วันที่ 28 มีนาคม พ.ศ.2565 ณ โรงพยาบาลนครปฐม มูลนิธิเอสซีจี ผสานพลังความร่วมมือหอการค้าจังหวัดนครปฐม และมูลนิธิไทยพีบีเอส มอบนวัตกรรมห้องชันสูตรความดันลบ (Modular Autopsy) แห่งแรกในไทย มูลค่า 5.17 ล้านบาท ปกป้องบุคลากรทางการแพทย์ให้ปลอดภัยจากโควิด 19 ขณะตรวจวินิจฉัยร่างผู้เสียชีวิต และเตรียมพร้อมรับมือกับโรคอุบัติใหม่ในอนาคต
ดร.พญ.ดารารัตน์ รัตนรักษ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลนครปฐม เปิดเผยว่า โรงพยาบาลนครปฐมเป็นโรงพยาบาลศูนย์ขนาดใหญ่ มีประชากรในเขตพื้นที่รับผิดชอบประมาณ 7 แสนคนโดยแต่ละวันมีผู้ป่วยกลุ่มเสี่ยงเข้ามารับการตรวจกว่า 700-1,000 ราย และเช้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลขณะนี้ 96 ราย โดยมีสถิติผู้เสียชีวิตที่ติดเชื้อโควิด 19 จำนวน 408 ราย นอกจากนี้ ยังมีศพผู้เสียชีวิตทางคดี 600-732 รายต่อปี ซึ่งบางรายอาจมีเชื้อโควิด 19 ทำให้เจ้าหน้าที่ไม่สามารถทำการผ่าชันสูตรศพได้ด้วยก่อนหน้านี้ โรงพยาบาลไม่มีห้องชันสูตรที่ได้มาตรฐานและปลอดภัยต่อบุคลากรทางการแพทย์ “ห้องชันสูตรความดันลบ (Modular Autopsy) ที่ได้รับมอบจากมูลนิธิเอสซีจีและหอการค้าจังหวัดนคปฐมนี้ เป็นระบบความดันลบและมีระบบการระบายอากาศที่หมาะสม นอกจากช่วยลคอัตราเสี่ยงต่อการติดเชื้อ COVID-19 แล้ว ยังเพิ่มศักยภาพในการขยายการให้บริการชันสูตรสพกับจังหวัดนครปฐมและจังหวัดใกล้เคียง ลดภาระงานของโรงเรียนแพทย์ รวมถึงต่อยอดการศึกษาวิจัยเกี่ยวกับโรคโควิด 19 และโรคอุบัติใหม่ในอนาคต“
คุณวิชัย โกสมนึก ประธานหอการค้าจังหวัดนครปฐม กล่าวว่า “หอการค้าจังหวัดนครปฐม ห่วงใยในความปลอดภัยของบุคลากรทางการแพทย์ จึงได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการระดมทุนจากเพื่อนสมาชิกหอการค้าฯ และพี่น้องชาวนครปฐม เป็นงบประมาณทั้งสิ้น 2.17 ล้านบาท เพื่อสนับสนุนการสร้างนวัตกรรมห้องชันสูตรความดันลบดังกล่าว โดยความสำเร็จนี้จะเกิดขึ้นไม่ได้หากปราศจากความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ ภาคประชาสังคม ภาคธุรกิจ และ ภาคประชาชน ในการร่วมสนับสนุนทั้งแรงใจ แรงกาย และทุนทรัพย์ พร้อมกันนี้ หอการค้าจังหวัดนครปฐม ก็พร้อมที่จะเดินเคียงข้างไปกับชาวนครปฐมทั้งในยามปกติและเมื่อเกิดวิกฤตต่างๆ “
คุณสมเกียรติ พูลสุขเสริม รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม กล่าวว่า “ในฐานะตัวแทนชาวนครปฐม ขอขอบคุณมูลนิธิเอสซีจี หอการค้าจังหวัดนครปฐม และมูลนิธิไทยพีบีเอสเป็นอย่างยิ่งที่เล็งเห็นถึงความสำคัญและร่วมกันทำให้โครงการดีๆ นี้เกิดขึ้น ห้องชันสูตรความดันลบ (Modular Autopsy) แห่งแรกในประเทศไทยนี้ แม้จะตั้งอยู่ที่จังหวัดนครปฐม แต่ทุกคนก็สามารถใช้ประโยชน์ ทั้งการใช้งานเพื่อชันสูตรและต่อยอดงานวิจัยเพื่อเป็นความรู้แก่ประเทศไทยต่อไป ผมเชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่งว่า เมื่อทุกฝ่ายร่วมแรงและประสานใจกัน ไม่ว่าจะเป็นนักรบทัพหน้า หรือประชาชนทัพหลังเช่นเรา ดูแลตัวเองให้ปลอดภัย ฉีดวัคซีน ตั้งการ์ดให้สูง แล้วเราทุกคนจะก้าวข้ามวิกฤตครั้งนี้ไปได้ด้วยกัน“
คุณเชาวลิต เอกบุตร กรรมการบริหารมูลนิธิเอสซีจี กล่าวว่า “มูลนิธิเอสซีจี มีความห่วงใยบุคลากรทางการแพทย์ ซึ่งเป็นนักรับด่านหน้า ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความเสี่ยง จึงมุ่งมั่นในการเป็นส่วนหนึ่งที่จะช่วยปกป้องยกระดับความปลอดภัย และเป็นกำลังใจให้กับบุคลากรทางการแพทย์ โดยได้ร่วมกับหอการค้าจังหวัดนครปฐมและมูลนิธิไทยพี่บีเอส จัดสร้างห้องชั่นสูตรความดันลบ (Modular Autopsy) โดยมูลนิธิฯ สนับสนุนงบประมาณจำนวน 3 ล้านบาท ซึ่งห้องดังกล่าว มีฟังก์ชันการทำงานตามช้อกำหนดของทีมแพทย์โรงพยาบาลนครปฐม มีขนาดใช้สอยรวม 80.38 ตร.ม. สามารถควบคุมแรงดันอากาศได้เหมาะสมและปลอดภัย ทั้งระบบความดันบวกเพื่อกำจัดเชื้อโรดและฝุ่น และระบบความดันลบ เพื่อจำกัดการแพร่กระจายและลดเชื้อไวรัสออกสู่ภายนอกอาคาร ช่วยให้บุคลากรทางการแพทย์ปฏิบัติหน้าที่อย่างมั่นใจและปลอดภัย“