วันที่ 13 กรกฎาคม 2564 นายสฤษดิ์ วิฑูรย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี มอบหมายให้ นายศิลปชัย ประเสริฐศรี นายอำเภอนาเยีย พร้อมด้วย นายวุฒิศักดิ์ ดอกพุฒพัฒนาการอำเภอนาเยีย หัวหน้าส่วนราชการ เจ้าหน้าที่พัฒนาชุมชน ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและผู้นำชุมชนตำบลนาเยีย นักพัฒนาพื้นที่ต้นแบบ (นพต.) ร่วมกิจกรรมเอามื้อสามัคคี ตามโครงการพัฒนาพื้นที่ต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิต ตามหลักทฤษฎีใหม่ ประยุกต์สู่ “โคก หนอง นา พช.” ภายใต้ชื่อกิจกรรม “ฮ่วมแฮง ฮักแพงเอามื้อสามัคคี” ณ แปลงต้นแบบระดับตำบล (Community Lab Model for quality of Life : CLM) นางอุมาพร เมืองจันทร์ บ้านนาเยีย หมู่ที่ 3 ตำบลนาเยีย อำเภอนาเยียจังหวัดอุบลราชธานี
โดยกิจกรรมในครั้งนี้ ประกอบด้วย การยกเสาเอกทำฐานการเรียนรู้ฐานคนหัวเห็ดและปลูกต้นไม้เศรษฐกิจ ปลูกป่า 3 อย่าง ประโยชน์ 4 อย่าง และไม้ผล การห่มดินและใส่ปุ๋ย เพื่อเป็นการรักษาความชุ่มชื้นของผิวดิน ตามหลักกสิกรรมธรรมชาติ การปลูกพืชสมุนไพร กระชาย ฟ้าทะลายโจร ข่า ตะไคร้ มะระ ขมิ้นชัน ขิง ว่านหางจระเข้ เพื่อใช้ในการดูแลรักษาสุขภาพ บนพื้นที่ 15 ไร่ แปลงนาต้นแบบระดับตำบล ซึ่งนางอุมาพรเจ้าของแปลงเปิดเผยว่า “ตนมีความภาคภูมิใจและมีกำลังใจที่จะน้อมนำหลักปรัชญของเศรษฐกิจพอเพียง ของในหลวงรัชกาลที่ 9 ไปสู่การปฏิบัติและจะขยายผลเป็นศูนย์การเรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงแก่ประชาชนและผู้ที่สนใจ สำหรับกิจกรรมในวันนี้ ตนมีความสุขมากที่ได้รับโอกาสและร่วมแสดงพลังความสามัคคีในครั้งนี้ ขอบคุณรัฐบาลกรมการพัฒนาชุมชน หน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ กองบัญชาการกองทัพไทย ผู้ว่าราชการจังหวัด พัฒนาการจังหวัด นายอำเภอ พัฒนาชุมชนอำเภอ ผู้นำชุมชน นักพัฒนาพื้นที่ต้นแบบ (นพต.) และผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง ที่มีโครงการดีๆ และสนับสนุนงบประมาณให้ประชาชน ได้มีโอกาสพัฒนาคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้น” จากนั้น คณะที่มาร่วมกิจกรรมฯ ได้รับประทานอาหารกลางวันร่วมกัน ส่งผลให้เกิดความรัก ความผูกพันความสามัคคี ระหว่างครัวเรือนต้นแบบ นักพัฒนาพื้นที่ต้นแบบ และส่วนราชการ ยิ่งขึ้นไปอีกด้วย
