วันที่ 20 มิถุนายน 2561 เมื่อเวลา 13.11 น.วันที่ 20 มิถุนายน 2561 ที่ห้อง ศปก.สถานีตำรวจภูธรนครชัยศรี พ.ต.อ.พงศ์ศักดิ์ ชูนาค รอง ผบก.ภ.จว.นครปฐม, โดยมี พ.ต.อ.สีหเดช สระกอบแก้ว ผกก.สภ.นครชัยศรี พ.ต.ท.นิคม ชัยเจริญ รอง ผกก.สภ.นครชัยศรี , พ.ต.ท.นิคม ชัยเจริญ รอง ผกก.สส.สภ.นครชัยศรี , พ.ต.ท.พิษณุ เชิดโฉม สว.สส.สภ.นครชัยศรี, ร.ต.อ. ภัทร บุญอารักษ์ รอง สว สส.สภ.นครชัยศรี , ร.ต.อ.โฆษิต เจริญสุข รองสว.สส.ฯ , ร.ต.ท.พุฒิวัชร์ ทิมแสงจันทร์ รอง สว.สส.ฯ พร้อมชุดสืบสวนจับกุม นำตัว นายสิงห์ชัย หรือนัด(หัวหน้าแก๊ง) ศรีไพรบูลย์ อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 999 ต.นครปฐม อ.นครปฐม จ.นครปฐม นายสมชาย สุุภาพรม อายุ 33 ปี(ทำหน้าที่แปลงทรัพย์ที่โจรกรรมได้เป็นเงิน)
อยู่บ้านเลขที่ 43/2 ม.3 ต.ขุนโคลน อ.พระพุทธบาท จ.สระบุรี และ นายขจรศักดิ์ หรือป๊อป อัจกลับแก้ว อายุ 25 ปี (ทำหน้าที่เป็นผู้ช่วย ในการนำทรัพย์ที่โจรกรรมได้ไปแปลงเป็นเงิน) อยู่บ้านเลขที่ 51/23 ม.2 ต.ท่าตำหนัก อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม คนร้ายที่จับกุมได้ มาให้รองผู้บังคับการทำการ ขยายผลสอบถาม
ด้วยช่วงที่ผ่านมามีเหตุลักทรัพย์ภายในพื้นที่รับผิดชอบสถานีตำรวจภูธรนครชัยศรี หลายครั้ง เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.นครชัยศรี ได้ออกสืบสวนหาข่าว กระทั่งเมื่อวันที่ 18 มิถุนายน 2561 ชุดสืบสวนจับกุม ได้รับแจ้งจากพลเมืองดีว่า มีผู้นำทรัพย์สินต้องสงสัยเป็นของที่ถูกโจรกรรมมา ไปจำหน่าย โดยกลุ่มแก๊งค์ของนายสิงห์ชัย หรือนัด ศรีไพรบูลย์ พร้อมพวกได้แก่ นายขจรศักดิ์ หรือป๊อบ อัจกลับแก้ว และ นายสมชาย หรือดาว สุภาพรม เป็นผู้นำไปจำหน่าย และยังสืบทราบว่า นายขจรศักดิ์ หรือป๊อบ อัจกลับแก้ว หนึ่งในคนร้าย ได้หลบซ่อนตัวอยู่ที่โรงแรมกรีนเฮาส์ ในพื้นที่สถานีตำรวจภูธรนครชัยศรี เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนจึงไปจรวจสอบ พบนายขจรศักดิ์ฯ พร้อมโทรศัพท์มือถือ ยี่ห้อไอแพด ซึ่งเป็นทรัพย์สินที่โจรกรรมมา จึงเชิญตัวไปสอบสวนเพิ่มเติมพร้อมตรวจปัสสาวะพบมีสารเสพติด
จากการขยายผลสอบถามนายขจรศักดิ์ หรือป๊อบ รับว่า ตนกับพวกได้ร่วมกันตะเวนออกลักทรัพย์ในพื้นที่ สภ.นครชัยศรี จำนวน 7-8 ครั้ง แล้วจากการตรวจสอบข้อมูลที่พนักงานสอบสวนพบว่ามีการรับแจ้งเหตุไว้จำนวนหลายครั้ง คือ
