วันนี้(30 เม.ย.65) ที่อาคารวิทยบริการ มหาวิทยาลัยการกีฬาแห่งชาติ วิทยาเขตสุพรรณบุรี นายสรชัด สุจิตต์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดสุพรรณบุรี เขต 1 เป็นประธานเปิดการแข่งขันเซปักตะกร้อ “ตะกร้อ ไทยแลนด์ ลึก” ดิวิชั่น 1 (ชาย) ประจำปี 2565 พร้อมกล่าวขอบคุณคณะกรรมการจัดการแข่งขันฯ ที่ได้ร่วมกันสนับสนุนจนทำให้การแข่งขันดังกล่าวขึ้น เพื่อส่งเสริมและพัฒนากีฬาตะกร้อให้ได้มาตรฐานสากลและแพร่หลายมากยิ่งขึ้นทั้งในระดับนานาชาติและระดับโลก สำหรับการพัฒนากีฬาอาชีพให้พัฒนาได้อย่างมีมาตรฐานและยั่งยืนนั้น ต้องได้รับความร่วมมือจากทุกฝ่ายอย่างเข็มแข็งเพื่อให้กีฬาอาชีพเติบโตต่อไปได้ด้วยตนเอง โดยเฉพาะสโมสรตะกร้ออาชีพ และเชื่อมั่นในศักยภาพของทุกสโมสรที่มีความตั้งใจ มุ่งมั่นที่จะเป็นสโมสรตะกร้ออาชีพโดยสมบูรณ์แบบ พึ่งพาตนเองได้ สร้างอาชีพ สร้างรายได้ อย่างยั่งยืนและถาวร
ด้าน นายเกรียง นักพาณิชย์ นายกสมาคมกีฬาแห่งจังหวัดสุพรรณบุรี กล่าวเพิ่มเติมว่าการแข่งขัน “ตะกร้อไทยแลนด์ ลึก” ดิวิชั่น 1 (ชาย) ประจำปี2565 จัดขึ้นระหว่างวันที่ 30 เมษายน – 20 สิงหาคม 2565 เพื่อส่งเสริมและพัฒนากีฬาตะกร้อตามมาตรฐานสากล ตลอดจนพัฒนาสมรรถภาพและความสามารถของนักกีฬาให้สูงขึ้น และมีนักกีฬาจำนวนมากขึ้น ก้าวไปสู่นักตะกร้ออาชีพ ที่ยังคงเอกลักษณ์กีฬาตะกร้อ ทั้งในระดับนานาชาติและระดับโลก
ขณะที่นายวิทยา บุณยพัชรินทร์ ประธานสโมสรตะกร้อสุพรรณบุรี กล่าวในนามผู้จัดการทีม ว่า การแข่งขันระหว่างทีม “ช้างศึก สุพรรณบุรี” เสมอ ทีม “พญาไก้ฟ้า แพร่” 1 – 1 ทีม แบ่งกันไปทีมละ 1 แต้ม ซึ่งเป็นที่น่าพอใจด้วยเหตุที่สุพรรณบุรี เป็นรองทีม “พญาไก้ฟ้า แพร่” จากความมุ่งมั่นที่จะพัฒนาการกีฬาของจังหวัดสุพรรณบุรี ให้มีความก้าวไกลอันนำไปสู่ตลาดนักกีฬาอาชีพ นายบุญชู จันทร์สุวรรณ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสุพรรณบุรี ผู้บริหารท้องถิ่นที่มีหัวใจเต็มร้อยให้กับการกีฬาของจังหวัดสุพรรณบุรี ได้เล็งเห็นโอกาสที่จะสร้างมูลค่าให้แก่นักกีฬา
ซึ่งเป็นลูกหลานชาวจังหวัดสุพรรณบุรีจากปณิธานและความมุ่งมั่นดังกล่าวจึงนำไปสู่การปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรม จึงได้จัดโครงการกีฬาเยาวชนเงินล้านขึ้น ซึ่งในการจัดการแข่งขัน”ตะกร้อไทยแลนด์ ลีก” ดิวิชั่น 1 (ชาย) ประจำปี 2565 ครั้งนี้ เป็นอีกชนิดกีฬาหนึ่งที่จะเป็นแนวทางในการพัฒนากีฬาเยาวชนเงินล้านของจังหวัดสุพรรณบุรี เพื่อเป็นกีฬาอาชีพต่อไป และขอเชิญชวนชาวสุพรรณบุรีและชาวไทยทั่วประเทศร่วมส่งกำลังใจนักกีฬาและชมการถ่ายทอดสดทาง Mono Max ตลอดการแข่งขัน
การแข่งขันในครั้งนี้มีทีมเข้าร่วมการแข่งขัน 7 ทีม ประกอบด้วย
- ทีมสโมสรตะกร้อพิษณุโลก ไกรสรราชสีห์
- ทีมสโมสรตะกร้อแพร่สมาคมกีฬาแห่งจังหวัดแพร่
- ทีมสโมสรตะกร้อจังหวัดศรีสะเกษ
- ทีมสโมสรตะกร้ออำนาจเจริญ
- ทีมสโมสรตะกร้อชลบุรี เกาะจันทร์แคมป์
- ทีมสโมสรตะกร้อหนองคายนาคาผยอง
- ทีมสโมสรตะกร้อสุพรรณบุรี
สำหรับทีมที่ชนะเลิศจะได้รับเงินรางวัลการแข่งขัน ดังนี้
อันดับ 1 เงินรางวัล 1,500,000.- บาท
อันดับ 2 เงินรางวัล 1,000,000- บาท
อันดับ 3 เงินรางวัล 600,000.- บาท
อันดับ 4 เงินรางวัล 400,000- บาท