วันที่ 30 ธันวาคม 2564 เวลา 09:00 น. ที่ห้องประชุมราชบพิธ ชั้น 5 อาคารดํารงราชานุสรณ์ กระทรวงมหาดไทย นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานการประชุมขับเคลื่อนและติดตามนโยบายของรัฐบาลและภารกิจสำคัญของสำนักงานปลัดกระทรวงมหาดไทย เดือนธันวาคม 2564 ผ่านระบบวีดิทัศน์ทางไกลโดยมี นายชยาวุธ จันทร รองปลัดกระทรวงมหาดไทย หัวหน้ากลุ่มภารกิจด้านกิจการความมั่นคงภายใน นายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม รองปลัดกระทรวงมหาดไทย หัวหน้ากลุ่มภารกิจ
ด้านพัฒนาชุมชนและส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย ด้านบริหาร นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร รองปลัดกระทรวงมหาดไทยหัวหน้ากลุ่มภารกิจด้านสาธารณภัยและพัฒนาเมือง นายไตรภพ วงศ์ไตรรัตน์ หัวหน้าผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย ผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย ผู้ช่วยศาสตราจารย์ พิเชฐ โสวิทยสกุล ที่ปรึกษาปลัดกระทรวงมหาดไทย ที่ปรึกษาระดับกระทรวง ผู้ช่วยปลัดกระทรวงมหาดไทย หัวหน้าหน่วยงานในสังกัดสำนักงานปลัดกระทรวงมหาดไทย หัวหน้ากลุ่มยุทธศาสตร์การพัฒนาภาค โดยเป็นการประชุมผ่านระบบวีดิทัศน์ทางไกลร่วมกับ หัวหน้าสำนักงานจังหวัด ผู้อำนวยการกลุ่มงานในสังกัดสำนักงานจังหวัด หัวหน้าหน่วยตรวจสอบภายในจังหวัด และผู้อำนวยการกลุ่มงานบริหารยุทธศาสตร์กลุ่มจังหวัด
นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า ในวันนี้เป็นการประชุมผู้บริหารสำนักงานปลัดกระทรวงมหาดไทย ซึ่งเป็นกรมกรมหนึ่งในสังกัดกระทรวงมหาดไทย ทำหน้าที่ในการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ นำนโยบายของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย และผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงมหาดไทย แปลงสู่การปฏิบัติในระดับพื้นที่ ซึ่งในระดับพื้นที่ผู้ว่าราชการจังหวัดเหมือนนายกรัฐมนตรีในพื้นที่ งานทุกกระทรวง ทบวง กรม ต้องบูรณาการการขับเคลื่อน ดังนั้น หัวหน้าสำนักงานจังหวัดต้องทำหน้าที่เลขาธิการนายกรัฐมนตรี คอยติดตามงานของทุกกระทรวงให้ผู้ว่าราชการจังหวัดได้ทราบและนำการขับเคลื่อนได้ ซึ่งการประชุมผู้บริหารสำนักงานปลัดกระทรวงมหาดไทยจะได้มีเป็นประจำเดือนละ 1 ครั้งเพื่อเปิดเวทีให้ทุกหน่วยงานทั้งส่วนกลาง และส่วนภูมิภาค เพื่อเป็นการติดตามการปฏิบัติงาน ได้พูดคุย ช่วยกันสะท้อนสภาพปัญหา อุปสรรค ในการปฏิบัติงานแบบมีส่วนร่วม และร่วมกันหาทางออกเพื่อแก้ไขปัญหา ในรูปแบบ Two way communication และได้กำชับถึงการบริหารจัดการวัคซีนป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ของประชาชนในพื้นที่ที่มีข้อมูลที่ไม่ครบถ้วนและตรงกันจากหลายแหล่งข้อมูล จึงเน้นย้ำให้สำนักงานจังหวัดบูรณาการร่วมกับที่ทำการปกครองจังหวัดที่ทำการปกครองอำเภอ และภาคีเครือข่าย ใช้แพลตฟอร์ม jitasa.care ไปสำรวจสมาชิกในแต่ละครอบครัว แต่ละบ้าน และบันทึกลงในระบบให้ครบถ้วนถูกต้อง ซึ่งแพลตฟอร์ม jitasa.care สามารถระบุพิกัด (Location) ของแต่ละครัวเรือนได้ ซึ่งจะทำให้มีข้อมูลที่ชัดเจน ในสถานที่ที่ถูกต้อง และสามารถเชื่อมโยงประสานข้อมูลกับกรมควบคุมโรค และจะนำไปสู่การบริหารจัดการวัคซีนป้องกันโควิด-19 ได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมทั้งส่งเสริม ประชาสัมพันธ์ให้เยาวชนได้ศึกษาเรียนรู้ประวัติศาสตร์ชาติไทย เพื่อให้เกิดความสำนึก ให้เกิดความภาคภูมิใจ สร้างความภูมิใจและกระตุ้นความรู้สึกนิยมในชาติ ตลอดจนตระหนักถึงคุณค่าของมรดกทางวัฒนธรรมที่บรรพบุรุษสั่งสมไว้ รวมถึงเป็นการเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ตั้งแต่อดีตมา รวมทั้งส่งเสริมให้มีการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์สารานุกรมไทยสำหรับเยาวชนให้แพร่หลาย ในหมู่เยาวชนและประชาชนทั่วไป
ทั้งนี้ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย ได้มีข้อเน้นย้ำเพิ่มเติม โดยนายชยาวุธ จันทรรองปลัดกระทรวงมหาดไทย หัวหน้ากลุ่มภารกิจด้านกิจการความมั่นคงภายใน ได้ขอให้ความสำคัญงานการข่าว ขอให้ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดที่ได้รับเรื่องร้องเรียนที่มีลักษณะสุ่มเสี่ยงต่อความมั่นคง ขอให้ติดตามเรื่องดังกล่าวให้ได้ข้อเท็จจริงและรายงานให้กระทรวงมหาดไทยทราบด้วย ต้องมีการติดตามการเคลื่อนไหวของกลุ่มบุคคลที่มีความเห็นต่าง และหมั่นตรวจสอบความเหมาะสมของสถานที่ที่มีการติดตั้งภาพบุคคลสำคัญ ให้พิจารณาการจัดกลุ่มมวลชนในพื้นที่เพื่อต้อนรับแขก VIP ที่เดินทางเข้ามาในพื้นที่ เพื่อเป็นการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด -19 และการเสริมสร้างปฏิสัมพันธ์กับประเทศที่ได้สถาปนาความสัมพันธ์เมืองพี่เมืองน้อง (Sister City) นายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม รองปลัดกระทรวงมหาดไทย หัวหน้ากลุ่มภารกิจด้านพัฒนาชุมชนและส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น ได้ขอให้ทุกหน่วยงานให้ความสำคัญการบริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 รวมถึงการแก้ปัญหาความยากจนแบบมุ่งเป้า โดยใช้ข้อมูลจาก TPMAP นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย ด้านบริหาร ได้ให้ข้อเสนอแนะการบริหารจัดการงานภายในทั้งส่วนกลางและส่วนภูมิภาค ให้มีการปรับรูปแบบการทำงานให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น Change for Good และขอให้มีการติดตามข่าวสารที่ได้มีการเผยแพร่ทุกช่องทางที่เกี่ยวข้องกับกระทรวงมหาดไทยและจังหวัด เพื่อเป็นการป้องปราม นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร รองปลัดกระทรวงมหาดไทย