สำนักงานพาณิชย์จังหวัดตรัง เปิดกิจกรรมส่งเสริมช่องทางการตลาดและเชื่อมโยงการจำหน่ายสินค้าและบริการในตลาดชุมชน ตามโครงการตลาดชุมชนเพื่อธุรกิจท้องถิ่น ในขณะที่แม่ค้าบอกว่าโครงการคนละครึ่งและโครงการเราชนะ ทำให้สามารถจำหน่ายสินค้าได้เพิ่มขึ้น
ที่บริเวณตลาดต้องชมถนนคนเดินสถานีรถไฟตรัง อ.เมืองตรัง จังหวัดตรัง นายภูวนัฐ สมใจ รองผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง เ ป็นประธานในพิธีเปิดกิจกรรมส่งเสริมช่องทางการตลาดและเชื่อมโยงการจำหน่ายสินค้าและบริการในตลาดชุมชน ตามโครงการตลาดชุมชนเพื่อธุรกิจท้องถิ่น ทั้งนี้ นางสาวสุภากิตติ์ เกลี้ยงสงค์ พาณิชย์จังหวัดตรัง กล่าวว่า ตลาดต้องชมถนนคนเดินสถานีรถไฟตรัง ยกระดับเป็นตลาดต้องชมแห่งที่ 3 ของจังหวัดตรัง เมื่อวันที่ 28 สิงหาคม 2563 ที่ผ่านมา เปิดจำหน่ายสินค้า ทุกวันศุกร์ เสาร์ และอาทิตย์ของสัปดาห์ ระหว่างเวลา 17.630-22.00 น. สินค้ามีทั้งประเภทอาหาร ขนมพื้นบ้าน สินค้าเกษตร สินค้า OTOP หัตถกรรม งาน Handmade รวมทั้งเสื้อผ้าและเครื่องประดับ กว่า 300 ร้านค้า ภายหลังจากการยกระดับเป็นตลาดต้องชม สามารถสร้างรายได้ให้กับชุมชน กว่า 4.5 ล้านบาท (เดือนกันยายน-กุมภาพันธ์ 2564) เพื่อกระตุ้นให้ตลาดมีความคึกคักมากขึ้น ส่งเสริมการจำหน่ายสินค้า ฟื้นฟูเศรษฐกิจภายในประเทศ รวมทั้งเป็นการประชาสัมพันธ์ตลาดให้รู้จักในวงกว้างและกระตุ้นการท่องเที่ยวจังหวัดตรัง สำนักงานพาณิชย์จังหวัดตรัง จึงจัดกิจกรรมกระตุ้นตลาดต้องชม ภายใต้ชื่องาน “ต้องชม พาเที่ยว วิถีใหม่@ ตลาดต้องชมถนนคนเดินสถานีรถไฟตรัง” ณ บริเวณตลาดต้องชมถนนคนเดินสถานีรถไฟตรัง อ.เมืองตรัง ระหว่างวันที่ 26-27 กุมภาพันธ์ 2564 ในพิธีเปิดมีการแสดงมโนราห์ อ่อนตัว ในถาด ซึ่งเป็นความสามารถของมโนราห์ สร้างความประทับเป็นอย่างมาก
การจัดกิจกรรมส่งเสริมช่องทางการตลาดและเชื่อมโยงการจำหน่ายสินค้าในตลาดชุมชนในช่วงเทศกาลวันหยุดยาว ซึ่งจัดโดยสำนักงานพาณิชย์จังหวัดตรัง ถือเป็นอีกหนึ่งเครื่องมือที่ช่วยในการแก้ไขปัญหาดังกล่าวได้ โดยเฉพาะผ่านการท่องเที่ยววิถีชุมชนท้องถิ่นและมีแหล่งท่องเที่ยวที่มีความเป็นอัตลักษณ์เฉพาะพื้นที่ “ตลาดต้องชม ถนนคนเดินสถานีรถไฟตรัง” เป็นตลาดอีกแห่งหนึ่งที่มีเอกลักษณ์และวิถีชีวิตของชาวตรัง มีสินค้าพื้นเมืองต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นขนมพื้นบ้าน อาหารพื้นเมือง สินค้าที่ระลึก สินค้าหัตถกรรม ตลอดจนงานศิลปะและงานฝีมือ นอกจากนี้ยังเป็นสถานที่ส่งเสริมวัฒนธรรมของชาวตรังและกิจกรรมสร้างสรรค์ต่าง ๆ เพื่อสังคม อาทิ การแสดงดนตรีเปิดหมวก และการร้องรำทำเพลงพื้นเมือง เรียกได้ว่า “ครบสูตรทั้งการชม ชิม และช้อป” นับเป็นโอกาสที่ดีในการฟื้นฟูเศรษฐกิจภายในประเทศ จึงเชิญชวนประชาชนและนักท่องเที่ยวออกมาท่องเที่ยวและจับจ่ายช่วงวันหยุดยาวมาเที่ยวชมและจับจ่ายใช้สอยสินค้าและบริการในตลาดชุมชน สนับสนุนชุมชนและมีส่วนร่วมในการขับเคลื่อนการพัฒนาสร้างความเข้มแข็งให้กับเศรษฐกิจฐานรากต่อไป คาดว่าการจัดกิจกรรมในครั้งนี้จะเกิดเงินหมุนเวียนในตลาดกว่า 350,000 บาท ในขณะที่แม่ค้าบอกว่าโครงการคนละครึ่งและโครงการเราชนะ ทำให้สามารถจำหน่ายสินค้าได้เพิ่มขึ้น
