ที่ วัดไผ่ล้อม ตำบลพระปฐมเจดีย์ อำเภอเมือง จังหวัดนครปฐม พระครูปลัดสิทธิวัฒน์ หลวงพี่น้ำฝน เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม ในนามองค์ประธาน มูลนิธิหลวงพ่อพูล กองทุนหลวงพ่อพูล กองทุนสวดเผาฟรีวัดไผ่ล้อม เป็นองค์ประธานในพิธีบวงสรวงซ่อมแซมและสร้างเตาเผาศพปลอดมลพิษ ของวัดไผ่ล้อม จุดธูปเทียนบูชาพระรัตนตรัย พร้อมด้วยนายสมชาติ (นายเงี๊ยบ)สาลีพัฒนา เจ้าของร้านก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นปลานายเงี๊ยบ เป็นประธานฝ่ายฆราวาส และคณะศิษยานุศิษย์ ซึ่งพิธีการ เริ่มตั้งแต่เวลา09.09 น. โดยอาจารย์เบ๊นซ์ บัณฑิตศิษย์มีครู เป็นผู้ดำเนินพิธีกล่าวอัญเชิญเทพยดา สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย บูรพาจารย์ ที่ปกปักรักษาคุ้มครอง ในเขตสังฆมณฑลวัดไผ่ล้อม ได้โปรดเมตตาประทานพรให้คณะศิษยานุศิษย์วัดไผ่ล้อมและผู้ที่ร่วมบุญกับวัดไผ่ล้อม ตลอดจนผู้สร้างคุณประโยชน์แก่พระพุทธศาสนา ซึ่ง นายเงี๊ยบ ประธานฝ่ายฆราวาส ได้เปิดเครื่องเส้นสังเวย
และในพิธีหลวงพี่น้ำฝน เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม ได้จุดธูปมงคล และขึ้นเลข 205 โดยก่อนหน้านี้ได้มีพิธีเผาศพผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 เป็นรายที่150 มีอายุ98 ปี เป็นศพผู้เสียชีวิตจากโควิด-19ที่ทางเมรุวัดไผ่ล้อมได้ฌาปนกิจมาอีกด้วย
สืบเนื่องจากเมรุเผาศพวัดไผ่ล้อม ได้เผาศพผู้ติดเชื้อไวรัส โคโรนา โควิด-19 มาอย่างต่อเนื่องวันละหลายศพอย่างหนัก จนทำให้เกิดความร้อนสะสม อิฐทนไฟต่างๆรวมทั้งปล่องปูนระบายความร้อน ทำให้ยอดปล่องหักตกใส่หลังคาทำพระคนร่วมงานผวาก่อนตรวจสอบก็พบปล่องเริ่มร้าวหนักหลังไม่ได้พักมา 2 ปีเศษ หลวงพี่น้ำฝน จึงได้หารือคณะศิษย์ และได้เห็นว่าสมควรแก่เวลาที่จะต้องมีการซ่อมเตาเผาศพปลอดมลพิษพร้อมจัดสร้างเตาเผาศพ ให้เป็นแบบคู่มาติดตั้ง เพื่อสามารถรองรับในการเผาศพ จากวันละ 3 ศพ ให้สามารถเผาเตาคู่ได้ถึง 6 ศพ และสามารถเพิ่มกำลังไปได้ถึงวันละ 8 ศพโดยมีการวางแผนเพื่อยกระดับอุปกรณ์ โดยไม่มีหยุดการรับเผาร่างผู้ป่วยที่ติดเชื้อโควิด-19 และพิธีการยังครบถ้วน คงเดิมตลอดการซ่อมและสร้างเตาเผาศพปลอดมลพิษ จากสถานการณ์และตัวเลขผู้ติดเชื้อและเสียชีวิต พระยังคงมีหน้าที่เผาศพช่วยเหลือรวมถึงหน้าที่อื่นที่ต้องช่วยสังคมในสถานการณ์นี้ไม่ได้และวัดต้องปรับตัวเพื่อให้เป็นวัดของประชาชนอย่างแท้จริง
และตั้งแต่โบราณกาลมา มนุษย์ให้ความนับถือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เทพยดา เป็นผู้ชี้ชะตาและนำทางชีวิต ในทุกๆ การตัดสินใจ หรือเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงเพื่อเริ่มต้นสิ่งใหม่ในชีวิตสิ่งหนึ่งที่ขาดไม่ได้ก็คือ “การบวงสรวง” ต่อเทวดาฟ้าดิน สิ่งศักดิ์สิทธิ์ เพื่อความเป็นสิริมงคล
