พระเดชพระคุณ พระราชมหาเจติยาภิบาล ในฐานะประธานสมาคมวัดอรุณสหราชอาณาจักร นำคณะพระธรรมทูตวัดอรุณสหราชอาณาจักร ศึกษา เรียนรู้ต้นแบบโคกหนองนาโมเดล ณ ทัณฑสถานบำบัดพิเศษกลาง ทัณฑสถานหญิงกลาง เรือนจำกลางคลองเปรม เพื่อนำไปเป็นต้นแบดำเนินการต่อยอดโครงการโคกหนองนาแห่งศรัทธาประเทศอังกฤษ และเสริมพลังศรัทธาให้มั่นคงยิ่งขึ้น
วัดอรุณสหราชอาณาจักร ได้นำต้นแบบโครงการพระราชทาน โคกหนองนา บินลัดฟ้าข้ามพรมแดนไปบ่มเพาะ ลงผืนแผ่นดินสหราชอาณาจักร เมืองนอริช ประเทศอังกฤษเมืองใหญ่ที่มีคนไทยอยู่จำนวนมาก ซึ่งวัดอรุณสหราชอาณาจักรเป็นวัดไทยแห่งเดียวที่เมืองแห่งนี้ ทำหน้าที่หลอมรวมศรัทธาชาวไทย ชาวต่างชาติ และชาวพุทธ ด้วยกิจกรรมต่างๆ ที่อบอุ่นไปด้วยความรัก ความเมตตา และน้ำใจที่มอบให้แก่กัน
วัดอรุณสหราชอาณาจักร แม้จะเป็นวัดเล็กๆ มีพื้นที่ใช้สอยไม่มากนัก อีกทั้งสภาพอากาศของประเทศอังกฤษ ก็ไม่เอื้ออำนวยต่อการเติบโตของพืชผักบางชนิด จึงสร้างผลผลิตได้เป็นบางช่วงเวลาเท่านั้น แต่ปัญหาดังกล่าวหาได้เป็นอุปสรรคขวางกั้นความศรัทธา และความตั้งใจได้ ….ในเบื้องต้นวัดอรุณสหราชอาณาจักร นำโดย พระเดชพระคุณท่านเจ้าคุณพระราชมหาเจติยาภิบาล…ท่านได้ริเริ่มแนวคิด และมอบหมายให้พระธรรมทูต คณะญาติโยม นำรูปแบบโครงการพระราชทาน โคกหนองนามาทำเป็นแปลงผักเล็กๆ ในเรือนกระจก ตามสภาพแวดล้อมจะเอื้ออำนวย ตั้งใจแต่เพียงว่าทำในส่วนที่เราทำได้ให้ดีที่สุด
การดำเนินโครงการในช่วงแรกๆ แม้ชาวต่างชาติหลายคนก็ไม่เข้าใจ เพราะด้วยสภาพแวดล้อมที่เป็นอยู่ มีอากาศที่ไม่เหมาะแก่การปลูกพืชผักบางชนิด จึงทำนายผลได้ชัดเจนตั้งแต่แรกว่าคงไม่คุ้มค่ากับการลงทุนอย่างแน่นอน…พระเดชพระคุณ พระราชมหาเจติยาภิบาล ได้ให้นโยบายแก่พระธรรมทูตไว้ว่า เราก็อธิบายเขาไปด้วยปรัชญาเบื้องต้นว่า จริงๆแล้ว การไม่คุ้มค่า บางครั้ง เป็นสิ่งที่มี “คุณค่า” และ การ “ขาดทุน“นั่นแหละคือ “กำไร“ เพราะ…แนวคิดโคกหนองนาที่เราทำอยู่ คือเกษตรเพื่อแบ่งปัน บนพื้นฐานของวัฒนธรรมพึ่งพาอาศัยกัน ไม่ใช่เกษตรเพื่อขายบนพื้นฐานของการคำนวนผลกำไรที่ชาวต่างชาติเขาคุ้นเคยจากการทำเกษตรแปลงใหญ่ๆ หลายร้อย หลายพันไร่สามารถคำนวนผลกำไร–ต้นทุนได้อย่างชัดเจน แต่ภายใต้แนวคิดโครงการโคกหนองนาที่พระราชาพระราชทานให้ เราต่างมั่นใจว่า…นอกเหนือจากผลผลิตที่ได้ เรายังได้ความรัก ความศรัทธา ความสามัคคี กับการช่วยเหลือแบ่งปันซึ่งกันและกัน
…ด้วยเหตุว่าพื้นที่ของวัดนั้นมีจำกัด ทางวัดจึงได้สร้างความร่วมมือกับญาติโยมชาวไทย ให้นำแนวคิดโครงการโคกหนองนาไปดำเนินการในที่ของตนๆ ตามแต่พื้นที่นั้นจะเอื้ออำนวย…ทางวัด และพระธรรมทูตช่วยเหลือร่วมลงแรงออกแบบแปลน ร่วมด้วยช่วยกันบ่มเพาะดูแล จนเมื่อผลผลิตเกิดขึ้นก็ได้นำไปแบ่งปันทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติตามโอกาศต่างๆ ผลงานปรากฏชัด จนได้รับคำชื่นชมจากชาวไทยและชาวต่างชาติรวมถึงได้รับรางวัลอันน่าภาคภูมิใจด้วย และมากไปกว่าการเอาชนะปัญหา อุปสรรคของสภาพอากาศในต่างแดนแล้ว…เรายังสามารถเอาชนะข้ออ้างในใจตนเองที่มักบอกเราเสมอว่า เราทำไม่ได้ แต่แท้จริงแล้วเราทำได้เพราะสิ่งที่เราทำมันยิ่งใหญ่กว่าอุปสรรค ดั่งคำที่ว่า “DO IT WITH YOUR HEART ALWAYS GREATEST”ทำด้วยใจยิ่งใหญ่เสมอ“
จนถึงวันหนึ่งความดีที่เราทำอย่างเงียบๆในต่างแดน แต่ผลของมันกับส่งเสียงดังด้วยความทราบถึงพระเนตร พระกรรณ ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระองค์ท่านได้โปรดพระราชทานเมล็ดพันธ์ผัก เสื้อ สมุดไดอารี่ และสิ่งของเครื่องใช้อื่นๆ ถวายแก่พระเดชพระคุณพระราชมหาเจติยาภิบาล นำไปมอบต่อให้พระธรรมทูต และญาติโยมชาววัดอรุณสหราชอาณาจักร เป็นที่ปลาบปลื้มยินดี เสริมกำลังใจให้รักษาความดีที่ทำอยู่และตั้งใจทำให้ดียิ่งๆขึ้นไป
ประเทศอังกฤษและประเทศไทยเป็นราชอาณาจักรที่มีพระเจ้าแผ่นดินเหมือนกัน ประชาชนทั้งสองประเทศต่างมีความปลื้มใจในกษัตริย์ของตน โดยเฉพาะของไทย ท่านเป็นสมมติเทพที่เราเคารพบูชาคนไทยอยู่เย็นเป็นสุขปลอดภัยเพราะเราได้อาศัยพื้นแผ่นดิน ที่มีพระมหากษัตริย์ทรงทศพิธราชธรรม ซึ่งเป็นหลักคำสอนในสยามเมืองยิ้ม “เรายิ้ม” เพราะเรามีความสุข ไม่ทุกข์ เมื่อเหล่าพระธรรมทูตไปทำหน้าที่ เผยแผ่ ณ ประเทศอังกฤษ ก็เอาความสุขนี้แหละไปด้วยความสุขที่พวกเราภาคภูมิใจว่าแผ่นดินไทย เพราะเรามีร่มโพธิ์ใหญ่คือ ร่มพระบรมโพธิสมการ
จนถึงตอนนี้ คำถาม และความสงสัยในเบื้องต้นของชาวต่างชาติ ได้ถูกตอบผ่านผลงานและการทำสิ่งเล็กๆ ด้วยหัวใจที่ยิ่งใหญ่ว่า…ขาดทุนนี่แหละคือกำไร เพราะแม้ผลผลิตจะขาดทุน ขาดกำไร…แต่เราได้แบ่งปันน้ำใจที่ประเมินค่าไม่ได้…และเราได้พบของขวัญอันล้ำค่าที่พระราชาพระราชทานให้พสกนิกรชาวไทยคือ “ความมีน้ำใจ และการแบ่งปัน” ซึ่งเป็นดั่งพรอันประเสริฐ เป็นเกียรติยศ และเป็นเกราะป้องกันติดตัวเราไม่ว่าจะอยู่ในต่างแดน หรือในประเทศไทย อยู่ที่ใดก็มีความสุข เป็นคนเล็กๆ แต่ทำสิ่งที่ยิ่งใหญ่เป็นคนธรรมดาที่มีคุณค่าในสังคม.