หัวหน้ากลุ่มภารกิจด้านสาธารณภัยและพัฒนาเมือง ได้เน้นย้ำให้หัวหน้าสำนักงานจังหวัด ร่วมให้การสนับสนุนด้านการอำนวยความปลอดภัยทางถนนให้กับประชาชนในช่วงเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ นายไตรภพ วงศ์ไตรรัตน์ หัวหน้าผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย ขอให้จังหวัดเตรียมความพร้อมในการรับตรวจจากผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย โดยสามารถดูแผนการตรวจได้ที่หน้าเว็บไซต์ของสำนักตรวจราชการและเรื่องราวร้องทุกข์ สำนักงานปลัดกระทรวงมหาดไทย และให้ความสำคัญกับเรื่องที่มาจากสำนักราชเลขาธิการ หรือกรณีที่อยู่ระหว่างรอผลในกระบวนการยุติธรรม ในการประชุมครั้งนี้ ศาสตราจารย์ พิเชฐ โสวิทยสกุล ที่ปรึกษาปลัดกระทรวงมหาดไทย ได้ให้ข้อคิดเห็นเพิ่มเติมถึงเรื่องเร่งด่วนที่จะต้องดำเนินการ โดยทุกงานสามารถบูรณาการร่วมกันได้ เชื่อมโยงกันทั้งหมด ต้องมีเครื่องมือในการมองช้างทั้งตัวอย่างทันท่วงที สามารถนำข้อมูลทั้งหมดสนับสนุนการติดตามและขับเคลื่อนงานของกระทรวงมหาดไทย เป็น war room เพื่อบำบัดทุกช์ บำรุงสุข ให้แก่ประชาชนได้อย่างแท้จริง นอกจากนี้ ขอให้เชื่อมโยงการทำงานกับเครือข่ายในพื้นที่โดยเฉพาะอย่างยิ่งภาควิชาการ ที่สามารถร่วมดำเนินการและประสานงานร่วมกัน 7 ภาคีเครือข่าย เปรียบเสมือนนิ้วมือทั้ง 5 นิ้ว บนฝ่ามือ ประกอบด้วย 1. ภาครัฐ เป็นนิ้วหัวแม่มือ ขาดไม่ได้ ใหญ่ แต่เคลื่อนไหวยาก 2 – 3 ภาควิชาการ ภาคศาสนา เหมือนนิ้วชี้พระ ครู ชี้นำ 4 ภาคประชาชน นิ้วกลาง ยาวที่สุด ประชาชนไม่มีพลัง ในแง่รูปแบบใครพาไปไหนไปด้วย แต่มีพลังมวลชน 5 ภาคเอกชน เป็นนิ้วนาง ใส่แหวนสวย มีงบประมาณ 6-7 ภาคประชาสังคม กับ ภาคสื่อสารมวลชน เป็นนิ้วก้อย เกี่ยวก้อย ร้อยเรียงทำงานร่วมกัน
“ข้าราชการสำนักงานปลัดกระทรวงมหาดไทย ต้องเป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลงที่ดีให้เกิดขึ้นกับองค์กรและพื้นที่ที่พวกเราไปปฏิบัติหน้าที่ราชการ หน้าที่ที่ดีที่สุดของพวกเราชาวสำนักงานปลัดกระทรวงมหาดไทย ในฐานะผู้นำการเปลี่ยนแปลงหรือ Change Agent เพื่อให้เราสามารถ Change for Good มีจิตใจรุกรบที่จะทำงาน หรือมี Passion มีอุดมการณ์ในการบริการประชาชน ดังปณิธาน “บำบัดทุกข์ บำรุงสุข” เห็นพี่น้องประชาชนที่อยู่ในพื้นที่เป็นเสมือนญาติที่เราปรารถนาที่จะให้เขามีความสุขโดยการช่วยเหลือของเรา ในฐานะข้าราชการในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และดึงเพื่อร่วมงานและภาคีเครือข่ายในพื้นที่มาร่วมกันขับเคลื่อนเป็นทีม รวมทั้งต้องทำให้ผู้บังคับบัญชาคล้อยตามและทำตามที่ผู้ใต้บังคับบัญชาได้คิด ได้สร้างสรรค์ ได้นำเสนอในสิ่งที่ดี เพื่อให้สิ่งดี ๆ ที่คิดได้มีพลัง และเกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม” นายสุทธิพงษ์ กล่าวเพิ่มเติม