วันนี้(24 ม.ค.64)เมื่อเวลา 16.00 น. นายณัฐภัทร สุวรรณประทีป ผวจ.สุพรรณบุรี นายปรีชา ทองคำ , นายนพฤทธิ์ ศิริโกศล รอง ผวจ. พร้อมนางนภัสสร สุวรรณประทีป นายกเหล่ากาชาดจังหวัดสุพรรณบุรี และหัวหน้าส่วนราชการ
นำสิ่งของพระราชทาน จากพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ มหิศรภูมิพลราชวรางกูร กิติสิริสมบูรณอดุลยเดช สยามินทราธิเบศรราชวโรดม บรมนาถบพิตร พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว พระราชทานแก่ราษฏรที่ประสบอัคคีภัยในพื้นที่ ตำบลสระยายโสม อ.อู่ทอง ซึ่งเกิดเหตุไฟไหม้ ตลาดโรงงิ้ว อาคารไม้เก่าแก่ เสียหายไป 21 ครัวเรือน และมีราษฏรได้รับความเดือดร้อน 39 คน เมื่อเวลาประมาณ 15.00 น. วันที่ 22 ม.ค. ที่ผ่านมา
จึงมอบหมายให้มูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ นำสิ่งของพระราชทานมามอบเพื่อเป็นขวัญและกำลังใจ และ บรรเทาความเดือดร้อนให้แก่ราษฎรผู้ประสบอัคคีภัย ยังความซาบซึ้งแก่พสกนิกร ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้
นอกจากนี้ ที่บ้านเลขที่ 42 หมู่ 3 ต.สระยายโสม ซึ่งประสบเหตุไฟไหม้เสียหายหมดทั้งหลัง แต่กลับพบภาพพระบรมฉายาลักษณ์ ของพระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร รัชกาลที่ 9 และ พระบรมฉายาลักษณ์ พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 กลับมีไฟไหม้เพียงชายขอบ โดยนายณัสกิต อ่อนกล่ำผล อายุ 57 ปี อาศัยอยู่ที่บ้านหลังดังกล่าว กล่าวว่า ภาพพระบรมฉายาลักษณ์ทั้ง 2 พระองค์ อยู่ในตู้ไม้ภายในบ้าน หลังเกิดเหตุ
หลังจากเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานมาตรวจสอบเสร็จแล้ว อนุญาติให้เจ้าของบ้านเข้าเก็บทรัพย์สิน ตนและญาติๆ ก็มาเก็บของที่กลายเป็นเถ้าถ่าน เมื่อมาดูกองหนังสือที่ตู้ไม้สัก ที่ไฟไหม้หมด ก็พบพระบรมฉายาลักษณ์ของทั้ง 2 พระองค์ มีเพียงขอบที่ไฟไหม้ ซึ่งตนเชื่อว่าเป็นเพราะพระบารมีของทั้ง2พระองค์ที่ทำให้ไฟไม่สามารถไหม้พระบรมฉายาลักษณ์ของพระองค์ได้ ซึ่งพี่ชาย ที่เป็นตำรวจ ได้นำพระบรมฉายาลักษณ์ ร.9 ไปใส่กรอบบูชา ส่วนตนจะนำ พระบรมฉายาลักษณ์ ร.10 ไปใส่กรอบบูชา เช่นกัน