สมาพันธ์เครือข่ายแห่งชาติเพื่อสังคมไทยปลอดบุหรี่ ขับเคลื่อนนโยบายเชิงรุกจัดสัมมนาสร้างเสริมศักยภาพการควบคุมยาสูบเขตสุขภาพที่ 5

สมาพันธ์เครือข่ายแห่งชาติเพื่อสังคมไทยปลอดบุหรี่ จัดสัมมนาสร้างเสริมศักยภาพการควบคุมยาสูบเขตสุขภาพที่ 5 เพื่อร่วมขับเคลื่อนนโยบายเชิงรุก ระหว่างวันที่ 16 – 17  ธันวาคม  2564    โรงแรม อวานี พลัส หัวหิน รีสอร์ท โดยมี นายแพทย์วันชาติ ศุภจัตุรัส  ประธานจัดงาน กล่าวรายงาน และศาสตราจารย์เกียรติคุณ แพทย์หญิงสมศรี  เผ่าสวัสดิ์  ประธานกล่าวเปิดงาน

การจัดสัมมนาในครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อให้สมาพันธ์จังหวัดและภาคีเครือข่ายในเขตสุขภาพที่ 5 ได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้การดำเนินงานควบคุมยาสูบ และแต่ละจังหวัดได้ร่วมวางแผนขับเคลื่อนการควบคุมยาสูบในเชิงรุก เพื่อเป็นการหนุนเสริมการดำเนินงานของสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด และคณะกรรมการควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบจังหวัดให้เกิดผลสัมฤทธิ์ในการลดอัตราการสูบบุหรี่ของประชากรในจังหวัดลงจากสถิติเดิมอย่างต่อเนื่อง  และมีกิจกรรมการเสวนาอนาคตการควบคุมยาสูบของ เขตสุขภาพที่ 5” โดยมีศาสตราจารย์นายแพทย์รณชัย  คงสกลธ์  ประธานการเสวนา นายแพทย์วันชาติ ศุภจัตุรัส  รองประธานการเสวนา พร้อมด้วย ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 5 นายแพทย์สาธารณสุขฯ จำนวน 7 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดกาญจนบุรี จังหวัดนครปฐม จังหวัดราชบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ จังหวัดเพชรบุรี จังหวัดสมุทรสงครามและจังหวัดสมุทรสาคร ทำหน้าที่วิทยากรร่วมเสวนา พร้อมกิจกรรมกลุ่มย่อย โดยแบ่งกลุ่มสมาพันธ์จังหวัด และคณะกรรมการควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบจังหวัด (คผยจ.) กลุ่มสถาบันอุดมศึกษาปลอดบุหรี่  กลุ่มพลังเครือข่ายบริการคลินิกฟ้าใส และกลุ่มพัฒนาระบบเครือข่ายบริการ ปิดท้ายด้วยการจัดทำแผนการดำเนินงานเพื่อลดอัตราการบริโภคยาสูบแบบบูรณาการภาคีเครือข่าย

สำหรับจังหวัดนครปฐม นายแพทย์วิโรจน์  รัตนอมรสกุล  นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนครปฐม กล่าวว่าสถานการณ์การบริโภคยาสูบของจังหวัดนครปฐม นั้น อัตราการบริโภคยาสูบของประชากรอายุ 15 ปีขึ้นไป เพิ่มขึ้นจากร้อยละ 13.5 เป็นร้อยละ 14.2 (เพิ่มขึ้นไม่ชัดเจน อย่างไม่มีนัยสำคัญ) ถึงแม้ตัวเลขของจังหวัดนครปฐม ยังไม่เกินระดับประเทศที่กำหนดไว้ร้อยละ 17.4 จังหวัดฯ ก็ตระหนักถึงความสำคัญและต้องควบคุมการบริโภคยาสูบอย่างเข้มข้นต่อไป เนื่องจากยังมีบางจังหวัดในเขตที่มีอัตราการบริโภคเพิ่มขึ้นสูงกว่าระดับประเทศ  ดังนั้น ในปี 2565  จังหวัดนครปฐม จึงได้กำหนดนโยบายไว้ดังนี้ 1)  จัดทำแผนปฏิบัติการ (action plan) ที่มีความคล่องตัว ปรับได้ตามสถานการณ์ New normal 2) ร่วมมือกันในการขับเคลื่อนงานทุกระดับ และลงพื้นที่ปฏิบัติงาน และ 3) วิเคราะห์กลวิธีการดำเนินงานและปรับปรุงรูปแบบให้เหมาะสม  ผ่านกิจกรรมต่าง ได้แก่ 1) ขับเคลื่อนกลไกการดำเนินงานระดับจังหวัดนครปฐม2) การบังคับใช้กฎหมายและการดำเนินการสร้างสิ่งแวดล้อมปลอดบุหรี่และแอลกอฮอล์ 3) การป้องกันนักสูบและนักดื่มหน้าใหม่ 4) การบำบัดรักษา การช่วยเลิกสูบและเลิกดื่ม และ 5) สร้างมาตรการทำให้ชุมชนปลอดบุหรี่และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์

นายแพทย์วิโรจน์ กล่าวต่อว่าทั้งนี้ มาตรการต่างๆ จะประสบความสำเร็จได้ ต้องอาศัยเครือข่ายดำเนินงานที่เข้มแข็ง เช่น เครือข่ายสถานประกอบการ สมาคมพัฒนาคุณภาพสิ่งแวดล้อม เครือข่ายองค์กรงดเหล้าบุหรี่ เครือข่าย อปท. เครือข่ายตำรวจเป็นต้น และการบูรณาการงาน คน งบประมาณ (กรมสุขภาพจิต งานยาเสพติดโครงการทูบีนัมเบอร์วัน และ สสส.) ตลอดจนการประสานงานกับหน่วยงานต่าง ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชนและภาคประชาสังคม