เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนสอบสวน กองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง 6 สงขลา สกัดจับรถขนแรงงานเถื่อนชาวเมียนมา พร้อมรถนำทางอีก 1 คัน หลังฝ่าด่านสกัดของเจ้าหน้าที่ รวบ 4 คนไทย พร้อมด้วยแรงงานอีก 11 คน สารภาพจะนำส่งชายแดนไทย – มาเลเซีย
เมื่อวันที่ 27 ธ.ค.64 ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ตม.6 สงขลา นำกำลัง ตั้งจุดสกัดบริเวณถนนสายเอเชีย หมู่ที่ 2 ต.คูหาใต้ อ.รัตภูมิ จ.สงขลา หลังจากได้รับแจ้งจากสายข่าวว่า จะมีขบวนการขนแรงงานเถื่อน ผ่านเส้นทางดังกล่าว
สังเกตเห็นรถเก๋งยี่ห้อมิตซูบิชิ รุ่นแอททราจ สีขาว หมายเลจทะเบียน กย 537 สุราษฎร์ธานี ขับตรงมาด้วยความเร็วสูง เจ้าหน้าที่ประจำจุดสกัดได้เปิดไฟสัญญาณเพื่อให้รถหยุด แต่รถเก๋งคันดังกล่าวกลับเร่งเครื่องขับฝ่าเจ้าหน้าที่และจุดสกัดไป มุ่งหน้าสู่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา
ซึ่งในเวลาไล่เลี่ยกัน มีรถกระบะยี่ห้อ อีซูซุ รุ่นดีแมคซ์ สีดำ หมายเลขทะเบียน กท 4796 ภูเก็ต ขับมาด้วยความเร็วสูง เจ้าหน้าที่จึงแสดงสัญญาณให้หยุด แต่รถกระบะคันดังกล่าวได้เร่งเครื่องเพิ่มความเร็ว ขับฝ่าไป เจ้าหน้าที่ จึงได้ขับรถไล่ติดตามอย่างกระชั้นชิด และพยายามพยายามยิงล้อสกัดให้รถจอด ใช้เวลาประมาณครึ่งชั่วโมงสุดท้ายคนขับได้จอดรถแล้ววิ่งหลบหนี
เจ้าหน้าที่ตรวจสอบภายในรถกระบะ พบแรงงานอัดมาแน่นเต็มคันรวม 11 คน โดยในเวลาต่อมาเจ้าหน้าที่สามารถติดตามจับกุมคนขับรถกระบะได้ คือ นายนพพล สุพักดี อายุ 39 ปี อยู่ที่ 6 / 18 ม. 1 ต.บางนอน อ.เมือง จ.ระนอง และเจ้าหน้าที่ยังสกัดจับรถเก๋งได้ทราบชื่อคนขับคือนายเอกสิทธิ์ อมรกุล อายุ 36 ปี ชาวสุราษฎร์ธานี น.ส.มยุรี เทือกสุบรรณ อายุ 29 ปี ชาว จ.สุราษฎร์ธานี และนายภูมินทร์ สุวรรณรัตน์ อายุ 20 ปี ชาว จ.กระบี่ ซึ่งนั่งมาในรถเก๋ง
จากการตรวจสอบพบว่าชาวเมียนมา ทั้ง 11 คน ไม่มีหนังสือเดินทางหรือเอกสารใดๆติดตัว จากการสอบสวนเบื้องต้น แรงงานชาวเมียนมาบอกว่า ได้ลักลอบเดินทางเข้าประเทศไทย ผ่านช่องทางธรรมชาติด้าน จ.ระนอง โดยนายหน้าชาวพม่า นำไปซ่อนตัวในป่าละเมาะ อ.หลังสวน จ.ชุมพร คิดค่านำพาคนละ 5,000 ริงกิต หรือประมาณ 40,000 บาท ก่อนถูกปล่อยไว้ 2 วัน และคืนวันที่ 26 ธ.ค.ที่ผ่านมา นายนพพลฯได้ไปรับ เพื่อเดินทางต่อไปยังด่านชายแดนไทย – มาเลเซีย เพื่อจะลักลอบไปยังประเทศมาเลเซีย
ทางด้านนายนพพลฯ บอกว่ามีนายหน้าชาวพม่าว่าจ้างพวกตนขนแรงงานคนละ 1,500 บาท เพื่อไปส่งยังจุดหมาย โดยรถเก๋งทำหน้าที่ดูต้นทางแต่กลับพลาดถูกจับกุมได้ ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อกล่าวหาแรงงานชาวเมียนมา “เป็นคนต่างด้าวเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต” ส่วนนายนพพลฯกับพวกถูกแจ้งข้อหา “ร่วมกันให้ที่พักพิง ซ่อนเร้น ช่วยด้วยประการใดๆ ให้คนต่างด้าวที่เข้ามาในราชอาณาจักรโดยผิดกฎหมาย เพื่อให้พ้นจากการจับกุมจากพนักงานเจ้าหน้าที่” เป็นความผิดตาม พ.ร.บ.คนเข้าเมือง
ก่อนทำการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ตัวผู้ต้องหาทั้ง 15 คน และควบคุมตัว ส่งพนักงานสอบสวน สภ.รัตภูมิ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป