วันอังคารที่ 23 กุมภาพันธ์ 2564 เวลา 10.30 น. นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย และสมาคมสื่อช่อสะอาด โดยนายสุทนต์ กล้าการขาย นายกสมาคมสื่อช่อสะอาด ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ การประชาสัมพันธ์ภารกิจกรมการพัฒนาชุมชนผ่านสื่อวิทยุ ในการนี้ นายสุรศักดิ์ อักษรกุลรองอธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน นางสาวญาณินท์ เรืองศิริ เหรัญญิกนายกสมาคมสื่อช่อสะอาด นางสาวนงลักษณ์ ตันประทุมวงษ์ กรรมการสมาคมสื่อช่อสะอาด คณะผู้บริหารกรมการพัฒนาชุมชน เจ้าหน้าที่กรมการพัฒนาชุมชน เจ้าหน้าที่สมาคมสื่อช่อสะอาด และสื่อมวลชน ร่วมเป็นเกียรติและสักขีพยานฯ โดยมีนายสุธีธ์ มั่งมี เลขานุการกรม กรมการพัฒนาชุมชน กล่าวรายงานวัตถุประสงค์ของการลงนาม MOU ในครั้งนี้ณ ห้องประชุม 5001 ชั้น 5 กรมการพัฒนาชุมชน
นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน กล่าวว่า ขอขอบพระคุณสมาคมสื่อช่อสะอาด และทีมงานที่ได้กรุณาเอื้อเฟื้อ ช่วยเหลือ บูรณาการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารของกรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย ซึ่งมีบทบาทภารกิจ หน้าที่ ในการดำเนินการเพื่อประโยชน์สุขของพี่น้องประชาชน การประชาสัมพันธ์มิใช่เพียงแต่ให้ข้อมูลว่ากรมการพัฒนาชุมชน ปฏิบัติงานอย่างนั้นอย่างนี้ ดีอย่างนั้นอย่างนี้ ก็จะไม่ครบวงรอบของกระบวนการทำงาน ในการนี้ ต้องขอความกรุณา สมาคมสื่อช่อสะอาดและภาคีเครือข่าย สามารถช่วยเหลือในการเป็นภาพสะท้อน (Feedback) ข้อเสนอแนะ คำแนะนำ การแสดงความคิดเห็น ทั้งจากสมาชิกสมาคมสื่อช่อสะอาดหรือจากพี่น้องประชาชน ให้กรมการพัฒนาชุมชนได้รับรู้รับทราบ เพื่อสามารถการทำงานให้ดีเพิ่มมากขึ้นในโอกาสต่อไปด้วย
ในรอบ 2 ปีที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน ประเทศเรามีความยุ่งยากในการขับเคลื่อนการพัฒนาในทุก ๆด้าน เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา2019 (COVID-19) กรมการพัฒนาชุมชน และภาคีเครือข่าย ไม่ได้อยู่นิ่งในการพัฒนาการทำหน้าที่ข้าราชการในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ข้าราชการของพี่น้องประชาชน ในการที่จะขับเคลื่อนภารกิจต่าง ๆ ให้บังเกิดประโยชน์กับพี่น้องประชาชนอาทิ กรมการพัฒนาชุมชน ได้ขับเคลื่อนการพัฒนาระบบฐานข้อมูล (Big data) ด้านการท่องเที่ยวชุมชน หรือ OTOP นวัตวิถี มาดำเนินการทำให้เกิดประโยนช์ต่อสาธารณชนในรูปแบบ “ชุมชนท่องเที่ยวนวัตวิถีไทย” Community Based Tourism อยู่ในระบบฐานข้อมูลระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์ (Geographic Information System : GIS) สามารถใช้เป็นเครื่องมือนำทางได้ สำหรับคนที่จะเดินทางไปที่หมู่บ้าน OTOP นวัตวิถี หรือสามารถใช้การท่องเที่ยวชุมชนได้จากบ้าน