นายวิญญู สัตบุตร หัวหน้าทีมชุดปฏิบัติการฉุกเฉินพิเศษตอบโต้ COVID-19 มูลนิธิเสมอกันกู้ภัยสุพรรณบุรี เปิดเผยที่ผ่านมาตนและทีมงานพร้อมช่วยเหลือประชาชนไม่ว่าจะนำผู้ป่วยไปรักษา พาไปตรวจ นำไปกักตัวที่สถานกักกัน(LQ.) และส่งกลับบ้านเมื่อรักษาหาย รวมถึงนำร่างผู้เสียชีวิตจากการติดเชื้อโควิด-19 นำไปฌาปนกิจ ทุกคนทำด้วยจิตอาสา ล่าสุดยังได้ช่วย สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์(พม.) ในการรับส่งผู้ป่วยที่หายจากโรคโควิด-19 กลับบ้าน ซึ่งปกติมูลนิธิเสมอกัน ได้จัดอาสาสมัครเข้าช่วย รพ.ศูนย์เจ้าพระยายมราช รพ.สนามแต่ละอำเภอ ในการที่รับผู้ป่วยเข้าทำการตรวจรักษา
โดยเฉพาะในช่วง ประมาณ 1 เดือนที่ผ่านมาได้รับการประสานจาก พม.ให้ช่วยเหลือนำผู้ป่วยที่รักษาตัวหายแล้วกลับบ้าน ถือเป็นหน้าที่ที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งของพวกเรา ที่มีความภาคภูมิใจที่ได้เข้ามาช่วยเหลือสังคม เนื่องจากว่าผู้ป่วยที่รักษาหายแล้วมีการเฝ้ารอการกลับมาของคนที่บ้าน รวมถึงตัวผู้ป่วยเองก็อยากจะกลับบ้าน แต่ผู้ป่วยเหล่านี้ ตรงนี้อาจจะไม่มีเรื่องค่าใช้จ่ายในการเดินทาง หรือยานพาหนะในการที่จะเดินทางกลับบ้าน ทางมูลนิธิกู้ภัยเสมอกัน จึงเข้ามาช่วยตรงในส่วนนี้อย่างเต็มที่ โดยที่ไม่ได้เรียกร้องค่าใช้จ่ายใดๆทั้งสิ้น
“จำนวนผู้ป่วยแต่ละวันมีมากขึ้น พวกเราจึงทำงานกันอย่างเต็มที่ ไม่มีปริปากบ่น แม้ไม่เคยได้ค่าตอบแทนแม้กระทั่งค่าน้ำมัน พวกเราต้องออกกันเอง แต่ก็ยินดี เพราะทำด้วยใจ ทำด้วยจิตอาสา บางครั้งก็มีผู้ใจบุญช่วยบริจาคค่านำมันมาบ้าง แต่ก็ยังไม่พอ เนื่องจากพวกเราต้องวิ่งรับส่งผู้ป่วยเข้ารักษา และรักษาหายแล้วทุกวัน พวกเราจุดมุ่งหมายเดียวกันคือทำเพื่อประชาชนที่เดือดร้อน ให้เขาเหล่านั้นมีความสุข ไม่ว่าจะเป็นใคร”เพราะทุกชีวิตมีค่าเสมอกัน”
นายวิญูญู กล่าวต่อว่าทีมของตนรับทั้งผู้ป่วย ผู้เสียชีวิต จากโควิด-19 มาตั้งแต่เกิดการระบาดใหม่ๆ จนปัจจุบันก็ยังทำกันอยู่ ถ้าเราไม่ทำใครจะทำ บาง รพ.ในสุพรรณบุรี ที่มีกู้ภัยหน่วยอื่นประจำอำเภอ ยังประสานมาที่ตนให้ไปรับคนป่วย คนเสียชีวิต เพราะเขาทราบว่าทีมของตนรับทุกเคส มีหลายคนถามว่าไม่กลัวติดโรคโควิด19 ตอบว่ากลัว แต่ไม่มีใครทำเราต้องทำ จนกว่าจะหมดแรงกาย แรงใจ ที่มีอยู่
ด้านผู้ป่วยที่รักษาอาการโควิด-19 หายแล้ว รายหนึ่ง เป็นชาว ต.องค์พระ อ.ด่านช้าง เปิดเผยว่าหลังจากรักษาหายตอนแรกคิดว่าจะกลับบ้านอย่างไร จนกระทั่งได้รับการประสานว่ามีมูลนิธิกู้ภัยนำส่งถึงบ้านก็รู้สึกดีใจ และที่ประทับใจมากตนเองก็ไม่ค่อยมีเงิน แต่อยากตอบแทนในการเติมน้ำมันเชื้อเพลิงให้ แต่พวกเขาไม่ยอมรับ ทั้งที่ต้องควักกระเป๋าเติมน้ำมันกันเอง ต้องขอชมในน้ำใจที่มีจิตอาสาอย่างแท้จริง