม ยั่งยืนของสหกรณ์การเกษตรมโนรมย์ จำกัด ซึ่งสหกรณ์แห่งนี้มีสมาชิกทั้งหมด 8,000 ราย ส่วนใหญ่ประกอบอาชีพด้านการเกษตรโดยเฉพาะการทำนา พื้นที่ปลูกข้าวของสมาชิกสหกรณ์มีประมาณ 70,000 ไร่ ปริมาณข้าวเปลือกที่สหกรณ์รวบรวมจากสมาชิกมีจำนวนทั้งสิ้น 50,000 ตันต่อปี โดยสหกรณ์ได้แบ่งข้าวเปลือกส่วนหนึ่งไว้สำหรับแปรรูปเป็นข้าวสารปีละ 170 ตัน

ล่าสุด สหกรณ์การเกษตรมโนรมย์ จำกัด ได้รับอนุมัติเงินอุดหนุนกลางปีจากโครงการไทยนิยม ยั่งยืน จำนวน 20 ล้านบาท และสหกรณ์ได้สมทบเพิ่มเติมอีกจำนวน 2 ล้านบาท เพื่อสร้างโกดังเก็บผลผลิต ขนาด 7,000 ตัน จำนวน 2 แห่ง เนื่องจากโกดังเก่ามีสภาพทรุดโทรมเมื่อฝนตกลงมาทำให้ข้าวเสียหาย สหกรณ์จึงต้องสร้างโกดังใหม่มารองรับผลผลิต ซึ่งข้อดีของโกดังที่ได้รับเงินอุดหนุนจากโครงการไทยนิยม ยั่งยืนที่สหกรณ์ได้รับ มีขนาด 7,000 ตัน ทำให้สหกรณ์ฯมีความพร้อมในการบริการสมาชิก สามารถรวบรวมข้าวเปลือกเจ้ามาเก็บสต๊อกไว้เพื่อรอเข้าสู่โรงสีแปรรูปเป็นข้าวเปลือกเพื่อเพิ่มมูลค่า ทำให้สมาชิกมีความพึงพอใจกับการนำข้าวเปลือกมาขายให้กับสหกรณ์ เพราะนอกจากจะได้รับค่าข้าวเป็นเงินสดแล้ว สหกรณ์ยังซื้อข้าวจากสมาชิกในราคาที่เป็นธรรม จึงทำให้สมาชิกนำข้าวมาจำหน่ายให้กับสหกรณ์เป็นจำนวนมาก

โดยนายกฤษฎา บุญราช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า การลงพื้นที่ครั้งนี้มาติดตามโครงการไทยนิยมยั่งยืน ในส่วนของกระทรวงเกษตรฯ ได้มอบหมายให้กรมส่งเสริมสหกรณ์อุดหนุนเงินงบประมาณจำนวนกว่า 1,000 ล้านบาท มายังสหกรณ์การเกษตรต่างๆ เพื่อสนับสนุนให้สหกรณ์การเกษตรสร้างที่เก็บผลผลิต หรือสถานที่แปรรูป สำหรับสหกรณ์การเกษตรมโนรมย์ที่จังหวัดชัยนาท ได้รับการสนับสนุนมาประมาณ 20 ล้านบาท เพื่อก่อสร้างโกดังเก็บข้าว 2 แห่ง จากการติดตามในวันนี้ ผลการก่อสร้างแล้วเสร็จกว่าร้อยละ 90 คาดว่าจะแล้วเสร็จตามสัญญา ทั้งนี้ จากการสอบถามประธานสหกรณ์การเกษตร และผู้จัดการสหกรณ์การเกษตรมโนรมย์ ว่ามีการเรียกรับเงินทอนหรือไม่นั้น ได้รับการยืนยันว่าไม่มี และอีกประเด็นหนึ่งที่มาติดตามคือมาตรการช่วยเหลือชาวนา อาทิ โครงการชะลอขายข้าวเปลือก และการช่วยเหลืองเงินทุนการทำนา ปรากฏว่าที่ชัยนาทได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก สิ่งหนึ่งที่สมาชิกสหกรณ์การเกษตรเรียกร้อง จาก มติ ครม.ที่ให้พักชำระหนี้ลูกค้า ธ.ก.ส.นั้น จึงมีการเรียกร้องขอให้พักชำระหนี้สมาชิกสหกรณ์การเกษตรเหมือนกัน ในเรื่องนี้จะรับข้อเสนอไปพิจารณาโดยต้องไปหารือกระทรวงการคลังให้ชัดเจนอีกครั้ง

จากนั้นเดินทางต่อไปยังโรงแรมแฟนตาซี รีสอร์ท อำเภอเมือง จังหวัดชัยนาท เพื่อรับฟังผู้ว่าราชการจังหวัดชัยนาท รายงานสถานการณ์การผลิตสินค้าเกษตรภายในจังหวัดชัยนาท และกล่าวเปิดการประชุมเชิงปฏิบัติการมาตรการช่วยเหลือและรักษาเสถียรภาพราคาข้าว ปีการผลิต 2561/62 และบรรยายพิเศษในหัวข้อนโยบายของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เกี่ยวกับมาตรฐานช่วยเหลือและรักษาเสถียรภาพราคาข้าว ร่วมกับตัวแทนสหกรณ์การเกษตรในพื้นที่ภาคกลางและภาคเหนือตอนล่าง 190 แห่ง จาก 23 จังหวัด ในการเตรียมการรองรับการเก็บสต็อกข้าวตามนโยบายรัฐบาล

สำหรับข้าวนาปีในฤดูการผลิต ปี 2561/62 กรมส่งเสริมสหกรณ์ได้เตรียมความพร้อมให้สหกรณ์โดยการสนับสนุนงบประมาณอุดหนุนจากรัฐภายใต้โครงการไทยนิยม ยั่งยืน ในการก่อสร้างปัจจัยพื้นฐานเพื่อจัดเก็บข้าวเปลือก โดยวางเป้าหมายที่จะดำเนินการรวบรวมข้าวเปลือกเพิ่มขึ้นเป็น 2 ล้านตัน แบ่งเป็นการรวบรวมเพื่อแปรรูป ประมาณ 70,000 ตัน และรวบรวมเพื่อจำหน่าย จำนวน 1.93 ล้านตัน ซึ่งในส่วนนี้จะมีการเก็บรวบรวมเพื่อชะลอการจำหน่ายประมาณ 529,500 ตัน

วรชล  ฟักขาว  ภาพ/ข่าว  จ.ชัยนาท  รายงาน