นครปฐม รองอธิบดีกรมชลประทาน ประชุมติดตามสถานการณ์อุทกภัยลุ่มแม่น้ำท่าจีน

นครปฐม รองอธิบดีกรมชลประทาน ประชุมติดตามสถานการณ์อุทกภัยลุ่มแม่น้ำท่าจีน

รองอธิบดีกรมชลประทาน ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์อุทกภัยลุ่มแม่น้ำท่าจีน ที่จังหวัดนครปฐม พร้อมเปิดศูนย์บริหารจัดการอุทกภัยลุ่มน้ำท่าจีนส่วนหน้า เพื่อประสานการปฏิบัติงานของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในการแก้ไขปัญหาอุทกภัยได้อย่างมีประสิทธิภาพ

วันที่ 22 ตุลาคม 2564 ดร.ทวีศักดิ์ ธนเดโชพล รองอธิบดีกรมชลประทาน ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์อุทกภัยลุ่มแม่น้ำท่าจีน พร้อมเปิดศูนย์บริหารจัดการอุทกภัยลุ่มน้ำท่าจีนส่วนหน้า ณ โครงการชลประทานนครปฐม สำนักงานชลประทานที่ 13 อำเภอเมือง จังหวัดนครปฐม โดยมี นายพงษ์ศักดิ์ ศิริอ่อน ผู้ทรงคุณวุฒิด้านวิศวกรรมโยธา (ด้านสำรวจและหรือออกแบบ) ในฐานะประธานคณะทำงานศูนย์ฯ พร้อมด้วยคณะทำงานฯ และส่วนที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมประชุมและสรุปสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ลุ่มน้ำท่าจีน

ดร.ทวีศักดิ์ ธนเดโชพล รองอธิบดีกรมชลประทาน กล่าวว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้อำนวยการกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) และนายประพิศ จันทร์มา อธิบดีกรมชลประทาน มีความห่วงใยพี่น้องชาวลุ่มน้ำท่าจีน ที่กำลังประสบกับอุทกภัยอยู่ในขณะนี้ ได้สั่งการให้กรมชลประทาน จัดตั้งศูนย์บริหารจัดการอุทกภัยลุ่มน้ำท่าจีน (ส่วนหน้า) สำหรับใช้เป็นศูนย์บัญชาการ ประสานการปฏิบัติงานของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการให้ความช่วยเหลือ แก้ไขและบรรเทาอุทกภัยลุ่มน้ำท่าจีนให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมเฝ้าระวัง ติดตาม ประเมินและวิเคราะห์แนวโน้มของสถานการณ์ รวมทั้งการแจ้งเตือนภัยให้กับประชาชนได้อย่างทันท่วงที รวมไปถึงสามารถสื่อสาร ประชาสัมพันธ์ สร้างการรับรู้เกี่ยวกับสถานการณ์อุทกภัย และแนวทางในการลดผลกระทบ พร้อมกำหนดแนวทางปฏิบัติงานเชิงบูรณาการในการแก้ไขและการให้ความช่วยเหลือ วิเคราะห์สถานการณ์ ประเมินความต้องการและความจำเป็น เพื่อจัดเตรียมวัสดุอุปกรณ์ เครื่องจักร เครื่องมือในการบรรเทาความเดือดร้อนให้กับประชาชน เพื่อให้ประชาชนได้รับผลกระทบน้อยที่สุด

สำหรับจังหวัดนครปฐมได้รับผลกระทบจากปริมาณน้ำที่ไหลลงสู่แม่น้ำท่าจีน ผ่านจังหวัดสุพรรณบุรี สู่จังหวัดนครปฐมในปริมาณมาก ประกอบน้ำทะเลหนุน และฝนที่ตกหนัก ทำให้น้ำในแม่น้ำท่าจีนเอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมบ้านเรือนของประชาชนที่อาศัยอยู่ริมแม่น้ำนอกแนวคันกั้นน้ำ ในพื้นที่อำเภอบางเลน นครชัยศรี และสามพราน รวม 43 ตำบล 297 หมู่บ้าน 6,816 ครัวเรือน มีบ้านเรือนได้รับความเสียหายบางส่วน จำนวน 3,170 หลังคาเรือน และพื้นที่การเกษตรได้รับความเสียหายกว่า 4,000 ไร่ ซึ่งในขณะนี้ระดับน้ำในแม่น้ำท่าจีนยังคงเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง