วันที่ 13 มกราคม 2564 นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลง (MOU) ระหว่าง กรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย กับ บริษัท อีสท์ เวสท์ ซีด จำกัด โดยมีนายวิชัย เหล่าเจริญพรกุล ผู้จัดการทั่วไป บริษัท อีสเวสท์ ซีด จำกัด ร่วมลงนาม โดยมีนายสุรศักดิ์ อักษรกุล รองอธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน และนายอิสระ วงศ์อินทร์ ผู้จัดการฝ่ายขาย พร้อมทั้ง คณะผู้บริหารกรมการพัฒนาชุมชน เข้าร่วมเป็นสักขีพยาน เพื่อส่งมอบเมล็ดพันธุ์ผักตราศรแดง จำนวน100,000 ซอง เพื่อร่วมดำเนินการตามแผนปฏิบัติการ “90 วัน ปลูกผักสวนครัว สร้างความมั่นคงทางอาหาร ครั้งที่ 2” เพื่อสนับสนุนให้ภาคประชาชน ภาคเอกชน รวมถึงเกษตรกร มีการปลูกผักสวนครัว รั้วกินได้ ไว้บริโภคในครัวเรือน ในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ระลอกที่ 2 ณ บริษัท อีสท์ เวลท์ ซีด จำกัด (สำนักงานใหญ่) อำเภอไทรน้อย จังหวัดนนทบุรี
นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน กล่าวว่า ขอขอบคุณผู้บริหารบริษัท อีสเวสท์ ซีด จำกัด คุณวิชัย เหล่าเจริญพรกุล ผู้จัดการทั่วไป เข้าร่วมเป็นภาคีเครือข่ายอย่างแนบแน่น และสื่อมวลชนทุกท่านที่จะร่วมกันขับเคลื่อนสังคมไทยด้วยการ chang for good สู่แผนปฏิบัติการ 90 วัน ปลูกผักสวนครัวเพื่อสร้างความมั่นคงทางอาหาร เพื่อนำการเปลี่ยนแปลงไปสู่สิ่งที่ดีกว่า โดยกรมการพัฒนาชุมชนได้มีการตั้งเป้าไว้ในระดับอาเซียนจะช่วยรัฐบาลในการเป็นกระบอกเสียงเชิญชวนหลากหลายประเทศเข้ามาศึกษา ดูงาน เยี่ยมชม นำแนวทางปฏิบัติที่ดีของประเทศไทยนำไปประยุกต์ใช้ เช่น กัมพูชา ลาว ภูฏาน โดยการน้อมนำแนวทางการพัฒนาของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช ที่ทรงพระราชทาน เรื่อง ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง และทฤษฎีใหม่ ให้กับพี่น้องชาวไทย พระองค์ท่านทรงเล็งเห็นการณ์ไกล ให้พี่น้องชาวไทยน้อมนำพระราชดำริพระองค์ท่านมาใช้ในชีวิตประจำวัน เช่นเดียวกับสถานการณ์เกิดโรคระบาดโควิด-19 รอบที่ 2 นี้ พระองค์ท่านก็ได้ทรงคาดการณ์ไว้ใน ส.ค.ส.พระราชทานปี 2547 เศรษฐกิจพอเพียง “พ่อหลวง” แก้ระเบิด 4 ลูกสังคมไทย 1 ใน 4 ลูก คือ เรื่องโรคระบาด ซึ่งขณะนี้มีผู้ติดเชื้อในประเทศไทย จำนวน 10,991 คน จึงเป็นที่มาของการร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) เพื่อส่งมอบเมล็ดพันธุ์คุณภาพตราศรแดงแก่คนไทยทั้ง 76 จังหวัดทั่วประเทศ รวมจำนวน 100,000 ซอง ภายใต้โครงการ “ปฏิบัติการ 90 วัน ปลูกผักสวนครัวเพื่อสร้างความมั่นคงทางอาหาร ครั้งที่ 2”