เมื่อประมาณเดือนพฤษภาคม 61 ได้เข้าไปลักทรัพย์บ้านของปลัด อบต.นครชัยศรี ต.บางกระเบาฯ จำนวน 2ครั้ง ได้ทรัพย์สินเป็นโทรศัพท์มือถือ จำนวน 3 เครื่อง เงินสดประมาณ 1 พันบาท พระเครื่อง ประมาณ 20 องค์ เมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม 61 ได้ไปลักรถจักรยานยนต์ที่บริเวณห้องเช่า บริเวณตำบลท่าตำหนักฯ ได้รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเวฟ สีเขียวดำ จำนวน 1 คัน เมื่อวัน 1 พฤษภาคม 61 ได้เข้าไปลักทรัพย์ร้านก๋วยเตี๋ยวไก่มะระ ต.บางกระเบาฯ ได้ตู้เชื่อมไฟฟ้า จำนวน1 ตู้
เมื่อประมาณปลายเดือนเมษายน 61 ได้เข้าไปลักทรัพย์สินที่บ้านพักบริเวณ ต.บางกระเบาฯ จำนวน 2 ครั้ง ได้ทรัพย์เป็นทีวี จอแบน จำนวน 1 เครื่อง และเงินสด จำนวน 1,500 บาท เมื่อประมาณต้นเดือนมิถุนายน 61 ได้เข้าไปลักทรัพย์ที่บ้านเลขที่ 45 ม.3 ต.บางกระเบาฯ ได้ทรัพย์สิน พระพุทธรูป หลวงปู่ทวด หน้าตักขนาด 5 นิ้ว จำนวน 2 องค์ เมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม 61 ได้เข้าไปลักทรัพย์ภายในร้านสเต๊ก ลุงไก่ ต.บางกระเบาฯ ได้ทรัพย์สินเป็นน้ำอัดลมและเงิน สด 300 บาท รวมการเข้าก่อเหตุโจรกรรมทรัพย์สิน 8 ครั้ง ซึ่งทรัพย์สินส่วนหนึ่งที่ติดตามคืนมาได้มีผู้เสียหายมาแสดงตัวยืนยันเป็นเจ้าของ แต่ยังมีทรัพย์สินส่วนหนึ่งที่ยังติดตามตัวผู้เสียหายไม่ได้
จากการซักถามของเจ้าหน้าที่ผู้ต้องหาที่ร่วมมือก่อเหตุ รับสารภาพว่า การออกลงมือโจรกรรม นายสิงห์ชัยฯ จะใช้รถ จยย. ของนายสมชายฯ เป็นยานพาหนะแล้วตะเวนเข้าไปลักทรัพย์ เมื่อสำเร็จแล้วนายสิงห์ชัยฯ จะนำทรัพย์สินที่ได้ไปให้นายสมชายฯและนายขจรศักดิ์ฯ ไปขายและนำเงินมาแบ่งกัน เงินที่ได้ส่วนหนึ่งจะนำไปซื้อยาเสพติดมาเสพส่วนหนึ่งใช้เที่ยวเตร่
จากการตรวจสอบประวัติพบว่า นายสิงห์ชัยฯ เคยมีประวัติก่อเหตุลักทรัพย์มาก่อนหลายคดีแล้วเพิ่งพ้นโทษมาประมาณ 2 เดือน และผู้ต้องหาทั้งหมดยังมีประวัติเกี่ยวข้องกับยาเสพติดอีกด้วย
หลังซักถามขยายผลพบมีผู้เสียหาย 3 รายได้มาขอดูทรัพย์สินที่ถูกโจรกรรมประกอบด้วยพระพุทธรูปบูชา รถจักรยานยนต์และตู้เชื่อมไฟฟ้า ซึ่งรองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครปฐมได้แจ้งประชาสัมพันธ์ว่า สำหรับผู้เสียหายที่ถูกคนร้ายเข้าไปโจรกรรมทรัพย์สินภายในบ้านเรือนในพื้นที่อำเภอนครชัยศรี และใกล้เคียงหากสงสัยว่าทรัพย์สินที่ถูกโจรกรรมไปจะเป็นคนร้าย กลุ่มดังกล่าวเป็นผู้ก่อเหตุ ให้ไปขอดูทรัพย์สินที่ตรวจยึดไว้ได้ที่สถานีตำรวจภูธรนครชัยศรีเพื่อจะได้อายัดตัวเพื่อดำเนินคดีต่อไป…