ที่พรรคชาติไทยพัฒนา เลขที่ 146 ถ.มาลัยแมน ต.รั้วใหญ่ อ.เมือง จ.สุพรรณบุรี นายวราวุธ ศิลปอาชา ที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคชาติไทย เปิดเผยภายหลังมาต้อนรับ กลุ่มผู้มายืนยันความเป็นสมาชิกภาพพรรคฯ ตามคำสั่ง คสช. ได้กำหนดให้พรรคการเมืองเก่าต้องยืนยันสมาชิกพรรคให้แล้วเสร็จใน 30 วัน ตั้งแต่วันที่ 1 ถึง 30 เมษายน หากเกินกว่านั้นถือพ้นสภาพสมาชิกพรรค
โดยนายวราวุธ กล่าวว่าวันที่พ่อบรรหารไม่อยู่ พรรคชาติไทยฯจะมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ 2 ปีมาแล้วที่ผู้หลักผู้ใหญ่ในพรรคพูดคุยกัน โดยการเอาผู้สมัครหรือเอาคนรุ่นใหม่ขึ้นมาทำงานกันพรรคทั้งแผง ส่วนผู้หลักผู้ใหญ่ภายในพรรคก็จะผันตัวเองไปเป็นที่ปรึกษา เหมือนกับบริษัท ห้างร้าน ก็จะมีบอร์ด คนบริหารงานจริงๆก็จะเป็นคนรุ่นใหม่เข้ามา ที่ยังมีคนรุ่นเก่าคนเป็นแบ๊คเป็นฐานข้อมูลให้ จริงๆแล้วสถานการณ์การเมืองในปัจจุบัน มีการพูดถึงคนรุ่นใหม่เยอะ พรรคโน้นพรรคนี้ก็ผลักดันคนรุ่นใหม่ แต่พรรคชาติไทยพัฒนาจะเป็นพรรคเดียวที่เราจะผลักดันคนรุ่นใหม่ยันหัวหน้าพรรค เรียกว่าไม่มีพรรคการเมืองไหนที่จะเปลี่ยนเหมือนกับพรรคชาติไทยพัฒนา
ดังนั้นการเลือกตั้งครั้งหน้า เราไม่ได้ตั้งหวังอะไรไว้ว่าเราจะเป็นพรรคใหญ่ 60-80 เสียง แต่มั่นใจว่าในพื้นที่ที่เรามีอยู่ เราจะสามารถนำพาเอาความสำเร็จมาอยู่ให้ได้ ไม่แพ้สมัยที่พ่อบรรหารอยู่ และการทำงานของพรรคฯต่อไปนี้ถ้าใครจะดูว่าพรรคจะแตกหรืออะไรอย่างไรก็คงจะต้องดูกันต่อไป เพราะหนทางพิสูจน์ม้ากาลเวลาพิสูจน์คน ผมพูดได้แค่ว่าผมไม่กลัว มีอะไรขึ้นก็ลองกันดูสักตั้งว่าจะเป็นอย่างไร ผมก็ลูกนายบรรหารเหมือนกัน อย่างที่บอก เมื่อคุณพูดเราจะฟัง เมื่อคุณทำเราจะเชื่อ
วันนี้ผมพูดๆอะไรก็พูดได้ แต่การกระทำและวิธีการบริหารงานของพรรคโดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังเลือกตั้งมาแล้ว ถึงเวลาเลือกตั้ง ตัวนั้นจะเป็นตัวพิสูจน์ว่าวันนั้นพรรคชาติไทยพัฒนาจะใหญ่ขึ้นหรือจะแตกอย่างที่คนอื่นพูด ยกตัวอย่างเช่นในสุพรรณบุรี หลายคนบอกว่าเมื่อนายบรรหารไม่อยู่สุพรรณบุรีจะแตก แต่ผ่านมาสองปีพวกเราทุกคนก็ยังรักใคร่กลมเกลียวสามัคคี ร่วมกันทำงานเหมือนเดิม แม้แต่หน่วยงานราชการ ภาคเอกชนยังทำงานด้วยกันเหมือนเดิม ดังนั้นวันนี้เป็นสิ่งที่คนสุพรรณบุรี ได้พิสูจน์ให้กับคนในอีก 76 จังหวัดได้เห็นว่าสุพรรณบุรีนั้นตั้งแต่ไหนแต่รัยแล้ว ไม่ใช่บรรหารบุรี แต่เป็นจังหวัดของคนสุพรรณบุรี นายบรรหารเป็นเพียงแค่คนที่มาช่วยกระตุ้นให้เกิดจิตสำนึกในการรักบ้านเกิด มาช่วยพัฒนาจังหวัด แต่เมื่อนายบรรหารไม่อยู่เป็นหน้าที่ของคนสุพรรณบุรีทุกคน ที่จะต้องมาช่วยกันทำงาน และในอนาคตตนก็จะเป็นหนึ่งในประชาชนกร กว่า 8-9 แสนคนที่จะมาช่วยกันทำงานจังหวัดสุพรรณบุรี ส่วนตนจะได้เป็นหัวหน้าพรรคฯหรือไม่ได้เป็น ไม่ได้กลัวเลย เพราะพรรคชาติไทยพัฒนาเป็นบ้านของตน การที่จะอยู่ในบ้านหลังนี้ไม่ว่าจะอยู่ในฐานะเจ้าบ้านหรือลูกบ้าน ก็ยังเป็นบ้านของตน ดังนั้นถ้าจะไม่ให้ ศิลปอาชาอยู่กับพรรคชาติไทยพัฒนา ให้ตนเลิกเล่นการเมืองหรือดินกลบหน้าดีกว่า
นายวราวุธ กล่าวต่อว่าพรรคชาติไทยพัฒนา จะเป็นพรรคการเมืองที่เป็นองค์กรทางการเมือง ที่การทำงานทุกอย่าง การตัดสินใจทุกอย่างจะผ่านกระบวนการประชุมและมีมติของพรรคออกมา สำเร็จเราก็สำเร็จด้วยกัน ผิดพลาดก็มาช่วยกันแก้ เพราะยุคสมัยที่จะหาหาคนที่มีศักยภาพเหมือนกับนายบรรหาร ทุกอย่างฉันทำเองได้ ผิดพลาดอะไรฉันแก้ให้ได้ไม่มีอีกแล้วในประเทศไทย จึงเวลาแล้วที่พลพรรค พรรคชาติไทยพัฒนา จะมาร่วมแรงร่วมใจกันฝันฝ่า ช่วยกันตัดสินใจ