นาง อุรัยวรรณ์ แสงแก้ว หัวหน้าบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดสุพรรณบุรี เป็นประธานเปิดโครงการตามรอยพ่ออยู่อย่างพอเพียง “เสริมสร้างอาชีพทำน้ำยาล้างจาน”ณ บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดสุพรรณบุรี ตำบลท่าพี่เลี้ยง อำเภอเมืองสุพรรณบุรี เมื่อวันที่ 11 กรกฎาคม 2564 ที่ผ่านมา
พร้อมกล่าวว่า ด้วย ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง เป็นหลักคิด และหลักปฏิบัติในการดำเนินชีวิตเพื่อนำไปสู่ความพอเพียง เป็นปรัชญาที่ชี้ถึงแนวทางการดำรงอยู่และปฏิบัติตน ของคนไทย สังคมไทย เพื่อให้ก้าวทันต่อยุคโลกาภิวัฒน์ เพื่อให้เกิดความก้าวหน้าไปพร้อมกับความสมดุลและพร้อมรับต่อการเปลี่ยนแปลง อย่างรวดเร็ว ซึ่งปัจจุบันสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า( COVID-19) ส่งผลให้เศรษฐกิจโลกเผชิญภาวะวิกฤตครั้งรุนแรงอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
สำหรับประเทศไทยการระบาดระลอกใหม่ที่รุนแรงมากขึ้น ทำให้เศรษฐกิจค่อนข้างได้รับผลกระทบอย่างหนัก จากปัญหาการถูกเลิกจ้างงาน การถูกลดเงินเดือน ทำให้กำลังซื้อและเงินออมลดลงจนกลายเป็นปัญหาสภาพคล่องทางการเงิน และภาระหนี้ครัวเรือนอยู่ในระดับสูงดังนั้นการลดภาระค่าใช้จ่าย และการใช้จ่ายอย่างพอเพียงจะเป็นวิธีที่ดีที่สุดที่จะทำให้เราวิกฤตนี้ไปได้ เช่น การลดค่าใช้จ่ายในครัวเรือน การทำอาชคพเสริมเพื่อให้มีรายได้เพิ่มขึ้น ซึ่งเริ่มจากการมองสิ่งของที่เราใช้อยู่ทุกวันและสิ้นเปลืองถ้าลดรายจ่ายตรงนี้ได้จะทำให้ประหยัดค่าใช้จ่ายได้ด้วย เช่น น้ำยาล้างจานที่ ทุกบ้านต้องใช้อยู่ทุกวัน ซึ่งถ้าสามารถทำน้ำยาล้างจานใช้เอง ก็จะประหยัดมากขึ้น และนอกจากนี้ก็ยังสามารถทำเป็นอาชีพเสริมเป็นผลิตภัณฑ์น้ำยาล้างจานได้ด้วย
ด้านนายธีรพงษ์ ดำดี ประธานสภาเด็กและเยาวชนจังหวัดสุพรรณบุรี กล่าวเพิ่มเติมว่า สภาเด็กและเยาวชนจังหวัดสุพรรณบุรี ร่วมกับบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดสุพรรณบุรี จัดโครงการดังกล่าวขึ้น เพื่อให้เด็กและเยาวชนมีความรู้ ความเข้าใจขั้นตอนการทำน้ำยาล้างจาน และเป็นการสร้างจิตสำนึกในหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง เพื่อใช้เป็นหลักปฏิบัติในการดำรงชีวิต โดยมีผู้เข้าร่วมกิจกรรม 30 คน