วราวุธ ติดตามสถานการณ์น้ำท่วมพื้นที่สุพรรณบุรี

เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 29 ก.ย. นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (รมว.ทส.) นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นายภาดล ถาวรกฤชรัตน์ อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำ ดร.อุดม โปร่งฟ้า ที่ปรึกษา รมว.ทส. นายณัฐภัทร สุวรรณประทีป ผวจ.สุพรรณบุรี นายปรีชา ทองคำ รอง ผวจ.สุพรรณบุรี นายอนันต์ โพธิ์พันธุ์ ผอ.สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ติดตามสถานการณ์ระดับน้ำที่เชิงสะพานวัดไผ่โรงวัว ประตูระบายน้ำบางสาม ประตูระบายน้ำสำเภาทอง  และจุดติดตั้งเรือผลักดันน้ำ อ.สองพี่น้อง จ.สุพรรณบุรี เพื่อนำมาใช้ผลักดันน้ำในแม่น้ำท่าจีน เร่งระบายน้ำท่วมขังในหลายพื้นที่ทั้ง ใน อ.บางปลาม้า และ อ.สองพี่น้อง

นายวราวุธ กล่าวว่า จ.สุพรรณบุรี อยู่ในพื้นฝั่งตะวันตกของลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยา สิ่งที่เกิดขึ้นเนื่องจากพายุหลายลุกที่เข้ามาในประเทศไทย พอมาถึงในภาคตะวันตกของลุ่มน้ำเจ้าพระยา ทำให้หลายจังหวัด ทั้งชัยนาท ไล่มาจนถึงสุพรรณบุรี เรื่อยไปได้รับน้ำทุ่งลงมาในแม่น้ำสายหลักของสุพรรณบุรี ก็คือแม่น้ำท่าจีน ซึ่งตัวลำน้ำมีความจุในการที่จะรับน้ำได้ไม่มากเท่าแม่น้ำเจ้าพระยา ดังนั้นการที่ผลันน้ำจะต้องคำนวณให้ดี เพราะปริมาณน้ำทุ่งจาก จ.กาญจนบุรี ในเขื่อนศรีนครินทร์ เพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล ทำให้แม่น้ำท่าจีนไม่สามารถรับความจุน้ำได้ เพราการไหลของน้ำไม่สะดวกเหมือนสายหลักเส้นใหญ่

จึงได้ประสานเครื่องผลักดันน้ำของกองทัพเรือ จำนวน 12 ตัว  เพื่อนำมาใช้ผลักดันน้ำในแม่น้ำท่าจีน เร่งระบายน้ำท่วมขังในหลายพื้นที่ทั้ง ใน อ.บางปลาม้า และ อ.สองพี่น้อง โดยเครื่องผลักดันน้ำ 12 ตัวนี้ จะประจำการที่บริเวณวัดท่าเจดีย์ อ.สองพี่น้อง และยังได้ประสานงานขอเพิ่มไปอีก 8 ตัว เพื่อติดตั้งที่บริเวณรอยต่อ ต.บางตาเถร เพื่อเพิ่มกำลังการระบายน้ำ นอกจากนี้ ยังมีเครื่องผลักดันน้ำของกรมชลประทาน 6 ตัว ประจำการบริเวณประตูน้ำสำเภาทอง อีก 8 ตัว บริเวณประตูน้ำบางสาม และกำลังติดต่อขอเพิ่มอีก 3 ตัว เพื่อประจำการบริเวณสะพานวัดไผ่

รวมทั้งสิ้น จะมีเครื่องผลักดันน้ำ 37 ตัว ประจำการทั่วทั้ง จ.สุพรรณบุรี เพื่อให้มวลน้ำตอนล่างสามารถระบายได้โดยเร็ว รองรับมวลน้ำตอนเหนือ ที่ครอบคลุมไปถึงจ.ชัยนาท ให้สามารถระบายได้คล่องตัวขึ้นตามลำดับ

 

ด้าน ดร.อุดม โปร่งฟ้า ที่ปรึกษา รมว.ทส.และที่ปรึกษา นายก อบจ.สุพรรณบุรี กล่าวว่าทาง อบจ.สุพรรณบุรี จะร่วมกับ นายวราวุธ เพื่อเข้ามาดูแลช่วยเหลือเรื่องการจัดการน้ำ เพื่อให้พื้นที่พ้นภัยพิบัติ ส่วนเรื่องการบริหารจัดการผักตบชวา และขยะต่างๆ สิ่งที่เราพบในการเดินทางมาครั้งนี้ก็คือซากขยะขวดพลาสติกค่อนข้างมาก จึงขอฝากให้พี่น้องประชาชน ต้องมีนัยในการรักษาความสะอาด เพราะขยะพวกนี้เป็นส่วนหนึ่งในการที่จะทำให้แม่น้ำลำคลองตื้นเขินและขวางลำน้ำให้ไหลเร็ว แม้จะมีเครื่องผลักดันน้ำ แต่ถ้าพวกเราไม่มีวินัยในการรักษาความสะอาด ยังทิ้งขยะลงคูคลอง เราก็จะยังเจอปัญหาแบบนี้ตลอดไป