วันนี้ (29 มีนาคม 2564) สทนช. ลงพื้นที่นำเสนอร่างผังน้ำพื้นที่ภาคกลาง 4 ลุ่มน้ำสำคัญ ได้แก่ ลุ่มน้ำเจ้าพระยา ป่าสัก สะแกกรัง และท่าจีน ระดมความคิดเห็นทุกภาคส่วน หวังใช้เป็นเครื่องมือบริหารจัดการน้ำเชิงพื้นที่ โดยมีนายปรีชา ทองคำ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุพรรณบุรี เป็นประธาน เปิดการประชุม พร้อมนายปรีชา สุขกล่ำ ที่ปรึกษาด้านบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) เปิดการประชุมผังน้ำครั้งที่ 2 พื้นที่ลุ่มน้ำท่าจีน ณ หอประชุมอำเภอเมือง จ.สุพรรณบุรี ว่า สทนช. ร่วมกับกลุ่มบริษัทที่ปรึกษาจัดการประชุมผังน้ำ ครั้งที่ 2 โครงการจัดทำผังน้ำ ลุ่มน้ำสะแกกรัง ป่าสัก เจ้าพระยา ท่าจีน เพื่อนำเสนอ ร่างผังน้ำ ให้ทุกภาคส่วนได้รับทราบ พร้อมรับฟังความคิดเห็นและข้อเสนอแนะ โดยมีผู้เข้าร่วมการประชุม ประกอบด้วย คณะกรรมการลุ่มน้ำ คณะอนุกรรมการทรัพยากรน้ำจังหวัด ผู้แทนหน่วยงานภาครัฐและเอกชน ผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย สื่อมวลชน และประชาชนในพื้นที่ ทั้งนี้ เนื่องจากพื้นที่ลุ่มน้ำท่าจีนมีพื้นที่กว้างขวาง สทนช. จึงได้แบ่งการจัดประชุมออกเป็น 3 เวที โดยวันนี้
เป็นเวทีที่ 1 ผู้ร่วมประชุมประกอบด้วยกลุ่มผู้มีส่วนได้เสียจากจังหวัดชัยนาท พระนครศรีอยุธยา สิงห์บุรี อ่างทอง กาญจนบุรี ราชบุรี สุพรรณบุรี และอุทัยธานี
นายปรีชา สุขกล่ำ กล่าวว่า ในช่วงเวลาที่ผ่านมากลุ่มบริษัทที่ปรึกษาได้ดำเนินการศึกษาและทบทวนกายภาพ ของพื้นที่ การใช้ประโยชน์ที่ดินในอดีตถึงปัจจุบัน ข้อกำหนดการใช้ประโยชน์ที่ดินตามผังเมือง การพัฒนาเมืองและพื้นที่เศรษฐกิจ ระบบโครงสร้างพื้นฐาน การรวบรวม วิเคราะห์ข้อมูลจากแผนที่ต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่น แผนที่แสดงโครงข่ายระบบระบายน้ำในปัจจุบัน ทิศทางการไหลของน้ำ วิเคราะห์สภาพและสาเหตุของการเกิดอุทกภัยและภัยแล้ง แผนที่แสดงระบบป้องกันน้ำท่วมและการบรรเทาอุทกภัย การบริหารจัดการอุทกภัย มูลค่าความเสียหายและวิเคราะห์การแก้ไขปัญหาที่ผ่านมา แผนที่แสดง จุดประกาศภัยแล้ง การบริหารจัดการภัยแล้ง มูลค่าความเสียหายและวิเคราะห์การแก้ไขปัญหาที่ผ่านมา จากหน่วยงานต่าง ๆ พร้อมทั้งจัดทำแผนที่แสดงสิ่งปลูกสร้างและโครงสร้างพื้นฐานที่กีดขวางทางน้ำ ตลอดจนการรวบรวมข้อมูลและวิเคราะห์ข้อมูลที่เกี่ยวข้องอย่างรอบด้านเพื่อนำมากำหนดขอบเขตผังน้ำ โดยใช้แบบจำลองคณิตศาสตร์
ผลการวิเคราะห์และจัดทำร่างผังน้ำลุ่มน้ำท่าจีน สามารถกำหนดรหัสโซนในผังน้ำ เป็น 6 โซน พื้นที่รวม 3,460,906 ไร่ ประกอบด้วย (1) พื้นที่ทางน้ำหลากบริเวณริมแม่น้ำและทางน้ำ ประเภทที่ 1 (รหัสโซนพื้นที่ ลม.1) จำนวน 21,850 ไร่ โดยพื้นที่ ลม.1 หมายถึง พื้นที่บริเวณแม่น้ำและทางน้ำ เป็นทางลำเลียงและระบายน้ำตามธรรมชาติและที่มนุษย์สร้างขึ้น
เพื่อใช้ในการลำเลียงน้ำสำหรับการอุปโภคบริโภคในชุมชน น้ำใช้ในอุตสาหกรรม น้ำใช้ในภาคเกษตรกรรม และน้ำใช้ในการอนุรักษ์ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมของลำน้ำในยามปกติ การขนส่งทางน้ำ ควรรักษาทางน้ำไว้เพื่อการระบายน้ำและอนุรักษ์สภาพแวดล้อม และรักษาบริเวณริมน้ำไว้เพื่อรองรับน้ำหลาก รองรับมาตรการป้องกันบรรเทาสถานการณ์เกี่ยวกับทรัพยากรน้ำในกรณีฉุกเฉิน และรองรับการพัฒนาปรับปรุงประสิทธิภาพการระบายน้ำของลำน้ำที่อาจมีขึ้นในอนาคต ให้มีที่ว่างห่างจากริมฝั่งแม่น้ำในระยะ 15 เมตร เว้นในเขตชุมชนตามที่กำหนดไว้ในผังเมืองรวมจังหวัดให้มีที่ว่างไม่น้อยกว่า 6 เมตร (2) พื้นที่ทางน้ำหลากบริเวณริมแม่น้ำและทางน้ำ ประเภทที่ 2 (รหัสโซนพื้นที่ ลม.2) จำนวน 131,669 ไร่ โดยพื้นที่ ลม.2 หมายถึง พื้นที่จากระยะร่นถอยทางน้ำหลากริมแม่น้ำ ลำน้ำ (Channel) คันดินชลประทาน คันทางหลวง คันทางหลวงชนบท และคันทางหลวงท้องถิ่น (Levee) ซึ่งสร้างขนานทางน้ำ เป็นบริเวณทางน้ำหลาก (Floodway) ที่ประสบอุทกภัยจากน้ำล้นตลิ่งบ่อยครั้ง ส่วนใหญ่ใช้ประโยชน์ที่ดินเป็นพื้นที่เกษตรกรรมมีพื้นที่ชุมชนและอุตสาหกรรมที่มีอยู่เดิมแทรกอยู่บ้าง ควรควบคุมการพัฒนาสิ่งปลูกสร้างในเขตนี้ เพื่อรักษาขีดความสามารถในการระบายน้ำของน้ำหลาก เว้นแต่เขตที่กำหนดไว้เป็นพื้นที่ชุมชนและอุตสาหกรรมตามที่ได้กำหนดไว้ในผังเมืองรวมจังหวัด ซึ่งควรมีระบบป้องกันน้ำท่วมและการบรรเทาอุทกภัยให้สอดคล้องกับความเสี่ยงในการเกิดน้ำท่วม