เพื่อเป็นการสนองพระราชปณิธานพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ในการทรงงานเพื่อจะสืบสาน รักษา และต่อยอดโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ในพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทรงนำแนวทางปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง และทฤษฎีใหม่ เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นของพสกนิกรของพระองค์สืบไป รวมถึงในเรื่องความมั่นคงทางอาหาร โดยน้อมนำแนวพระราชดำริของสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ที่ทรงพระราชทานแนวทาง และทรงสร้างพื้นที่ต้นแบบอย่างหลากหลายพื้นที่ เช่นที่ตำบลโก่งธนู อำเภอเมืองลพบุรี จังหวัดลพบุรี ภายใต้โครงการ “บ้านนี้มีรัก ปลูกผักกินเอง” รณรงค์ให้ทุกหลังคาเรือนมีการคัดแยกขยะ สร้างความรู้ ความเข้าใจในการบริหารจัดการขยะเปียก นำเศษอาหารมาทำเป็นปุ๋ยหมัก น้ำหมักชีวภาพ ใส่แปลงผัก การดูแลรักษาความสะอาดครัวเรือนให้ถูกสุขลักษณะ ดูแลรักษาภูมิทัศน์ สิ่งแวดล้อม เพิ่มพื้นที่สีเขียวให้กับชุมชน ขยายผลการปลูกผักสวนครัว การสร้างคลังอาหารเพิ่มขึ้น โดยกรมการพัฒนาชุมชน ก็ได้มีการถอดบทเรียนจากตำบล และคาดหวังว่า ทุกพื้นที่ ทุกครัวเรือน จะมีการปลูกพืชผักสวนครัวมากกว่า 20 ชนิด เช่นเดียวกับ ตำบลโก่งธนู จังหวัดลพบุรี
จากผลการตอบรับแผนปฏิบัติการ 90 วันในเฟสที่ 1 ประชาชนได้เข้าร่วมโครงการปลูกพืช ปลูกผัก ปลูกรักกับพช. มีครัวเรือนจากทั่วประเทศเข้าร่วมมากกว่า 10 ล้านครัวเรือน โดยประกาศเป็นปฏิบัติการ Quick Win 90 วัน ระหว่างวันที่ 1 เมษายน-30 มิถุนายน 2563 มีครัวเรือนเป้าหมายทั้งหมดจำนวน 12.9 ล้านครัวเรือน ซึ่งเป็นที่น่ายินดีอย่างยิ่งว่ามีพี่น้องประชาชนทั่วประเทศร่วมปลูกผักสวนครัวถึง 12,601,491 ครัวเรือน คิดเป็น 97.11% พบว่า ได้รับประโยชน์อย่างเป็นรูปธรรมมีผักปลอดสารพิษไว้รับประทานในยามเกิดวิกฤต โดยที่ไม่ต้องซื้อหาจากข้างนอก ปลูกผักที่กิน กินผักที่ปลูก ประหยัดรายจ่าย เท่ากับเพิ่มรายได้ เสริมสร้างความแข็งแรงให้กับร่างกาย ด้วยผักใบเขียวและลดการสะสมสารพิษภายในร่างกาย เสริมสร้างสุขภาพร่างกายให้แข็งแรง กรมการพัฒนาชุมชน จึงมองไปข้างหน้าต่อยอดขับเคลื่อนกิจกรรม ปฏิบัติการ 90 วัน ปลูกผักสวนครัวเพื่อสร้างความมั่นคงทางอาหาร ครั้งที่ 2 โดยเป้าหมายในครั้งนี้จะยิ่งเข้มข้นกว่าเฟส 1 เพราะต้องการให้เกิดความยั่งยืนอย่างแท้จริงในทุกชุมชน เริ่มจาก “ความต่อเนื่องคือพลัง” ส่งเสริมการปลูกพืชผักที่ปลูกอยู่แล้วให้เป็นไปอย่างต่อเนื่อง ร้อยละ 90 ของครัวเรือนในหมู่บ้านปลูกพืชผักสวนครัวอย่างน้อยคนละ 10 ชนิด มีกลุ่มผลิตหรือแปรรูปหรือจำหน่ายพืชผักอย่างน้อยตำบลละ 1 กลุ่ม มีกิจกรรมเชิงนวัตกรรมและศูนย์ขยายเมล็ดพันธุ์ทุกตำบล “ทำเป็นบ้านสานเป็นกลุ่ม” ส่งเสริมการปลูกผักสวนครัวแบบเข้าถึงทุกครัวเรือน และสร้างเครือข่ายขยายผล ซึ่งเป็นแนวทางขับเคลื่อนที่เข้มแข็งและประสบผลสำเร็จ จนท้ายที่สุดทุกครัวเรือนในประเทศไทยได้รับประโยชน์และเชื่อว่าจะเป็นทางรอดที่ยั่งยืน ตลอดถึงมีกิจกรรมสร้างความรัก ความสามัคคี ความอบอุ่นภายในครอบครัวได้อย่างยั่งยืน
