โควิด-19 ทำพิษธุรกิจท่องเที่ยวกระทบหนัก โรงแรมปิดตัว ผู้จัดการทั่วไปลาออกกลับบ้านปลูกกล้วยด่างสร้างอาชีพใหม่สร้างรายได้หลักล้านภายใน 4 เดือน
ที่บ้านเลขที่ 63/51 หมู่บ้านพรทวี หมู่ 2 ต.ท่าพญา อ.ปะเหลียน จ.ตรัง พบกับนายวรวุฒิ กังแฮ อายุ 53 ปี อดีตผู้จัดการทั่วไปโรงแรมดังในจังหวัดกระบี่ ลาออกเพราะพิษโควิด-19 กลับมาอยู่บ้านแต่ด้วยเป็นคนรักต้นไม้ ก่อนที่จะลาออกก็ได้เพาะเลี้ยงกล้วยด่างเป็นงานอดิเรก เมื่อปลายปีที่แล้วโรงแรมมีการปิดให้บริการจึงได้ลาออก ผนวกกับกระแสการเพาะเลี้ยงไม้ด่างเป็นกระแสนิยมที่เริ่มมาแรง มีการซื้อขายไม้ด่างในราคาสูงกว่าพันธุ์ไม้ทั่วไป ตนเองจึงได้ใช้พื้นที่ข้างบ้านประมาณ 30 ตารางเมตร เป็นสวนกล้วยด่างที่มีทั้งต้นพ่อพันธุ์แม่พันธุ์ ต้นอ่อนที่พึ่งแยกหน่อออกมา นับ 100 มีกล้วยด่างสายพันธุ์ไทยและสายพันธุ์นำเข้ามาจากต่างประเทศ อาทิ สายพันธุ์แดงอินโด นำเข้ามาจากประเทศอิโดนิเซีย กล้วยด่างวาค่อม กล้วยด่างฟลอริดา กล้วยเอนเซนเต้ นำเข้ามาจาก สหรัฐอเมริกา สายพันธุ์ไทยก็จะมี กล้วยธานีด่าง กล้วยเทพพนมด่าง กล้วยป่าสตูลด่าง กล้วยป่าสุราษฏร์ธานีด่าง กล้วยป่าตรังทับทิมด่าง และอีกหลายสายพันธุ์ ส่วนราคาจะเริ่มต้นตั้งแต่ 10,000 – 500,000 บาท หรือมากกว่านี้ ขึ้นอยู่กับขนาด อายุ และสายพันธุ์ของกล้วยด่าง ที่ผ่านมาเคยขายวันเดียวได้ 10 ต้น 4 เดือนสร้างรายได้นับล้านบาท การเพราะเลี้ยงกล้วยด่าง มีข้อจำกัดในเรื่องของหน่อกล้วยและต้นกล้ากล้วยด่างโตไม่ทันต่อความต้องการของลูกค้า ต้องมีการสั่งจองและวางมัดจำกันข้ามปี ลูกค้าส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มคนรักกล้วยด่างทั่วประเทศ ส่วนราคาที่สูงเพราะหายากขยายพันธุ์ได้ช้า และที่สำคัญกำลังเป็นกระแสนิยมอยู่ในขณะนี้ แต่ราคาที่สูงไม่มีผลต่อความต้องการของลูกค้า เพราะกล้วยด่างมีค่าทางจิตใจ มากกว่ามาคิดถึงราคา เป็นของสะสม บางคนเลี้ยงกล้วยด่างเพื่อคลายเครียด