เจริญพรญาติโยมผู้อ่านทุกท่าน เมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม พ.ศ.2564 ที่ผ่านมา ทางวัดไผ่ล้อมได้จัดพิธีบูชาคุณพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ผู้ชี้ทางให้มนุษย์เห็นทางพ้นทุกข์ และบวงสรวงบูชาเทพยดาครูบาอาจารย์ และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย ตามแบบอย่างที่กระทำสืบมาในวันวิสาขบูชาของทุกปี แต่ครั้งพระเดชพระคุณหลวงพ่อพูลยังมีชีวิตอยู่ และท่านก็ได้มรณภาพลงในวันวิสาขบูชานี้เอง
ปกติแล้ว พิธีในวันนี้จะเป็นพิธีครอบครูด้วย ซึ่งที่ผ่านมาจะมีศิษยานุศิษย์ทุกเพศทุกวัยทุกสาขาอาชีพ ทั้งศิลปิน นักแสดง มาร่วมงานเป็นจำนวนมาก เรียกได้ว่าคับคั่งแน่นขนัดวัดไปหมด แต่ด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 อาตมาจึงปรับรูปแบบให้เหมาะสม โดยทำพิธีเบื้องหน้าพระพุทธเมตตาประทานพรในวิหารเป็นการบูชาคุณพระพุทธเจ้าเป็นปฐม จากนั้นจึงบวงสรวงบูชาตามตำรับพิธีที่มีแต่โบราณ และเจริญพระพุทธมนต์ บทธัมมจักกัปปวัตนสูตร เป็นการบูชาพระรัตนตรัย
เราบูชาองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน เจอพระเราก็ไหว้ เห็นเจดีย์เราก็ไหว้ ยอกรขึ้นอัญชลีบูชาเป็นการอัตโนมัติ ดังเป็นสิ่งที่อยู่ในจิตใต้สำนึกของพุทธศาสนิกชน แต่อาตมาเชื่อว่าบางทีเราก็ลืมไปว่า เราบูชาอะไรของพระพุทธเจ้าแน่เพราะพระพุทธองค์ก็ปรินิพพานไปแล้วกว่า 2,564 ปี มิได้ทรงดำรงรูปขันธ์อีกแล้ว ทรงเข้าพระนิพพานไปเสียแล้ว แน่นอนว่าพระพุทธเจ้าทรงเป็นบุคคลอันควรแก่การสักการบูชาอย่างไม่มีข้อสงสัย แต่เหตุที่ทรงเป็นเช่นนั้น เป็นเพราะเหตุใดแน่
เหตุที่เป็นเช่นนั้น เพราะพระองค์มีพระคุณยิ่ง พระคุณในที่นี้ พระพุทธโฆษาจารย์ พระมหาเถราจารย์แห่งลังกาทวีป ได้แสดงในคัมภีร์วิสุทธิมรรคว่า
ทรงประกอบด้วยพระปัญญาคุณ คือ ทรงรู้แจ้งในอริยสัจทั้งสี่ข้ออย่างแจ้งแทงตลอด อันเป็นความจริงของโลกที่มิมีใครโต้แย้งได้ เป็นความจริงในทุกโลกธาตุ ทรงประกอบด้วยพระวิสุทธิคุณ คือ ทรงพ้นจากกิเลสทั้งปวง คือ ความโลภ โกรธ หลง จึงนับว่าทรงเป็นผู้บริสุทธิ์ ดุจเทพเทวา ที่เรียกว่า วิสุทธิเทพ คือ ผู้เป็นเทวดาได้ด้วยความบริสุทธิ์ทรงประกอบด้วยพระกรุณาคุณ คือ ทรงปรารถนาให้สรรพสัตว์ทั้งหลายได้พ้นทุกข์ จึงเสด็จออกสั่งสอนธรรม นับแต่ตรัสรู้จนปรินิพพานเป็นเวลากว่า 45 ปี
พุทธคุณทั้งสามนี้ คือ พระคุณอันยิ่งของพระองค์ มีความเกี่ยวเนื่องกันทั้งสามประการพระองค์ทรงเป็นพระสัมมาสัมพุทธะ คือ ผู้ตรัสรู้ชอบได้ด้วยพระองค์เองแล้วออกสั่งสอนสรรพสัตว์ทั้งหลายให้พ้นทุกข์ ด้วยพระมหากรุณาคุณ สิ่งที่ทรงสั่งสอนนั้น รวมใจความแล้วก็ย่อมสำแดงพระคุณอีกสองประการ คือ พระวิสุทธิคุณ ทรงสั่งสอนว่ามนุษย์เรานั้นวิสุทธิ์ได้ ด้วยการถอนตัวถอนใจออกจากกิเลสทั้งปวงเสีย และสำแดงปัญญาคุณ ทรงสั่งสอนว่าความจริงของโลกเป็นเช่นใด มีทุกข์ มีเหตุของทุกข์ และการดับทุกข์นั้นมีจริงมีวิธีดับทุกข์ได้จริง ทรงสอนว่ามนุษย์เราพ้นทุกข์ได้จริงด้วยศักยภาพของตนเอง เหตุนี้พระองค์จึงดังเป็นผู้ชี้ทางให้มนุษย์เห็นทางพ้นทุกข์ พระพุทธองค์มิใช่ผู้ทำให้พ้นทุกข์โดยตรง พระองค์มิใช่พระเจ้า หรือเทพเจ้า แต่พระองค์คือพระมหาบุรุษที่ได้พบกับอมตรส ได้พบกับทางสว่างแล้ว จึงบอกแก่ชาวโลกให้ได้รู้ และเชิญชวนชาวโลกให้เดินตามเส้นทางที่พระองค์พบ บุคคลเช่นนี้ จึงนับได้ว่า เป็นครู ดังความในพุทธคุณที่เราสวดกันทุกเมื่อเชื่อวันว่า สตฺถา เทวมนุสฺสานํ ทรงเป็นศาสดาของเทวดาและมนุษย์ทั้งหลายทรงเป็นครูของผู้คนทุกชนชั้น ศิษย์ของพระองค์มีตั้งแต่มหาราชา ไปจนถึงยาจกคนยากไร้ ถึงทุกวันนี้ คำสอนของพระองค์ก็อยู่ในจิตใจของคนทุกชนชั้น ทรงสอนให้คนเป็นคน ให้มนุษย์เป็นมนุษย์จริง ๆ ดังคำว่า เป็นมนุษย์เป็นได้เพราะใจสูง ธรรมะของพระองค์ขัดเกลาคนจากคนดิบเป็นคนสุก ขัดจากใจที่หยาบเต็มไปด้วยอกุศล ให้มีใจละเอียดเต็มไปด้วยจิตกุศล
พระพุทธองค์ทรงเป็นผู้มีปาฏิหาริย์ทั้งสามประการ คือ อิทธิปาฏิหาริย์ คือ แสดงฤทธิ์ต่าง ๆ นานา อาเทสนาปาฏิหาริย์ คือ การทายใจ อ่านใจคนได้ และอนุสาสนียปาฏิหาริย์ คือ การสั่งสอนอันน่าอัศจรรย์ สร้างปาฏิหาริย์ให้เกิดขึ้นแก่จิตใจของผู้รับการสอน พระพุทธองค์ทรงมีพร้อมทั้งสามสิ่ง แต่ทรงสรรเสริญอนุสาสนียปาฏิหาริย์ที่สุดและนั่นคือปาฏิหาริย์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุด เพราะถึงพระพุทธองค์จะเหาะ จะพ่นไฟพ่นน้ำ จะอ่านใจคนทะลุปรุโปร่งเพียงใด ก็ไม่สู้การเปลี่ยนจิตใจคน ขัดเกลาจิตใจคน อันเป็นส่วนที่อยู่ลึกข้างใน ไม่มีใครมองเห็นได้จากภายนอก พระองค์ทรงทำได้ และทำได้อย่างดี จนพระศาสนาของพระองค์แผ่ไปไพศาลทั่วทั้งชมพูทวีป ตลอดจนที่อื่น ๆ ในโลก จนพุทธศาสนานั้นปักธงธรรมได้ในเกือบทุกทวีปทั่วโลก มีคนจำนวนไม่น้อยที่ได้พบกับอริยทรัพย์ของพระพุทธองค์ คือพระนิพพานจริง ๆ นี่คือความอัศจรรย์ที่สุด เป็นอภิมหาปาฏิหาริย์อันแท้จริง
ด้วยเหตุฉะนี้ จึงเป็นสิ่งเพียงพอแล้วที่พระพุทธองค์จะเป็นผู้ควรแก่การเคารพบูชากระทำอัญชลี ทรงควรแก่เครื่องสักการะทั้งหลาย แม้พระองค์จะปรินิพพานไปนานแล้วก็ตาม พระคุณของพระองค์นั้นมิได้เสื่อมไปตามกาลเวลา เพราะสิ่งที่พระองค์พบ คือธรรม เป็นสิ่งที่เป็นอกาลิโก เป็นจริงเสมอในทุกเวลา พระองค์ทรงค้นพบสิ่งที่ยิ่งใหญ่เพียงนั้น และนำมาสั่งสอนมนุษย์ นั่นคือพระคุณอันมหาศาลที่ยากจะเสื่อมลงได้
วันวิสาขบูชา วันสำคัญของโลกที่เพิ่งผ่านพ้นไป จึงเป็นวันที่ชาวพุทธควรได้ระลึกถึงพระพุทธองค์ผู้เป็นบรมครูให้มาก วันวิสาขบูชานั้นเป็นวันที่ระลึกถึงการประสูติ ตรัสรู้และปรินิพพานของพระพุทธองค์ เป็นวันที่เกี่ยวข้องกับการเกิด และการตาย และในวันที่พระองค์ตรัสรู้ พระองค์ตายจากโลกแห่งกิเลสตัณหาทั้งปวง ทรงพิชิตกิเลส ทรงถอนพ้นแล้ว แล้วจึงทรงเกิดใหม่ในโลกแห่งความบริสุทธิ์ โลกแห่งโพธิจิต โพธิจิตได้เกิดขึ้นแล้ว ขอเจริญพร