หรือ Tour From Home ที่กรมการพัฒนาชุมชนเพิ่งเปิดตัวไป เพื่อยกระดับฐานข้อมูลและประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวที่ไม่ใช่เพียงแค่สำหรับนักท่องเที่ยวเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่ยังสามารถสร้างพี่น้องประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ ให้เป็นผู้นำเสนอความดีเด่นที่มีอยู่ในหมู่บ้านของตนเองสามารถประยุกต์ใช้เทคโนโลยีดิจิทัล การใช้โทรศัพท์มือถือ ถ่ายภาพนิ่งหรือวีดีโอแบ่งปันเข้าไปสู่ระบบฐานข้อมูลได้ ทำให้เกิดกระบวนที่เต็มไปด้วยพลังและความคิดสร้างสรรค์ มีชีวิตชีวา บนฐานข้อมูล ผนวกกับให้พื้นที่สามารถใช้ประโยชน์ ในการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ของชุมชนได้ มีประเพณีวัฒนธรรมที่ดี อาหารการกินดีๆ จัดงานประเพณีดีๆ ที่จำเป็นต้องมีการประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยว เพื่อปลุกกระแสกระตุ้นการท่องเที่ยว และฟื้นฟูเศรษฐกิจฐานรากให้มีรายได้ ตลอดจนภารกิจงานต่าง ๆ ของกรมการพัฒนาชุมชน ในการขับเคลื่อนงานท่ามกลางสถานการณ์ของการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ในการน้อมนำแนวพระราชดำริของสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารีสร้างความมั่นคงทางอาหารสู่ปฏิบัติการ 90 วัน ปลูกผักสวนครัวเพื่อสร้างความมั่นคงทางอาหาร และร่วมกับ บริษัท อีสท์ เวสท์ ซีด จำกัด แจกเมล็ดพันธ์ผัก ตรา ศรแดงจำนวน 100,000 ซอง รวมถึงการจัดโปรโมชั่น ซื้อ 1 แถม 1 เป้าหมายเพื่อให้ทุกคนพึ่งพาตนเอง สร้างธนาคารอาหาร (Food Bank) เป็นธนาคารของอาหารการกินไว้ประจำครัวเรือน และช่วยทำให้สุขภาพพลานามัย ของพี่น้องประชาชนดีด้วย เนื่องจากพืชผักในตลาดอาจมีใช้สารเคมีที่ตกค้างอยู่ การปลูกพืชผักไว้รับประทานเองจึงปลอดภัยไร้สารพิษ ถ้าหากมีการประชาสัมพันธ์สื่อสาร สร้างความตื่นตัว สร้างการเรียนรู้ร่วมกัน ในการใช้พื้นที่ว่างบริเวณบ้านปลูกผักสวนครัว ก็จะบังเกิดผลดีเป็นประโยชน์ต่อส่วนรวมและส่วนตัว ช่วยลดค่าใช้จ่ายในครัวเรือน เท่ากับเพิ่มรายได้ คิดง่ายๆ ว่า จำนวน 12 ล้านครัวเรือนประหยัดเงินจากการซื้อผักครัวเรือนละ 50 บาทเท่ากับประหยัดเงินได้ 600 ล้านบาท/วัน 18,000 ล้านบาท/เดือน รวมแล้วประหยัดได้กว่า 200,000 ล้านบาท/ปี เป็นตัวอย่างของภารกิจของกรมการพัฒนาต้องมีการสร้างการรับรู้ การประชาสัมพันธ์เข้าถึงข้อมูล อันจะเป็นประโยชน์ต่อพี่น้องประชาชนอย่างมาก
ด้านนายสุทนต์ กล้าการขาย นายกสมาคมสื่อช่อสะอาด กล่าวว่า “สมาคมสื่อช่อสะอาดได้ก่อตั้งเมื่อ พ.ศ.2558 เพื่อเป็นศูนย์รวมของผู้ที่ได้รับใบอนุญาตทดลองประกอบกิจการจากสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ โดยมีจำนวนสมาชิก 421 สถานี ที่ผ่านมาเราได้ร่วมมือในการทำหน้าที่เป็นสื่อด้านวิทยุกระจายเสียง โดยร้อยละ 25 ของรายการในสถานีสมาชิกต้องเป็นรายการเพื่อสร้างสรรค์ประโยชน์สู่สาธารณะ ตัวอย่างเช่น การร่วมมือในภารกิจของ ปปช. ในรายการ “ภารกิจพิชิตโกง” รายการ “ปปช.จังหวัด ขจัดโกง” ออกอากาศทุกวันศุกร์–อาทิตย์ เวลา 19.00 – 20.00 น. ตลอดจนความร่วมมือกับ กกต. ศาลปกครอง และอีกหลากหลายหน่วยงาน และในครั้งนี้ก็เป็นอีกหนึ่งนิมิตรหมายอันดีที่สื่อช่อสะอาดได้ร่วมมือกับกรมการพัฒนาชุมชน ด้วยความชื่นชมที่กรมการพัฒนาชุมชน เป็นหนึ่งด้านการพัฒนาคุณภาพชีวิตคน พัฒนาชุมชนให้เกิดความอยู่ดีมีสุข เราจึงมีความยินดี และพร้อมเป็นกลไกสื่อสารมวลชน ประชาสัมพันธ์เรื่องราวดี ๆ ที่เกิดขึ้นทุกอำเภอ ตำบล จังหวัด ในเบื้องต้นทางสมาคม พร้อมที่จะนำรายการ “พช.พบประชาชน” ที่จะเริ่มออกอากาศต้นเดือนมีนาคมนี้ ในช่วงหลังเคารพชาติ ระหว่างเวลา18.00 – 18.30 น. เพื่อนำสารสาระที่เป็นประโยชน์สู่สังคม ซึ่งนอกจากการออกอากาศหรือ On Air แล้ว ยังมีการเผยแพร่ผ่าน Online YouTube Twitter และแอปพลิเคชันของช่อสะอาด คู่กันไปด้วยเพื่อให้พี่น้องประชาชนได้รับข้อมูลที่ถูกต้อง ต่อเนื่องต่อไป ในขณะเดียวกันหน่วยงานของกรมการพัฒนาชุมชน ในส่วนภูมิภาค สามารถประสานขอความร่วมมือ พี่น้องสมาชิกช่อสะอาดที่กระจายอยู่ทุกพื้นที่ทั้ง 76 จังหวัด ได้โดยเราจะดำเนินการส่งฐานข้อมูลของสมาชิก อีกทั้งเครือข่ายภาคีจำนวน 850 สถานี เพื่อสะดวกในการส่งข่าวสาร มีช่องทางประชาสัมพันธ์ ในรูปแบบ On Ground อีกด้วย ทั้งนี้ ขอขอบคุณในโอกาสที่ให้สมาคมสื่อช่อสะอาด ได้เข้ามาร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาชุมชนให้เข้มแข็ง ประชาชนอยู่ดีมีสุข”
อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน กล่าวเพิ่มเติมว่า “ข้าราชการกรมการพัฒนาชุมชน ว่าเราต้องให้ทำงานร่วมกับ 7 ภาคีเครือข่าย คือภาคสื่อมวลชน เป็น 1 ใน 7 ภาคีเครือข่ายที่สำคัญ อันเป็นการสร้างสังคมให้เกิดการเรียนรู้ร่วมกัน เป็นสร้างประโยชน์ต่อสาธารณชน ด้วยความซาบซึ้งใจ กรมการพัฒนาชุมชนต้องขอขอบคุณสมาคมสื่อช่อสะอาด ในแสดงเจตจำนง การช่วยเหลือ การบูรณาการทำงาน ในการลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ กับกรมการพัฒนาชุมชนในวันนี้ และหวังว่าการ MOU ครั้งนี้ จะบังเกิดในทางปฏิบัติเป็นผลดีต่อสังคมส่วนร่วม ต่อพี่น้องประชาชน ต่อประเทศชาติ ให้เป็นการปฏิบัติหน้าด้านสื่อสารมวลชน ด้านวิทยุ หรือด้านอื่น ๆ ในการที่ทำให้สังคมของเราเป็นสังคมที่น่าอยู่ ผู้คนมีความสุข และเป็นส่วนหนึ่งในการบูรณาการช่วยให้กรมการพัฒนาชุมชน สามารถขับเคลื่อนบรรลุวิสัยทัศน์ ในการสร้างเศรษฐกิจฐานรากให้มั่นคงและทำชุมชนให้เข้มแข็งสามารถพึ่งตนเองได้ นั้นหมายความว่า ช่วยให้กรมการพัฒนาชุมชน ทำหน้าที่ บำบัดทุกข์ บำรุงสุข ให้กับพี่น้องประชาชน ได้อย่างมีประสิทธิภาพต่อไป”