“การบวงสรวง” คือการบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายในลักษณะการอัญเชิญ เพื่อให้เกิดสิริมงคลกับตัวเอง กิจการงานต่างๆ หรือเป็นการขออนุญาตก่อนจะเริ่มทำสิ่งหนึ่งสิ่งใด ซึ่งอาจเป็นการบุกรุก รบกวนต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เป็นการแสดงตนว่าไม่ได้มีเจตนาที่จะลบหลู่จากการกระทำนั้นๆ
หลังเสร็จพิธีการบวงสรวง ในช่วงเช้า หลังจากนั้นในเวลา 21.59 น. ได้มีพิธีการ ไหว้ขอขมาเตาเผาศพที่เผาร่างผู้เสียชีวิตมาเป็นเวลาถึง16ปีแล้ว โดยมี พระครูปลัดสิทธิวัฒน์ หลวงพี่น้ำฝน เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม เป็นองค์ประธานในพิธี จุดธูปมงคล เลข 903 และจัดเครื่องเส้นไห้ว สำรับคาว และหวาน พร้อมคณะสงฆ์วัดไผ่ล้อม และคณะศิษยานุศิษย์วัดไผ่ล้อม สวดมนต์ อธิฐานจิตแผ่เมตตาและบังสุกุล ให้แก่ดวงวิญญาณทั้งหลาย พร้อมกันนี้ อาจารย์เบ๊นซ์ บัณฑิตศิษย์มีครู และคณะได้ดำเนินพิธีการ ทั้งแบบจีน ด้วยการสวดมนต์จีน และไทย เชิญดวงวิญญาณต่างๆมารับเครื่องเส้นไหว้ ทั้งคาวและหวาน เพื่อให้ถูกต้องก่อนที่ทำการซ่อมแซมและสร้างเตาเผาใหม่ รวมทั้งเป็นการอุทิศส่วนบุญส่วนกุศลให้กับวิญญาณผู้เสียชีวิตที่ได้มาทำการฌาปนกิจที่เมรุวัดไผ่ล้อมก่อนหน้านี้
การสร้างเมรุเผาศพนั้น เป็นการสงเคราะห์ผู้อื่น การที่จะสร้างเมรุเผาศพไม่ว่าจะเป็นลักษณะใด ราคามากน้อยปานใด ถ้าผู้สละทรัพย์ มีจิตหวังในบุญกุศล มิได้หวังผลอย่างใดตอบแทน เป็น กรรมสุจริต ผลิตผลในทางดี อานิสงส์ที่ได้จะแรงกล้า ส่งผลดี ๆกลับมาหาเราในเรื่องต่าง ๆ ดังคำโบราณกล่าวไว้ว่า จะทำให้ปราศจากโรคภัยไข้เจ็บหรือหากเจ็บป่วยอยู่ก็จะทำให้หายวันหายคืน ทุเลาเบาบางลงได้ ทำให้มีอายุยืน มีสุขภาพที่แข็งแรง เป็นเคล็ดช่วยต่อดวงชะตา ทำให้วิบากกรรมได้เบาบางลง ทำให้มีความเจริญก้าวหน้าในหน้าที่การงาน มีความเจริญในทรัพย์สินไม่มีขาดมือ ทุกชาติที่เกิดนั้นไม่เป็นทุกข์ เพราะผลกรรมชั่ว เพราะการสร้างเชิงตะกอนหรือเมรุนั้นเป็นกุศลกรรม เสมือนเพื่อนที่เตือนคอยสะกิดไม่ให้ทำชั่วนั่นเอง
ซึ่งหลังเสร็จพิธีการ กลุ่มนักเสี่ยงโชค ต่างจับกลุ่มคุยเรื่องเลข ธูปมงคลในพิธีช่วงเช้า205 และ เลข 903 ในช่วงค่ำ ต่างนำเลขไปเสี่ยงโชคที่แผงลอตเตอรี่จนเกลี้ยงแผงทุกเลขเลยทีเดียว
และในส่วนผู้จะร่วมบุญซ่อมและสร้างเตาเผาศพปลอดมลพิษ สามารถร่วมบุญได้ที่
ชื่อบัญชี กองทุน สวดเผา ฟรี วัดไผ่ล้อม นครปฐม เลขบัญชี 516-1-01179-9 ธนาคารกสิกรไทย