สมาคม อบจ.แห่งประเทศไทย ยืนยัน พร้อมดูแล รพ.สต.ทั่วประเทศ

ตามที่คณะกรรมการการกระจายอำนาจให้แก่ อปท. ได้มีการประกาศในราชกิจจานุเบกษา เรื่องหลักเกณฑ์และขั้นตอนการถ่ายโอนภารกิจสถานีอนามัยเฉลิมพระเกียรติ 60 พรรษา นวมินทราชินี และ รพ.สต. ให้แก่ อบจ. ซึ่งมีผลบังคับใช้ไปแล้วนั้น โดยทางสมาคม อบจ.แห่งประเทศไทย ได้จัดสัมมนาแนวทางการถ่ายโอนสถานีอนามัยฯ เพื่อสร้างความรู้ ความเข้าใจ และ เพื่อประโยชน์ในการสร้างเสริมสุขอนามัยในระดับปฐมภูมิไปเมื่อเดือน ต.ค.ที่ผ่านมา  แต่ภายหลัง ประธานคณะกรรมาธิการสาธารณสุข วุฒิสภา ทำหนังสือขอให้รัฐบาลยับยั้งการถ่ายโอนภารกิจฯ ดังกล่าวไว้ก่อน

โดย นายบุญชู  จันทร์สุวรรณ นายก อบจ.สุพรรณบุรี และ นายก สมาคม อบจ.แห่งประเทศไทย  เปิดเผยว่า การถ่ายโอน รพ.สต.ได้ออกประกาศในราชกิจจานุเบกษา เป็นที่เรียบร้อย การที่กระทรวงสาธารณสุขไม่เห็นด้วยกับเรื่องนี้ ที่มีหนังสือยื่นคัดค้านก็ถือว่าผิดกฎหมาย โดยการยืมมือวุฒิสภาทำหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี ให้ระงับ ชะลอ เรื่องการถ่ายโอน ส่วนตัวมองว่าการถ่ายโอนภารกิจฯ ครั้งนี้ ถือว่าเป็นประโยชน์ต่อประชาชนอย่างมาก เป็นเรื่องที่ดีและถูกต้อง แต่มีหลายหน่วยงานมองว่า เป็น อบจ.ไม่สามารถดูแล จัดการเรื่องนี้ได้ ขอชี้แจงว่า ตัวนายกเองไม่ใช่แพทย์ ไม่มีอำนาจไปฉีดยาให้ผู้ป่วยได้ แต่สิ่งที่ทำได้ คือการเป็นผู้บริหาร โดยการนำนโยบายใหม่ๆ เข้าไปสอดแทรกให้ดีขึ้น ใน จ.สุพรรณบุรี งานทุกอย่างของ อบจ.สุพรรณบุรี เป็นตัวสะท้อนไปยัง รพ.สต. เพราะเข้าถึงประชาชนได้ง่าย เมื่อประชาชนเดือดร้อนหรือต้องการสิ่งใด ไม่จำเป็นต้องมาที่ อบจ. ไปแจ้งความประสงค์ที่ รพ.สต. ปัญหาต่างๆ จะสะท้อนกลับมาที่ อบจ.โดยอัตโนมัติ ตรงนี้ทำให้การบริหารงานง่ายขึ้น เชื่อว่าทุกคนไม่อยากเจ็บป่วย จึงอยากทำเรื่องใหม่ๆ ที่แตกต่างไปจากเดิมคือ จะเน้นป้องกัน มากกว่าการรักษา ฉะนั้น ผอ.รพ.สต.ที่อยู่ในพื้นที่ ต้องมีความชำนาญ เชี่ยวชาญ ในด้านการป้องกันโรค แต่ถ้าเกิดเป็นโรคร้ายแรง จะถูกนำตัวส่ง รพ.ตามขั้นตอน ในด้านของบุคลากรที่จะมาทำงานกับ อบจ. สามารถมีความก้าวหน้าได้ตลอด ระบบเดิม ผอ.รพ.สต.จะเลื่อนเป็น สสอ.นั้นเป็นไปได้ยาก  แต่เมื่อมาอยู่กับ อบจ. แล้ว มีความสามารถสอบได้ ตำแหน่งก็จะขึ้นได้เรื่อยๆ  อีกทั้งยังมีโบนัสปลายปี ที่ระบบเดิมไม่มี

 และในส่วนของกลุ่มที่คัดค้านนั้น ส่วนตัวคิดว่าเป็นผู้ที่ไม่รู้ความตื้น ลึก หนาบาง ของคนในพื้นที่ กลุ่มที่คัดค้านเรื่องนี้ เป็นผู้ที่เสียผลประโยชน์ ไม่เคยนึกถึงประชาชน ถือแต่ผลประโยชน์ของตัวเองเป็นหลัก และในวันที่ 22 ธ.ค.นี้ จะมีการสัมมนาจากกลุ่มคัดค้าน เรื่อง “ถ่ายโอน รพ.สต.ไป อบจ.สร้างปัญหาหรือปฏิรูปสาธารณสุขไทย ฯ” เรื่องนี้ไม่หนักใจ ทุกอย่างต้องเป็นไปตามกฎ ระเบียบ สรุปคือ ทุกสิ่งทุกอย่างเมื่อมีกฎหมายออกมาแล้ว ก็ต้องปฏิบัติตาม ถ้ายังฝืนกันแบบนี้ แล้วเมื่อไหร่ประเทศชาติจะเจริญ  สุดท้ายในฐานะ นายก สมาคม อบจ.แห่งประเทศไทย ขอยืนยันว่า สิ่งที่คณะกรรมการกระจายอำนาจฯ ทำอยู่นั้น  อบจ.ทั่วประเทศไทย ยินดี และมีความพร้อม ที่จะรับ รพ.สต.ทั้งประเทศมาปฏิบัติงานร่วมกัน เพื่อประโยชน์ของพี่น้องประชาชน