วันที่ 3 พฤษภาคม 2564 เวลา 08.30 น. นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย เป็นประธานในพิธีเปิดกรวยดอกไม้ธูปเทียนแพ ถวายราชสักการะ และลงนามถวายพระพรชัยมงคล เนื่องในวันฉัตรมงคล 4 พฤษภาคม 2564 พร้อมนำคณะผู้บริหาร ข้าราชการ เจ้าหน้าที่กรมการพัฒนาชุมชน และภาคีเครือข่ายร่วมบริจาคโลหิตเพื่อระลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ณ ห้องสัมมนา 3003 ชั้น 3 กรมการพัฒนาชุมชน
นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน เปิดเผยว่า ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณในพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระวิริยะอุตสาหะ มุ่งมั่นปฏิบัติพระราชกรณียกิจนานัปการเพื่อความผาสุกของประเทศชาติและประชาชนชาวไทย ทรงเจริญรอยตามเบื้องพระยุคลบาทของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศรมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ด้วยพระราชดำริที่ล้วนสร้างสรรค์ความผาสุกสงบแก่พสกนิกรชาวไทย และความมั่นคงมาสู่ประเทศมาโดยตลอด พระองค์ทรงห่วงใยในสุขภาพและพลานามัยของพสกนิกรชาวไทยเป็นอย่างยิ่ง กรมการพัฒนาชุมชนร่วมกับภาคีเครือข่าย และประชาชนทั่วไป จึงจัดกิจกรรมบริจาคโลหิตให้กับศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทยในครั้งนี้ จึงถือเป็นการปฏิบัติบูชา น้อมเกล้าฯถวายเป็นพระราชกุศล ตลอดจนสนองงานตามพระราชปณิธานสืบสาน รักษา และต่อยอด สร้างคุณค่า และทำคุณประโยชน์คืนสู่สังคมต่อไป และด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ระลอกใหม่ขณะนี้ ไม่ใช่ปัญหาเฉพาะด้านสุขภาพเท่านั้น แต่ยังส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและสังคมโดยรวม วิกฤตครั้งนี้ยังผลให้ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ ไม่สามารถจ่ายเลือดให้กับโรงพยาบาลต่าง ๆ ได้อย่างเพียงพอ เนื่องจากผู้บริจาคโลหิตมีจำนวนลดลงทุกแห่งทั่วประเทศ เนื่องจากสภากาชาดไทยไทยมีความต้องการรับบริจาคโลหิตวันละ 1,800 – 2,000 ยูนิต เดือนละไม่ต่ำกว่า 58,000 ยูนิต จากการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ในปัจจุบันส่งผลให้มีปริมาณโลหิตบริจาคลดลงมากถึงร้อยละ 50 ผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลต่าง ๆ โดยเฉพาะในโรงพยาบาลใหญ่ๆ หลายแห่งมีความต้องการเลือดสูงมาก ที่ต้องทำการรักษาด้วยการผ่าตัดให้ผู้ป่วย รวมทั้งผู้ป่วยเด็กโรคเลือดที่ต้องใช้เลือดในปริมาณมากและต่อเนื่อง ด้วยภาวะขาดแคลนอย่างหนักเช่นนี้ กรมการพัฒนาชุมชนจึงขอเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างกุศลครั้งใหญ่ โดยอธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน พร้อมด้วยผู้บริหาร ข้าราชการ กรมการพัฒนาชุมชน ตลอดจนประชาชน ภาคีเครือข่ายทุกภาคส่วน จำนวน 186 คนร่วมบริจาคโลหิต ซึ่งในวันนี้มีปริมาณโลหิตที่ได้รับบริจาค จำนวน 134 ยูนิต หรือประมาณ 46,900 ซีซี เพื่อสร้างประโยชน์แห่งการต่อชีวิต ให้มีโลหิตสำรองสำหรับผู้เจ็บป่วยอย่างเพียงพอต่อไป
นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน กล่าวเพิ่มเติมว่า “เนื่องในโอกาสมหามงคล พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว กรมการพัฒนาชุมชน จึงได้จัดกิจกรรมปฏิบัติบูชาเพื่อถวายเป็นพระราชกุศล ประกอบด้วยกิจกรรมปลูกป่าเฉลิมพระเกียรติ ปลูกต้นยางนา ต้นตาลโตนด เมล็ดปอเทือง เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล ณ บริเวณเขาขยาย ตำบลเขาพระ อำเภอเมืองจังหวัดชัยนาท โดยได้ดำเนินการไปแล้วเมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม 2564 เพื่อสร้างความมั่นคงทางอาหารแก่พี่น้องประชาชน สมดั่งพระบรมราชโองการที่พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้พระราชทาน ความว่า “เราจะสืบสาน รักษา และต่อยอด และครองแผ่นดินโดยธรรม เพื่อประโยชน์สุขแห่งอาณาราษฎรตลอดไป” และที่สำคัญอีกเรื่องหนึ่งที่ซึ่งถือเป็นความภาคภูมิใจของกรมการพัฒนาชุมชนเป็นอย่างมาก ก็คือการได้รับพระบรมราชานุญาตให้จัดพิมพ์หนังสือเฉลิมพระเกียรติเนื่องในวันฉัตรมงคล คือ“หนังสือโคก หนอง นา แห่งน้ำใจและความหวัง กรมการพัฒนาชุมชน” ซึ่งจัดพิมพ์แล้วเสร็จ ในวันที่ 4 พฤษภาคม 2564 และจะได้จัดส่งให้หน่วยงานต่างๆ ห้องสมุดประชาชนทั่วประเทศ” นายสุทธิพงษ์ กล่าว
กรมการพัฒนาชุมชน หวังเป็นอย่างยิ่งว่ากิจกรรมบริจาคโลหิตนี้จะเป็นสื่อกลางก่อเกิดความอิ่มเอมใจให้กับทั้งผู้ให้ ผู้รับ และสังคม ช่วยเติมเต็มความต้องการของศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย และขอให้ความเชื่อมั่นว่า กรมการพัฒนาชุมชนปฏิบัติตามมาตรการของ ศบค. รักษามาตรการสร้างความมั่นใจให้เป็นสถานที่ปลอดภัยจาก COVID-19 มีการควบคุม ดูแล รักษาความสะอาด อุปกรณ์ สถานที่ และสุขอนามัยของผู้มาบริจาคโลหิต และบุคลากรที่ปฏิบัติงาน เพื่อให้มั่นใจว่าไม่มีความเสี่ยงในการแพร่เชื้อจากการบริจาคในครั้งนี้ และถือว่าเป็นอีกหนึ่งความดีที่ทำได้โดยไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ ทั้งนี้ ขอเชิญชวนผู้ที่มีใจกุศล มีสุขภาพร่างกายแข็งแรง ร่วมบริจาคโลหิตฝ่าวิกฤติโควิด-19 เพื่อส่งต่อโลหิตที่ปลอดภัยให้กับผู้ป่วย ได้ทุกโรงพยาบาลทั่วประเทศ หรือสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติสภากาชาดไทย โทร.0 2256 4300 หรือ 1664