น.ส.รัชดา นุ่มหอม อายุ 47 ปี บ้านเลขที่ 51/1 หมู่ 12 ต.บางขุด อ.สรรคบุรี จ.ชัยนาท เกษตรกรมือใหม่ที่ผันตัวลาออกจากสาวโรงงานพร้อมหนี้สินกว่า 2 ล้านบาท เมื่อ 3 ปีก่อน มาทำเกษตรผสมผสาน ตามแนวทางปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของในหลวงรัชกาลที่ 9 และเลี้ยงแพะขุนในโรงเรือนระบบปิด แห่งแรกของจังหวัดชัยนาท ชื่อตรีชฎาฟาร์ม รวมทั้งเป็นผู้นำในการทำการเกษตร “แปลงใหญ่แพะเมืองสรรค์” พร้อมเปิดเป็นศูนย์เรียนรู้ด้านปศุสัตว์ ตามรอยพ่อหลวงอยู่อย่างพอเพียง ล่าสุด ปลดหนี้แล้วกว่า 5 แสนบาท
น.ส.รัชดา นุ่มหอม กล่าวว่า ก่อนหน้านี้เคยทำงานโรงงานมินิแบ ที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา มีอาชีพเสริมคือออกเงินกู้ แต่ถูกโกงทำให้มีหนี้สินกว่า 2 ล้านบาท จึงลาออก มาอยู่กับพ่อแม่ ได้เงินมาก้อนหนึ่งซื้อรถ 6 ล้อมา 1 คัน ให้แฟนรับจ้างขนส่งข้าวเปลือก ช่วงนั้นข้าวแพงราคากว่าหมื่นบาท และทำนาด้วย พออยู่ได้ ต่อมาราคาข้าวเริ่มถูกลงทำให้ชาวนาไม่มีเงินจ้างรถ 6 ล้อ ทำให้ไม่มีงานเข้ามา ชีวิตต้องพลิกผันอีกครั้ง และคิดว่าจะทำอะไรดี
ต่อมาได้มีโอกาสเดินทางไปดูงานโครงการตามแนวพระราชดำริช่างหัวมันตามพระราชดำริ จังหวัดเพชรบุรี จึงจุดประกายความคิดจากแนวทางของในหลวงรัชกาลที่ 9 ว่าเราน่าจะทำแบบนี้บ้าง ถ้าทำแบบนี้เราจะต้องรอดแน่ๆ หลังจากกลับมาได้เริ่มปรับพื้นที่นา 12 ไร่ มาทำเกษตรผสมผสาน ตามแนวพระราชดำริ และเข้าร่วมโครงการเกษตรทฤษฎีใหม่ของจังหวัดชัยนาท ทำให้ได้รับความรู้จากเกษตรจังหวัด ประมงจังหวัด ปศุสัตว์จังหวัด รวมทั้งได้รับการสนับสนุนพันธุ์ปลา พันธุ์สัตว์ ทั้ง เป็ด ไก่ แพะ หลังผ่านไป 3 ปี ขณะนี้หนี้สินจาก 2.5 ล้านบาท เหลือหนี้ 2 ล้านบาท มองว่าหนี้ยังเหลืออีกจำนวนมากแต่ไม่เครียดเหมือนเมื่อก่อนแล้ว เพราะเรามองเห็นหนทางที่จะหาเงินมาใช้หนี้
จากประสบการณ์ของตนเอง อยากจะบอกว่า การที่เราเป็นหนี้บางครั้งก็พลาดจากที่เราไว้ใจคนมากเกินไป ทำให้เราถูกโกงและเป็นหนี้ ปัญหาต่างๆตามมามากมาย ครอบครัวเกือบแตกแยก ถ้าเรามีแนวทางและมีสติพอ ที่จะแก้ไขปัญหานั้น สำหรับตนเองใช้ธรรมะเป็นสิ่งยึดเหนี่ยว โดยเข้าวัด สวดมนต์ ถือศีล ฟังเทศน์ โดยเฉพาะคติชีวิต รวมทั้งสิ่งที่ทำให้เรามีกำลังใจ และมีสติ
หากเรามัวแต่คิดว่าเมื่อไรหนี้จะหมด แต่ไม่ลงมือทำอะไรเลย หนี้ไม่หมดอย่างแน่นอน สิ่งสำคัญคือเราต้องมีสติ หาแนวทาง ทำอย่างไรที่จะหาเงินมาใช้หนี้ก้อนนั้นให้ได้ แล้วต้องลงมือทำจริงด้วย ต้องปักจิต มุ่งมั่น ขยันทำอย่างจริงจัง อย่างที่ตนทำ มองว่าเดินมาถูกทางแล้ว จะเดินทางแนวทางพ่อหลวงรัชกาลที่ 9 ตามแนวเศรษฐกิจพอเพียง เกษตรทฤษฎีใหม่ รู้สึกภูมิใจที่ห้วงเวลา 3 ปีสามารถทำได้ขนาดนี้ สำหรับแนวคิดประจำใจ คือ มุ่งมั่นทำในสิ่งที่ถูกต้อง โดยไม่ทำให้ใครเดือดร้อน เชื่อในผลบุญ ที่เราเป็นผู้ให้ก่อน แล้วสิ่งนั้นจะสะท้อนกลับมาหาเราเอง
ทั้งนี้ ผู้สนใจติดต่อเข้าศึกษาดูงานการทำการเกษตร “แปลงใหญ่แพะเมืองสรรค์” และ ศูนย์เรียนรู้ด้านปศุสัตว์ ตามรอยพ่อหลวงอยู่อย่างพอเพียง ได้ที่ นายพยับ บุญปลูก ปศุสัตว์อำเภอสรรคบุรี โทรศัพท์ 081-962-6609
วรชล ฟักขาว ภาพ/ข่าว จ.ชัยนาท 088-4335013