วันที่ 14 พฤษภาคม 2561 เมื่อเวลา 00.03 น.พันตำรวจโท วีรวิทย์ ลภัสจารสกุล สารวัตร(สอบสวน) สถานีตำรวจภูธรเมืองนครปฐม รับแจ้งเหตุรถยนต์เก๋งชนเกาะกลาง เกิดไฟลุกไหม้เหตุเกิด ชวงยูเทิร์นถนนเพชรเกษม ทางแยกเข้าวัดลาดหญ้าแพรก หมู่ที่ 10 ตำบล สระกระเทียม อำเภอเมืองจังหวัดนครปฐม ขาเข้า กทม. จึงประสาน กู้ภัยมูลนิธิ กู้ภัยมูลนิธิสุขศาลานุเคราะห์นครปฐม หน่วยบรรเทาสาธารณภัยเทศบาลนครนครปฐม เพื่อเข้าช่วยเหลือ ควบคุมเพลิง ก่อนรุดไปที่เกิดเหตุ พร้อมส่วนเกี่ยวข้อง
ที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่หลายฝ่ายกำลังช่วยกันควบคุมเพลิงที่กำลังลุกไหม้รถยนต์เก๋ง Toyota Camry สีขาวทะเบียน 3กฎ 4141 กทม. ซึ่งมีสภาพ พังยับ จากการตรวจสอบ พบรอยเบรคเป็นทางยาวก่อนจะ พุ่งชนเกาะยูเทิร์น จนเกิดเพลิงไหม้ หลังเพลิงสงบพบ ร่างผู้เสียชีวิตสภาพไหม้เกรียมอยู่ในที่นั่งคนขับ 1 ศพ เป็นชายและที่นั่งผู้โดยสารตอนหน้าด้านซ้าย 1 ศพ เบื้องต้นคาดว่าจะเป็นหญิง และการตรวจสอบ เอกสารที่ ยังไม่ถูกเพลิงเผาเสียหาย พบบัตรประจำตัวประชาชนระบุชื่อนางสาวจิราพร โต้งฟ้า เกิดวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2541 อยู่บ้านเลขที่ 35/1 หมู่ 3 ตำบลนาสวนอำเภอศรีสวัสดิ์จังหวัดกาญจนบุรี และพบเอกสารกรมธรรม์ประกันภัย บริษัทวิริยะประกันภัย ประกันรถยนต์ Toyota Camry ทะเบียน 3กฎ.4141 กทม.ระบุชื่อเจ้าของทรัพย์ ที่ประกัน ชื่อนายชินโชติ หวายนำ เกิดวันที่ 17 มกราคม 2531 อยู่บ้านเลขที่ 109/336 หมู่ 17 ตำบลบางเสาธง อำเภอบางเสาธง จังหวัดสมุทรปราการ กับภาพถ่าย สุภาพบุรุษหน้าตาดี ซึ่งใบหน้าตรงกับในเอกสารสำเนา ข้อมูลทะเบียนราษฎร์ของนายชินโชติ หวายนำ ซึ่งยังไม่สามารถยืนยันได้ว่าศพผู้เสียชีวิตถูกไฟไหม้คาซากรถจะ เป็นบุคคลทั้งสอง ที่พบเอกสาร ในรถหรือไม่ หลัง ควบคุมเพลิงและนำ ร่างผู้เสียชีวิตออกมา ส่ง ส่งโรงพยาบาลศูนย์นครปฐมเพื่อ ผ่าพิสูจน์และหาอัตลักษณ์บุคคล เพื่อติดต่อ ญาติ
ขณะเดียวกัน หลังจาก ตรวจที่เกิดเหตุ ส่งร่างผู้เสียชีวิต ไปโรงพยาบาลศูนย์นครปฐมเพื่อ พิสูจน์หาแต่ละบุคคลแล้ว ธนทรัพย์สวนเจ้าของคดี ได้พยายาม ประสานติดต่อ ไปยัง สถานีตำรวจท้องที่ ที่ระบุ ในเอกสาร ที่พบ เหลือในซากรถ ที่ไม่ถูกเพลิงเผาไหม้ ทั้ง ที่อยู่ของนายชินโชติ และที่อยู่ของนางสาวจิราพร แต่ยังไม่สามารถประสานการติดต่อ ได้ จึงไม่สามารถยืนยันได้ว่า ผู้เสียชีวิต ที่ถูกไฟคลอก อยู่ในซากรถ จะใช่ นายชินโชติ และนางสาวจิราพรหรือไม่
นอกจากนี้ พนักงานสอบสวน ยังพบกล้องหน้ารถ ซึ่ง น่าจะเป็นกล้องที่ติดอยู่ในรถคันที่เกิดเหตุ ที่กระเด็นหลุดออกมาจาก กระจกหน้ารถ และรอดพ้นจากการถูกเพลิง เผาไหม้ จึงนำเมมโมรี่การ์ดมาเปิดตรวจสอบ พบว่า รถคันดังกล่าวขับมาด้วยความเร็วสูง โดยก่อน จะประสบเหตุ รถคันดังกล่าวได้วิ่งมาทางช่องทางด้านขวาสุด ด้วยความเร็วที่ 181 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และเมื่อถึงจุดเกิดเหตุ เชื่อว่าคนขับอาจจะเห็นว่าช่องทางที่วิ่งนั้นเป็นช่องทางยูเทิร์นซึ่งด้านหน้าเป็นเกาะกลาง ที่กั้นเพื่อให้รถยูเทิร์น จึงได้ยกคันเร่ง พร้อมเบรค ก่อนจะชน แล้วพลิกคว่ำ และกล้องก็หยุดการบันทึกไป ซึ่งขณะที่ชนพบว่าความเร็วของรถอยู่ที่ 162 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และก่อนจะชนมีเสียงสุภาพสตรีร้อง “ว๊าย”ตามด้วยเสียงรถชนพลิกคว่ำ แล้วเงียบไป…
( ขอบคุณ ภาพ-คลิป โก๋บอล 60 มูลนิธิสุขศาลานุเคราะห์ นครปฐม)