โอกาสนี้ นายศิลปชัย ประเสริฐศรี นายอำเภอนาเยีย ได้ให้คำแนะนำในการขับเคลื่อนแปลงตัวอย่างว่า “ขอชื่นชมการดำเนินงานเอามื้อสามัคคีในครั้งนี้ ถือเป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาชุมชนถิ่น โดยการช่วยเหลือเกื้อกูลกันเช่นในวันนี้ ผมในฐานะที่เป็นนายอำเภอ ขอเป็นอีกหนึ่งตัวอย่างในการร่วมขับเคลื่อนและสานต่อแนวพระราชดำริ ร่วมกับผู้นำในพื้นที่ให้ต่อเนื่องและยั่งยืน เพื่อสร้างพลังเกิดความเข้มแข็งจากความรักสามัคคีในชุมชน ไปสู่สังคมแห่งความเกื้อกูล ขอฝากทุกท่านไว้ว่าพื้นที่แห่งนี้ จะเป็นเครื่องมือในการพัฒนาชุมชน เพื่อให้คนในชุมชนมีความรักสามัคคี เป็นแหล่งความมั่นคงทางอาหาร เพื่อถ่ายทอดองค์ความรู้โครงการพัฒนาพื้นที่ต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิต ตามหลักทฤษฎีใหม่ประยุกต์สู่ “โคก หนอง นา พช.” น้อมนำแนวพระราชดำริของในหลวงรัชกาลที่ 9 มาสืบสาน รักษา ต่อยอด สามารถประยุกต์ใช้ได้จริงในการพึ่งตนเอง และสร้างทางรอดในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ในปัจจุบัน” นายอำเภอนาเยีย กล่าวอย่างมีความสุข หลังจากเข้าร่วมกิจกรรม
ขณะที่ นายวุฒิศักดิ์ ดอกพุฒ พัฒนาการอำเภอนาเยีย ได้พบปะกับผู้เข้าร่วมกิจกรรมฯพร้อมนำเสนอแนวทางการขับเคลื่อนโครงการฯ ของกรมการพัฒนาชุมชนว่า “ขอขอบคุณทุกท่านที่ได้มาร่วมกิจกรรมเอามื้อสามัคคี และน้อมนำแนวพระราชดำริของสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารีสร้างความมั่นคงทางอาหาร สู่ปฏิบัติการ 90 วัน ปลูกผักสวนครัวเพื่อสร้างความมั่นคงทางอาหาร รอบ 2 ในครั้งนี้ โดยเฉพาะการปลูกกระชาย ขิง ฟ้าทะลายโจร นั้น ถือเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่สามารถช่วยป้องกันโควิด-19 และบรรเทาอาการเบื้องต้นของไข้หวัดหรือป้องกันการติดเชื้อได้ โดยพบว่าสารสกัดของกระชายขาว สามารถแสดงฤทธิ์ในการต้านไวรัสทั้งในระยะก่อนและหลังการติดเชื้อนอกจากนี้ยังช่วยยับยั้งการแบ่งตัวของเชื้อไวรัสโควิด-19 เช่นเดียวกับ ฟ้าทะลายโจร ซึ่งกรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข ให้การรับรองแล้วว่ามีสารแอนโดรกราโฟไลด์ (Andrographolide) ที่สามารถรักษาโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ได้ โดยให้รับประทานฟ้าทะลายโจรที่มีปริมาณสารแอนโดรกราโฟไลด์ วันละ 180 มิลลิกรัม เป็นเวลา 5 วัน จะช่วยสร้างภูมิคุ้มกันให้แก่ร่างกาย จะเห็นได้ว่าสมุนไพรไทยมีสรรพคุณที่เป็นประโยชน์อย่างมากมายจนทั่วโลกให้การยอมรับ จึงเป็นจุดแข็งของประเทศไทยที่สามารถนำมาช่วยเหลือให้พี่น้องประชาชนรอดพ้นจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ได้เป็นอย่างดี สุดท้ายนี้ ผมขอฝากให้ทุกท่านได้ร่วมกันสร้างความมั่นคงด้านอาหารด้วยการปลูกพืชผักสวนครัวและพืชสมุนไพร ให้เกิดความต่อเนื่อง ให้เป็นทั้งอาหารและยารักษาโรคต่างๆ หลายโรค รวมถึงโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ตามแนวทางของกรมการพัฒนาชุมชน และความรักห่วงใยพี่น้องประชาชน จากท่านสุทธิพงษ์ จุลเจริญ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน” นายวุฒิศักดิ์ กล่าวปิดท้าย