วันนี้ (6ก.พ.64) นายธีรภัทร ประยูรสิทธิ ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย นายเถลิงศักดิ์ เพ็ชรสุวรรณ อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ ผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรี และคณะ ติดตามมาตรการป้องกันและลดปัญหาฝุ่นละอองจากยานพาหนะของผู้ประกอบการ ที่สถานีขนส่งสินค้าพุทธมณฑลสาย 5 จังหวัดนครปฐม โดยเน้นการแก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศ
นายธีรภัทร ประยูรสิทธิ ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า จากสถานการณ์มลพิษทางอากาศฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM 2.5) สูงเกินค่ามาตรฐานในหลายพื้นที่ ทั่วประเทศโดยเฉพาะในช่วงหน้าแล้งของทุกปี ซึ่งเกิดจากการเผาในที่โล่ง ไฟป่า การเผาไหม้ที่ไม่สมบูรณ์ของเครื่องยนต์ดีเซล เครื่องจักรโรงงานอุตสาหกรรม และหมอกควันข้ามแดนส่งผลต่อสุขภาพของประชาชนโดยรวม ซึ่งรัฐบาลได้ให้ความสำคัญต่อสถานการณ์ดังกล่าว ในการประชุมคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2562 ได้กำหนดให้การแก้ไขปัญหามลพิษด้านฝุ่นละอองเป็นวาระแห่งชาติ ประกอบกับนายกรัฐมนตรีให้ความสำคัญในการแก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศ ตามแผนปฏิบัติการ โดยเฉพาะการลดฝุ่นละออง PM 2.5 และได้มอบหมายให้ผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรี ตรวจติดตามการปฏิบัติงานของส่วนราชการที่เกี่ยวข้องระดับจังหวัดทุกสัปดาห์ เพื่อรับทราบการดำเนินงานของหน่วยงาน ปัญหาอุปสรรค และขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM 2.5) ให้เกิดผลเป็นรูปธรรมอย่างแท้จริง
การลงพื้นที่ครั้งนี้เพื่อติดตาม ช่วยเหลือ เร่งรัด และให้ข้อเสนอแนะแก่ส่วนราชการในพื้นที่ และภาคส่วนต่างๆ ในการขับเคลื่อนมาตรการต่างๆ ภายใต้แผนปฏิบัติการขับเคลื่อนวาระแห่งชาติ การแก้ไขปัญหามลพิษด้านฝุ่นละออง ปี 2562 “ลดแหล่งกำเนิด – หยุดยั้งปัญหา – ควบคุมพื้นที่” และมาตรการ “4 พื้นที่ 5 มาตรการบริหารจัดการ” รวมทั้งมาตรการอื่นๆ ที่จังหวัดได้มีการดำเนินการ เพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศให้บรรลุเป้าหมายตมนโยบายของรัฐบาล และสร้างคุณภาพสิ่งแวดล้อมที่ดีให้แก่ประชาชน
สำหรับการลงพื้นที่ตรวจ ณ สถานีขนส่งสินค้าพุทธมณฑลสาย 5 มีรถวิ่งเข้า–ออกทั้งขนาดใหญ่ กลาง และขนาดเล็ก ประมาณ 3,000 คันต่อวัน จากการตรวจช่วงเช้านี้ในเขตกรุงเทพมหานคร และนครปฐม ตรวจรถบรรทุกขนาดเล็กประมาณ 61 คัน พบว่ามีควันดำ 8 คัน โดยสั่งให้หยุดการใช้รถ และขอให้ประชาชนที่ใช้รถมีการตรวจบำรุงรักษาเครื่องยนต์อย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้เครื่องยนต์สะอาด ไม่ก่อให้เกิดมลพิษทางอากาศ และขอขอบคุณหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องที่ได้มีการตรวจบำรุงรักษาเครื่องยนต์ ทั้งนี้จะมีแผนการตรวจในภาพรวมของชุดปฏิบัติการเคลื่อนที่เร็วที่ทางกระทรวงคมนาคม กรมการขนส่งทางบก กรมควบคุมมลพิษ และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ รวม 20 ชุด ออกตรวจหมุนเวียน 50 เขตทั่วกรุงเทพมหานคร ส่วนในเขตจังหวัดต่างๆ จะมีทีมตรวจของแต่ละจังหวัดเอง โดยผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรีจะติดตามการทำงานของเจ้าหน้าที่ทุกจังหวัดอย่างต่อเนื่อง
สำหรับในช่วงตั้งแต่วันที่ 6-12 กุมภาพันธ์ 2564 กรมอุตุนิยมวิทยารายงานว่า ลมที่พัดปกคลุมประเทศไทยภาคเหนือ กรุงเทพมหานครและปริมณฑลมีกำลังอ่อนลง จะทำให้เกิดการสะสมฝุ่นละอองเพิ่มขึ้นและอาจมีฝนฟ้าคะนองบางพื้นที่ในภาคเหนือ ขอให้งดการเผาในที่โล่ง และต้องควบคุมไฟป่าไม่ให้ลุกลามเป็นวงกว้าง และช่วงวันที่ 6-7 กุมภาพันธ์ และวันที่ 11-12 กุมภาพันธ์นี้ ในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล จะมีการสะสมฝุ่นละอองด้วย จึงขอความร่วมมือพี่น้องประชาชน ขอให้ลดกิจกรรมการใช้รถยนต์ ลดกิจกรรมก่อสร้างที่ทำให้เกิดฝุ่น และงดการเผาในที่โล่ง กรณีที่ตรวจพบรถที่จดทะเบียนตาม พรบ.กรมการขนส่งทางบก เช่นรถบรรทุก หรือรถบัสขนาดใหญ่ โทษจะรุนแรง อัตราโทษควันดำเกินมาตรฐานที่กำหนด ปรับอยู่ที่ 5,000 บาทและระงับการใช้รถ รวมถึงต้องปรับปรุงเครื่องยนต์และกลับมาตรวจอีกครั้ง เมื่อผ่านเกณฑ์กำหนดจึงนำกลับไปใช้ได้ แต่หากถูกระงับการใช้แล้วยังนำไปใช้อีก ถือว่าฝ่าฝืน โทษจะสูงสุดปรับไม่เกิน 50,000 บาท หากประชาชนพบเห็นรถที่มีควันดำ แจ้งได้ที่สายด่วน กรมควบคุมมลพิษ 1650 และกรมการขนส่งทางบก 1584
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดนครปฐม–ภาพ/ข่าว
