วันศุกร์ ที่ 15 เมษายน 2565 เวลา 13.00 น. พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผบช.ภ.7 พร้อมด้วย
พล.ต.ต.อภิชาติ วรรณภักดิ์ ผบก.ภ.จว.สมุทรสาคร
พ.ต.อ.พัฒน์ปกรณ์ ชั้นประเสริฐ รอง ผบก.ภ.จว.สมุทรสาคร
พ.ต.อ.ศักดิ์ชัย อินทรปรีชา รอง ผบก.ภ.จว.สมุทรสาคร
พ.ต.อ.ธนากร วงศ์สิริลักษณ์ ผกก.สภ.เมืองสมุทรสาคร
พ.ต.อ.เชิดศักดิ์ รอดเข็ม ผกก.สส.2 ภ.7
พ.ต.อ.ยอดชาย แก้วเรือง ผกก.สส.ภ.จว.สมุทรสาคร
และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง
ได้ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุมตัวผู้ต้องหาตามหมายจับ จำนวน 1 ราย ซึ่งก่อเหตุอุกฉกรรจ์สะเทือนขวัญใช้อาวุธปืนยิงผู้อื่นมีผู้เสียชีวิต 3 ราย คือ นายธีรเมศร์ แก้วหะอายุ 55 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดสมุทรสาคร ที่ จ.88/2565 ลงวันที่ 8 เม.ย. 65 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา, มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และพาอาวุธปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต”
พร้อมตรวจยึดของกลาง
1. รถจักรยานยนต์ ฮอนด้าเวฟ 100 สีเทา ทะเบียน กบค 270 สมุทรสาคร จำนวน 1 คัน(รถที่ใช้ก่อเหตุและหลบหนี)
โดยแจ้งข้อกล่าวหาตามหมายจับให้ทราบว่า “ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา, มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และพาอาวุธปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต”
พฤติการณ์กล่าวคือ
เมื่อวันที่ 8 เม.ย. 65 เวลาประมาณ 11.30 น. สภ.เมืองสมุทรสาคร รับแจ้งมีคนร้ายก่อเหตุใช้อาวุธปืนยิงผู้อื่นเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ จำนวน 3 ราย เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รวบรวมพยานหลักฐานสอบถามผู้เห็นเหตุการณ์ทราบว่าผู้ก่อเหตุคือ นายธีรเมศร์ แก้วหะ ที่ใช้อาวุธปืนยิงผู้เสียชีวิตทั้ง 3 ราย แล้วขับขี่รถจักรยานยานต์หลบหนีไป
จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดพบภาพคนร้ายขับขี่รถจักรยานยนต์คันก่อเหตุหลบหนีไป จึงรวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติศาลออกหมายจับ ซึ่งศาลจังหวัดนครปฐมอนุมัติหมายจับที่ จ.88/2565 ลงวันที่ 8 เม.ย. 65 เจ้าหน้าที่ตำรวจได้สืบสวนติดตามติดตามคนร้ายตามเส้นทางหลบหนีทราบ ทราบว่าคนร้ายหลบหนีทิ้งรถจักรยานยนต์คันก่อเหตุไว้บริเวณ ซ.พัฒนา 3 ต.หญ้าแพรก อ.เมืองสมุทรสาคร จ.สมุทรสาคร จึงได้สืบสวนติดตามจนทราบว่าคนร้ายหลบหนีไปพักอาศัยในพื้นที่จังหวัดกรุงเทพฯ จึงได้สืบสวนกดดันคนร้ายจนกระทั้งสามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาได้บริเวณพื้นที่ ต.บางน้ำจืดอ.เมืองสมุทรสาคร จ.สมุทรสาคร นำตัวผู้ต้องหา พร้อมของกลางนำส่ง พงส.สภ.เมืองสมุทรสาคร เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ทั้งนี้ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้องรวบรวมพยานหลักฐานในคดีให้รอบคอบ เพื่อให้สามารถดำเนินคดีลงโทษผู้กระทำผิดและผู้เกี่ยวข้องได้จนถึงที่สุด รวมถึงสืบสวนขยายผลถึงผู้ให้ความช่วยเหลือ ให้ที่พำนักผู้กระทำความผิดให้ให้ถูกจับกุม ตามคติที่ว่า “คนดีต้องอยู่เย็นเป็นสุข คนร้ายต้องอยู่ร้อนนอนทุกข์”
ซึ่งการจับกุมผู้ต้องหาในครั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ยึดหลักการทำงานแบบ “กัดไม่ปล่อย ล่าไม่ถอย คอยไม่เลิก” จนสามารถจับกุมผู้กระทำความผิดได้ในระยะเวลาอันรวดเร็ว เพื่อสร้างความเชื่อมั่นในชีวิตและทรัพย์สินให้แก่พี่น้องประชาชน
ในนามของสำนักงานตำรวจแห่งชาติและตำรวจภูธรภาค 7 ได้ฝากถึงประชาชนว่าตำรวจทำงานอย่างเต็มที่ และขอชมเชยเจ้าหน้าที่ที่มีส่วนเกี่ยวข้องทุกท่าน ที่ได้ทำงานด้วยความวิริยะ อุตสาหะ เสียสละ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้สังคมส่วนรวม และขอให้รักษาความดีนี้ไว้สืบต่อไป