วัดไผ่ล้อม เชิญศิษยานุศิษย์ พุทธศาสนิกชน ร่วมพิธีเททองหล่อพระองคุลีมาลเถระเนื่องในโอกาสอายุวัฒนะมงคล หลวงพี่น้ำ 50 ปี เพื่อเป็นอนุสรณ์ให้เป็นแบบอย่างสำหรับนำมาเป็นหลักสำหรับชีวิตในการกลับตัวกลับใจ ประพฤติตัวเป็นคนดี เลิกข้อเกี่บวกับสิ่งไม่ดีทั้งปวง วันอาทิตย์ ที่ 12 มิถุนายน 65 เวลา 17.45 น. นี้
วันนี้ 6 มิถุนายน 2565 วัดไผ่ล้อม ต.พระปฐมเจดีย์ อ.เมือง จ.นครปฐม ได้เชิญชวนศิษยานุศิษย์ พุทธศาสนิกชนเข้าร่วมเขียนแผ่นทองและเททองหล่อพระองคุลีมาลเถระซึ่งเป็นพระเนื้อทองเหลือง สูง 3 เมตรซึ่งมีรูปหล่อองค์จำลององคุลีมาล ความสูง 1 เมตรยืนอยู่เคียงข้าง ซึ่งจะมีการนำมาประดิษฐานไว้ที่วัดไผ่ล้อม เพื่อเป็นอนุสรณ์ สำหรับเตือนสติให้กับประชาชนที่กำลังหลงผิดหรือเคยหลงผิดได้ละ ละ เลิกจากสิ่งไม่ดีทั้งปวงตามรอยพระองคุลีมาลเถระ ซึ่งได้จัดสร้างขึ้นเนื่องในวาระอายุวัฒนะมงคลพระครูปลัดสิทธิวัฒน์ หลวงพี่น้ำฝน เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม อายุ 50 ปี โดยกำหนดในวันที่ 12 มิถุนายน 65 เวลา 17.45 น. ที่จะถึงนี้
พระครูปลัดสิทธิวัฒน์ หลวงพี่น้ำฝน เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม เผยว่า การจัดสร้างพระองคุลีมาลเถระ เป็นแนวคิดที่ได้เห็นการเปลี่ยนแปลงในสังคมมากขึ้น ยิ่งหลังจากช่วงแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ซึ่งเกิดเป็นวิกฤติการณ์โลก ทำให้ประชาชนแทบจะทุกครัวเรือนได้รับผลกระทบที่เกิดขึ้น และสังคมมีความรุนแรงและมีความเห็นแก่ตัวมากขึ้นบางคนพลาดพลั้งถึงกับต้องกลับกลายเป็นไปนักโทษ บางคนตกเป็นเหยื่อเสียทรัพย์และถึงเสียชีวิต สิ่งเหล่านี้คือปัญหาที่ได้เห็นจากประสบการณ์และการที่ญาติโยมเข้ามาปรึกษาเพื่อขอแนวคิดสำหรับเป็นทางออกของชีวิต
หลวงพี่น้ำฝน กล่าวว่า อาตมาได้เล็งเห็นว่าแนวโน้มของสังคมทั้งผู้คนและสังคม ต้องต่อสู้กับการดำเนินชีวิตที่ยากลำบากขึ้น บางคนที่เคยกระทำผิดคิดได้ก็สายไปแล้ว บางรายยังหลงผิดอยู่ ซึ่งหลายคนสามารถกลับตัวกลับใจได้ แต่หลายคนก็ยังเดินเข้าออกในเรือนจำบ่อยครั้ง และยังมีอีกมากที่ยังคงหลงผิดอยูกับการอยู่ร่วมกันในสังคม ซึ่งหากย้อนกลับไปสมัยพุทธกาล องคุลีมาล เป็นคนที่มากความรู้ความสามารถ มีความเชี่ยวชาญแต่ได้รับการสั่งสอนจากครูบาอาจารย์ที่ผิดๆ กว่าจะรู้ตัวก็ฆ่าคนไปเกือบจะครบ 1,000 คนแล้ว แต่เมื่อได้มาพบกับองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า และได้ฟังเพียงประโยคเดียว ทำให้เกิดสติและกลับตัวและขอบวชตามรอยพระพุทธองค์ จนสำเร็จเป็นพระอรหันต์ได้ นี่คือสิ่งที่เตือนสติให้กับผู้คนที่หลงผิดได้ และสามารถเป็นสิ่งเตือนใจกับผู้คนได้ทุกยุคทุกสมัย
“หลังจากมีการคลายล๊อคดาวน์ อาตมาได้ร่วมกับเรือนจำกลางนครปฐม ในการเข้าไปบรรยายธรรมให้กับผู้ที่ถูกจำกัดอิสระภาพ ซึ่งหลายคนมีอาการเครียด หลายคนมีความสำนึกอยากกลลับตัวกลับใจแต่ก็กลัวสังคมไม่ยอมรับหรือหลายๆคนออกไปแล้วพยายามทำดีแต่ก็ยังต้องต่อสู้กับการยอมรับในสังคม ซึ่งพระองคุลีมาลเถระ สิ่งที่จะแสดงให้เห็นถึงความตั้งใจที่จะกลับตัวกลับใจ อาตมาตั้งใจทำสิ่งนี้เพื่อให้สังคมเปิดใจรับกับเขาเหล่านั้นและคนที่หลงผิดควรเห็นแบบอย่างดีที่ วัดไผ่ล้อมก็ทำหน้าที่เช่นนี้ควบคู่ไปกับการช่วยเหลือสังคมในด้านต่างๆไปด้วย” หลวงพี่น้ำฝน กล่าวปิดท้าย