เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 11 มี.ค.2564 ที่บริเวณฝายชะลอน้ำ บ้านเข็ดกา หมู่ 12 ต.บ่อนอก อ.เมือง จ.ประจวบคีรีขันธ์ นายสามารถ เอี่ยมวงษ์ ผู้อำนวยการสำนักงานธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร(ธ.ก.ส.)จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ได้เป็นประธานในพิธีส่งมอบฝายชะลอน้ำให้กับชุมชน และปลูกป่าเฉลิมพระเกียรติ ตามโครงการสืบสาน รักษา ต่อยอด ปลูกป่า เฉลิมพระเกียรติ สร้างฝายชะลอน้ำ โดยมี นายโกมล ปานแจ่ม ผู้จัดการ ธ.ก.ส. สาขาอ่าวน้อย กล่าวรายงาน และมี นายเดชา เรืองอ่อน หัวหน้างานสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย(ปภ.) จ.ประจวบฯ นายอำนาจ สูงยิ่ง นายกองค์การบริหารส่วนตำบล(อบต.)บ่อนอก นายภูมิ ตันติรังสี ผู้ช่วยผู้อำนวยการ ธ.ก.ส.จ.ประจวบฯ น.ส.น้ำผึ้ง สระทองจันทร์ ผู้จัดการ ธ.ก.ส.สาขาประจวบฯ นายสราวุธ ผิวผาด ผู้ใหญ่บ้านเข็ดกา เจ้าหน้าที่ อบต.บ่อนอก และชาวบ้านในพื้นที่ เข้าร่วม
จากนั้น ได้มีพิธีลงนามบันทึกข้อตกลง ( MOU ) ระหว่าง ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ฝ่ายกิจการสาขาภาคตะวันตก กับ องค์การบริหารส่วนตำบลบ่อนอก เพื่อที่จะ 1.ดูแลรักษาพื้นที่ป่าต้นน้ำ อนุรักษ์ดินและน้ำให้อุดมสมบูรณ์ ตามยุทธศาสตร์ของชาติ ด้านการเติบโตบนคุณภาพชีวิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ด้วยการอนุรักษ์ รักษา และสร้างฐานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม 2.ส่งเสริมกิจกรรมสร้างจิตสำนึกให้เกษตรกร และประชาชนทั่วไป เห็นความสำคัญของการอนุรักษ์ฟื้นฟูทรัพยากรป้าไม้ 3.กิจกรรมอื่น ๆ ที่จะเป็นการสนับสนุน ส่งเสริม การสร้าง การอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ
นายสามารถ เอี่ยมวงษ์ ผอ.ธ.ก.ส.)จังหวัดประจวบฯ กล่าวว่า ประเทศไทยประสบภัยธรรมชาติและภัยพิบัติบ่อยครั้ง สร้างความเสียหายและความเดือดร้อนต่อการดำรงชีวิต การประกอบอาชีพและทรัพย์สินของเกษตรกรและประชาชนทั่วไป ทั้งอุทกภัย ภัยแล้ง ธ.ก.ส. จึงมีโครงการเพื่อป้องกันความเสี่ยงจากภัยธรรมชาติและภัยพิบัติ โดยเน้นการมีส่วนร่วมจากคนในชุมชนและส่วนต่างๆ ที่มีความพร้อม ความสมัครใจ และมีความสามารถในการจัดทำโครงการเพื่ออนุรักษ์ดิน น้ำ ป่า เพื่อสามารถสร้างรายได้เพิ่มให้กับคนที่อยู่อาศัยในชุมชนและพื้นที่ใกล้เคียง ทั้งเป็นการกักเก็บน้ำไว้ ทำการเกษตรในฤดูแล้ง รวมทั้งเป็นการเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผืนดิน ชะลอการไหลของน้ำในฤดูน้ำหลากเป็นการสร้างประโยชน์อย่างยั่งยืนให้กับชุมชน
นายโกมล ปานแจ่ม ผู้จัดการ ธ.ก.ส.สาขาอ่าวน้อย เปิดเผยว่า การปลูกป่าเฉลิมพระเกียรติในครั้งนี้ เป็นส่วนหนึ่งของโครงการ “สืบสาน รักษา ต่อยอด ปลูกป่าเฉลิมพระเกียรติ สร้างฝายชะลอน้ำ” เพื่อเฉลิมพระเกียรติ และถวายเป็นพระราชกุศล แด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่10 ซึ่งมีพระราชปณิธานการทรงงานเพื่อจะสืบสาน รักษา และต่อยอด ตามแนวทางพระราชดำริของ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลเดชมหาราช บรมนาถบพิตร โดยน้อมนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงและแนวพระราชดำริ “ปลูกป่า 3 อย่าง ประโยชน์ 4 อย่าง” มาใช้เป็นหลักในการดำเนินงาน ประกอบกับ ธ.ก.ส. พร้อมเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ชาติ เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนในชนบทควบคู่กับการดูแลสิ่งแวดล้อม อย่างยั่งยืน โดยที่ผ่านมาได้ดำเนินโครงการธนาคารต้นไม้ สนับสนุนให้เกษตรกรและชุมชนปลูกป่า 3 อย่าง ประโยชน์ 4 อย่าง มีชุมชนเข้าร่วมโครงการแล้ว 6,844 ชุมชน มีผู้ร่วมปลูกต้นไม้กว่า 130,000 ราย มีต้นไม้ปลูกเพิ่มในประเทศกว่า 1.2 ล้านตัน และเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มในเชิงเศรษฐกิจให้กับเกษตรกรผู้ปลูกต้นไม้ มีการแปลงมูลค่าต้นไม้เป็นทรัพย์สิน เพื่อนำมาใช้เป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันสินเชื่อ รวมถึงการสนับสนุนกิจกรรม ลดก๊าซเรือนกระจก โดยคำนวณปริมาณการกักเก็บคาร์บอนของต้นไม้ดี เป็นมูลค่าเพื่อช่วยลดปัญหาโลกร้อน และสร้างรา
ทั้งนี้เป้าหมายและประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ คือ ทำให้ประเทศไทย มีพื้นที่ป่าเพิ่มขึ้น 500,000ไร่ มีการปลูกต้นไม้เพิ่มขึ้นกว่า 100 ล้านตัน โดยสามารถสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจ สังคมและสิ่งแวดล้อมที่เกิดจากมูลค่ารวมของต้นไม้ 400,000 ล้านบาท มูลค่าจากการเก็บของป่าขาย 1,130 ล้านบาทต่อปี สามารถกักเก็บคาร์บอนได้ 950,000 ล้านต้นต่อปี มูลค่าคาร์บอน เครดิต 95 ล้านบาทต่อปี มูลค่าระบบนิเวศน์บริการ 89,737 บาทต่อไร่ต่อปี โดยมีเกษตรกรได้รับประโยชน์ไม่น้อยกว่า 38,000 ครัวเรือน อีกทั้งเกิดการจ้างงานเพิ่มขึ้นกว่า 155,000 ราย///////////////
