เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 31 มีนาคม 2564 ที่ห้องขายทอดตลาด สำนักงานบังคับคดีจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ถนนเพชรเกษม–หนองเสือ ต.เกาะหลัก อ.เมือง จ.ประจวบคีรีขันธ์ นางพรโพยม นาคน้อย รักษาราชการแทนผู้อำนวยการสำนักงานคุมประพฤติจังหวัดประจวบฯ พร้อมด้วย นายปิยชาติ ไฮ้คง หัวหน้ากลุ่มแก้ไขฟื้นฟูผู้กระทำผิด สำนักงานคุมประพฤติจังหวัดฯ จัดการประชุมสามัญอาสาสมัครคุมประพฤติ กระทรวงยุติธรรม จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ครั้งที่ 1/2564 โดยมี นายวัชรินทร์ จันทร์เดช ประธานอาสาสมัครคุมประพฤติจังหวัดประจวบฯ และเป็นประธานอาสาสมัครคุมประพฤติภาค 7 นำอาสาสมัครคุมประพฤติในเขตจังหวัดประจวบฯ เข้าร่วมประชุม ซึ่งในโอกาสนี้ นายพจกรณ์ วงศ์ปักษา ผู้อำนวยการสำนักงานบังคับคดีจังหวัด และนายชุมพล พงษ์สมุทร หัวหน้ากลุ่มงานนิติการ สำนักงานบังคับคดีจังหวัด เข้าร่วมพบปะทักทาย พร้อมเสนอแนะแลกเปลี่ยนแนะนำแนวทางการปฏิบัติงานให้กับอาสาสมัครคุมประพฤติด้วย
ทั้งนี้การจัดประชุมสามัญประจำปีดังกล่าว เพื่อให้ทราบถึงนโยบายของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม และนโยบายของอธิบดีกรมคุมประพฤติ รวมไปถึงการใช้สิทธิ์ในการช่วยเหลือด้านการรักษาพยาบาลของอาสาสมัครคุมประพฤติกระทรวงยุติธรรม และแนวทางการช่วยเหลือสงเคราะห์ผู้ที่อยู่ในความดูแลของกรมคุมประพฤติ ตามหนังสือที่ ยธ 0303/ว79 ลงวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2564 พร้อมทั้งพิจารณาการวางแผนการปฏิบัติงานของอาสาสมัครคุมประพฤติประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2564 เกี่ยวกับการรับรายงานตัวของผู้ถูกคุมประพฤติ การทำงานบริการสังคม และการจัดกิจกรรมแก้ไขฟื้นฟูผู้กระทำผิด อีกทั้งแจ้งแนวทางการสรรหาอาสาสมัครคุมประพฤติที่เหมาะสมในสำนักงานคุมประพฤติ เป็นต้น
นอกจากนี้ ยังได้มุ่งเน้นการร่วมกันหารือถึงแนวทางการจัดงานประกวดการทำอาหาร Street food เพื่อเป็นการฝึกสร้างอาชีพให้กับผู้กระทำผิดที่อยู่ในความดูแลของสำนักงานคุมประพฤติจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งมีจำนวนกว่า 1,000 คน และมีความสนใจในด้านการประกอบอาหาร เพื่อไปต่อยอดในการสร้างอาชีพ เลี้ยงตนเองและครอบครัว เมื่อพ้นจากการถูกคุมประพฤติไปแล้ว โดยจะมีการเปิดรับสมัครผู้ที่อยู่ในระหว่างการดูแลของสำนักงานคุมประพฤติ และศูนย์ฟื้นฟู เพื่อมาฝึกสร้างอาชีพ แข่งขันการประกอบอาหารในระดับจังหวัด คาดว่าจะจัดประกวดในช่วงเดือน พฤษภาคม 2564 เพื่อคัดเลือกผู้ที่ชนะเลิศไปแข่งขันในระดับภาค และ ระดับประเทศต่อไป ซึ่งเมนูอาหารที่จะใช้ในการแข่งขัน จะต้องเป็นเมนูอาหารที่พร้อมรับประทาน หาทานได้ทั่วไปในราคาที่ไม่สูงนัก เช่น อาหารไทย อาหารพื้นถิ่น หรืออาหารอื่นๆ โดยจะแบ่งการแข่งขันออกเป็น 2 ประเภท คือ ประเภทอาหารคาว และประเภทอาหารหวาน ใช้เวลาในการแข่งขันประกอบอาหาร 40 นาที และมีผู้ช่วยได้ไม่เกิน 2 คนต่ออาหาร 1 ประเภท ซึ่งหลักเกณฑ์การพิจารณาให้คะแนนเต็ม 100 คะแนน จะแบ่งเป็น 5 ด้าน 1.รสชาติความอร่อย 40 คะแนน 2.รูปลักษณ์การจัดอาหาร 20 คะแนน 3.ความสะอาด 15 คะแนน 4.วัตถุดิบ 15 คะแนน 5.ความคิดสร้างสรรค์ 10 คะแนน
สำหรับเงินรางวัลในระดับจังหวัดให้คณะกรรมการจัดการประกวดระดับจังหวัด กำหนดตามความเหมาะสม ส่วนรางวัลในระดับภาค รางวัลที่ 1 จำนวน 2 ด้าน ด้านละ 5,000 บาท รวมเป็น 10,000 บาท รางวัลที่ 2 จำนวน 2 ด้าน ด้านละ 3,000 บาท รวมเป็น 6,000 บาท รางวัลที่ 3 จำนวน 2 ด้าน ด้านละ 2,000 บาท รวมเป็น 4,000 บาท รวมจำนวนเงินพร้อมประกาศนียบัตรตามที่กรมคุมประพฤติกำหนด เป็นจำนวนเงิน 20,000 บาท และรางวัลระดับประเทศ รางวัลที่ 1 จำนวน 2 ด้านด้านละ 15,000 บาท รวมเป็น 30,000 บาท รางวัลที่ 2 จำนวน 2 ด้าน ด้านละ 10,000 บาท รวมเป็น 20,000 บาท และรางวัลที่ 3 จำนวน 2 ด้าน ด้านละ 7,000 บาทรวมเป็น 14,000 บาท รวมจำนวนเงินพร้อมประกาศนียบัตร เป็นจำนวนทั้งสิ้น 64,000 บาท///////