ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง สั่งทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องเตรียมพร้อมรับมือหากเกิดสถานการณ์ภัยแล้ง ที่มีผลกระทบต่อประชาชนและเกษตรกร ให้เร่งเข้าไปช่วยเหลือทันที ส่วนเกษตรกรห้ามเผาตอซังข้าวเด็ดขาด หากพบจะมีความผิดตามกฎหมาย
นายขจรศักดิ์ เจริญโสภา ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง กล่าวว่าจังหวัดตรังได้มีการประชุมกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ได้มีการพูดคุยถึงข้อมูลในเรื่องของภัยแล้งปี 2564 ซึ่งทาง ผอ.สถานีอุตุนิยมวิทยาได้รายงานสถานการณ์ปริมาณฝนเปรียบเทียบกับปี 2563 ซึ่งในภาพรวมของปี 64 ก็ยังถือว่าปริมาณฝนในพื้นที่จังหวัดตรังของเราก็ไม่ได้น้อยกว่าปี 63 อย่างไรก็ตามได้มีการเตรียมความพร้อม ในเรื่องของการเตรียมแผนเผชิญเหตุภัยแล้ง ซึ่งได้มีการทำข้อมูลในพื้นที่เสี่ยงที่คาดว่าจะเกิดภัยแล้งของจังหวัดตรัง ซึ่งทาง ปภ.ได้รวบรวมข้อมูล พื้นที่ที่คาดว่าจะเกิดภัยแล้งใน 10 อำเภอ มีอยู่จำนวน 84 ตำบล 399 หมู่บ้าน ซึ่งในแผนเผชิญเหตุเราก็จะมีการตั้งศูนย์ราชการที่เกี่ยวข้องเป็นกลุ่มปฏิบัติงานในเชิงรุก ก็จะเป็นกลุ่มพยากรณ์ ซึ่งจะเป็นการคาดการณ์สถานการณ์ภัยแล้ง ในปีนี้ว่า ในช่วงเดือนไหนที่จะเป็นช่วงวิกฤติ ที่ปริมาณฝนจะน้อยกว่าปี 63ก็จะเป็นกลุ่มพยากรณ์คาดการณ์สถานการณ์ ก็จะมีอีกกลุ่มบริหารจัดการน้ำ และกลุ่มที่ 3 ก็จะเป็นกลุ่มในการแก้ไขปัญหาเรื่องของภัยแล้ง มีการพูดคุยการบูรณาการกำลังของหน่วยราชการที่จะสามารถช่วยเหลือพี่น้องประชาชนได้ทั้ง อบจ. ทั้ง สนง.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สนง.ปภ. ก็มีการพูดคุยกัน กรณีเกิดภัยแล้งในระดับหนึ่ง ระดับสอง ระดับสาม ในเรื่องของการเตรียมการอุปกรณ์ ในเรื่องของการประกาศภัยช่วยเหลือประชาชน
ซึ่งคิดว่าในการเตรียมการนี้ได้สั่งการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างเข้มข้น ว่าถ้ามีภัยในระดับพื้นที่จะต้องรีบแจ้งมาที่อำเภอ จากอำเภอจะแจ้งมาที่จังหวัด ซึ่งคิดว่าในปีนี้เรายังพอรับมือเรื่องของภัยแล้งได้ ในส่วนของเกษตรกรชาวนา นั้นได้มองถึงสาเหตุของการเกิดภัยแล้งรวมถึงหมอกควันด้วย ในภาคใต้คิดว่าปัญหาหมอกควันกลุ่มหมอกควัน หรือ PM2.5 จะมีน้อยกว่าทางภาคเหนือ ภาคอีสาน อีกทั้งมีการได้เน้นย้ำและประชาสัมพันธ์ให้เกษตรกรไม่ให้เผาตอซังข้าว หรือพืชทางการเกษตรที่เขาเก็บเกี่ยวแล้ว ซึ่งเน้นย้ำไปแล้วว่าผิดกฎหมายด้วยและสร้างมลภาวะเป็นพิษด้วย ส่วนปัญหาหมอกควันไฟมาจากประเทศเพื่อนบ้านที่อินโดนีเซีย ตอนนี้ได้ติดตามสถานการณ์ข่าวเรื่องของหมอกควันอยู่ตลอดเวลา