เมื่อวันที่28 เมษายน 2564 ที่ ฌาปณสถานวัดไผ่ล้อม ต.พระปฐมเจดีย์ อ.เมืองจ.นครปฐม พระครูปลัดสิทธิวัฒน์ หลวงพี่น้ำฝน เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม เป็นประธานจุดเผาศพโควิดรายที่10ที่จัดฌาปณกิจ ณ วัดไผ่ล้อมแห่งนี้ ซึ่งเป็นผู้เสียด้วยอาการปอดติดเชื้อ โควิด-19 ทราบชื่อคือนายจันทร์ นามสมุมติ อายุ 61 ปี พักอาศัยอยู่ ตำบลบางเตยอำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม ซึ่งคนในครอบครัว จำนวน 6 คน ติดเชื้อโควิด-19 และเข้ารักษาตัว ส่วนผู้เสียชีวิตมีอาการหนักเพราะป่วยมีโรคประจำตัว เข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลนครปฐม ตั้งแต่วันที่ 14 เมษายน ที่ผ่านมา และเสียชีวิตลงเมื่อวันที่ 24 เมษายน
โดยในวันนี้ทางภรรยาลูก และหลาน พร้อมเจ้าหน้าที่สาธารณสุขอำเภอเมืองนครปฐมรวม5คน ร่วมพิธีด้วยความอาลัย ในส่วนของสถานการณ์โควิด-19 จังหวัดนครปฐมระลอกใหม่ วันที่ 28 เมษายน 2564 เวลา 10.00 น.พบผู้ป่วยยืนยันรายใหม่ 30 ราย รวมยอดผู้ป่วยสะสมระลอกใหม่ 662 ราย
ผู้ป่วยรายใหม่ 30 ราย จำแนกเป็นผู้ติดเชื้อรายใหม่ 7 ราย
ผู้สัมผัสผู้ป่วยรายในจังหวัด 17ราย ผู้สัมผัสผู้ป่วยต่างจังหวัด6ราย
ผู้ป่วยยังคงรักษาอยู่367 ราย ผู้ป่วยรักษาหายแล้ว290ราย เสียชีวิตสะสม3ราย เป็นผู้ป่วย (รายที่80,171 และ 366)
ในส่วนของสาธารณสุขจังหวัดนครปฐมยังคงค้นหาผู้ติดเชื้อในกลุ่มผู้มีความเสี่ยงอย่างต่อเนื่อง มีผู้ได้รับการตรวจหาเชื้อแล้วรวม 48,093 ราย และผู้สัมสัมผัสเสี่ยงสูงและผู้ป่วยทุกรายได้รับการกักกันและดำเนินการตามมาตรการกระทรวงสาธารณสุขแล้ว Timeline อยู่ระหว่างการดำเนินการสอบสวนโรค
รวมทั้งจังหวัดนครปฐมมีประกาศขอความร่วมมืองดออกนอกเคหะสถาน ตั้งแต่เวลา23.00น.ถึง04.00น.
ซึ่งทางด้าน พระครูปลัดสิทธิวัฒน์ หลวงพี่น้ำฝน เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม กล่าวว่า ตอนนี้ขอให้ท่านใส่หน้ากากป้องกัน สองชั้นเวลาออกไปไหน เพราะเชื้อโรคมันรุนแรงขึ้นเยอะอาตมาก็ใส่สองชั้น ชั้นแรกเป็นหน้ากากอนามัยชั้นที่สองก็เป็นหน้ากากผ้ามัสลินอย่างที่เห็นและเมื่อจัดงานทำพิธีฌาปณกิจศพผู้ป่วยโควิดอาตมาก็จะใส่เฟสชิวอีกชั้น กันทั้งหมดสามอันและใส่ถุงมือ เมื่อเสร็จแล้วก็จะไปเปลี่ยนจีวร เพื่อป้อง ที่บอกว่ากันไว้ดีกว่าแก้ ถ้าแย่แล้วแก้ไม่ทัน เพราะฉะนั้นลูกศิษย์ และญาติโยม บอกเป็นห่วงหลวงพี่จังหลวงพี่จะมาทำเองทำไม ถ้าเราไม่ทำให้ญาติโยมเขาดูพูดง่ายๆโยมเขาจะทำตามได้ยังไง เพราะฉะนั้นอาตมาต้องทำเองรู้เอง ว่าการป้องกัน ชุดแบบนี้เรียบร้อยแล้วเพราะเราไม่ได้ไปสัมผัสผู้ป่วย โดยเฉพาะศพผู้ป่วยโควิด โยมจำไว้นะครับ มันไม่ได้ติดเชื้อเราอย่างแน่นอน ได้รับรอง รองรับจากสาธารณสุข สาธารณสุขจังหวัดนครปฐมของเรารับรองแล้วผู้เสียชีวิตเมื่อเสียชีวิตแล้วก็จะใส่ถุงซิบมาอย่างดีถึงสามชั้น จนถึงชั้นสุดท้ายก็คือใส่โลงศพแล้วก็นำมาใส่รถมาเพราะฉะนั้นไม่อยากเห็นเหตุการณ์แบบประเทศอินเดียที่ มีคนส่งภาพมาให้อาตมาดูรู้สึกหดหู่ใจเขาต้องเผากลางแจ้ง แล้ววางใก้ลๆกันเลยในการเผาศพโควิด แต่ประเทศไทยของเรามีวัดทำพิธีฌาปณกิจเยอะแยะมากมายในประเทศไทยเรานั่นเอง ดังนั้นถ้าทุกวัดลงมาช่วยกัน อาตมาก็จะเป็นพี่เลี้ยงให้ทุกวัดลงมาช่วยกัน เพราะว่าไม่เป็นอันตราย และที่สำคัญไปปรึกษาสาธารณสุขก่อนก็ได้ครับ ที่มาพูดมาเล่าให้ฟังก็เพราะว่าวัดไผ่ล้อมเผาศพ HIV อันนั้นน่ากลัวกว่าอีกครับ