นายสุทธิพงษ์ กล่าวว่านับเป็นเรื่องโชคดีได้พันธมิตรภาคีเครือข่ายที่ดี บริษัท อีสท์ เวสท์ ซีด จำกัด ซึ่งเป็นเป็นผู้ผลิตเมล็ดพันธุ์ผักหลายร้อยชนิด ตราศรแดงมีผู้บริหารที่มีวิสัยทัศน์ไปในทางเดียวกันที่อยากเห็นประชาชนมีความสุข มีคลังอาหารเก็บไว้บนพื้นดินที่ไม่มีวันหมด สนับสนุนโครงการด้วยการลงนามใน MOU กับกรมการพัฒนาชุมชนและได้ส่งมอบเมล็ดพันธ์ตราศรแดง สู่ประชาชน 76 จังหวัดทั่วประเทศไทย ภายใต้ “โครงการ ปฏิบัติการ 90 วัน ปลูกผักสวนครัวเพื่อสร้างความมั่นคงทางอาหาร ครั้งที่ 2” จำนวนทั้งสิ้น 100,000 ซอง ซึ่งมีความสำคัญต่อพี่น้องคนไทยเป็นอย่างมาก ในการสร้างความตื่นตัว เพื่อส่งต่อเมล็ดพันธุ์นี้แก่ประชาชนผู้เข้าร่วมโครงการทั่วประเทศ เพื่อสร้างความมั่นคงด้านอาหาร อย่างมีนัยยะที่สำคัญต่อชีวิตของมนุษย์อย่างหาที่สุดมิได้ นั่นก็คือ 1ในปัจจัย 4 การมีอาหารการกินในช่วงยามวิกฤต การมีผักไว้รับประทาน และปลอดสารพิษ ก่อให้เกิดความมั่นคงด้านอาหารในระดับครัวเรือนจนถึงระดับหมู่บ้านมีการปลูกผักสวนครัว และสร้างคลังอาหารเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ ยังให้สิทธิแก่ผู้เข้าร่วมโครงการ ซื้อเมล็ดพันธุ์ตราศรแดงในราคาซื้อ 1 ซองแถม 1 ซอง เป็นการลดภาระค่าใช้จ่ายแก่ประชาชน 12 ล้านครัวเรือน และขอให้ผู้ว่าราชการจังหวัด องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ในการให้หน่วยงานภูมิภาคและท้องถิ่นได้ช่วยกันจัดทำโครงการจัดซื้อเมล็ดพันธุ์ผัก เพื่อนำไปแจกจ่ายให้กับพี่น้องประชาชน เป็นการประหยัดงบประมาณจากภาครัฐ
“กรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย ขอกราบขอบพระคุณผู้บริหารและทีมงามบริษัท อีสท์ เวสท์ ซีด จำกัด ผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัด ผู้นำองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้นำอาสาพัฒนาชุมชน ผู้นำสตรี และคณะสงฆ์ ได้เป็นภาคีเครือข่ายที่ดีในการขับเคลื่อนงานอย่างต่อเนื่อง ทำให้สังคมเป็นสังคมแห่งความรัก ความสามัคคี เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ ซึ่งพืชผักที่ปลูกจะสามารถช่วยบรรเทาความเดือดร้อนจากสถานการณ์วิกฤตโควิด-19 นี้ อย่างน้อยก็ช่วยลดค่าใช้จ่ายในครัวเรือน การเข้าร่วมกิจกรรมครั้งนี้ ทำให้มีผักกินเองในบ้านโดยที่ไม่ต้องซื้อหาจากข้างนอก ปลูกผักที่กิน กินผักที่ปลูก ประหยัดรายจ่าย เท่ากับเพิ่มรายได้ คิดง่ายๆ ว่า จำนวน 12 ล้านครัวเรือนประหยัดเงินจากการซื้อผักครัวเรือนละ 50 บาท เท่ากับประหยัดเงินได้ 600 ล้านบาท/วัน 18,000 ล้านบาท/เดือน รวมแล้วประหยัดได้กว่า 200,000 ล้านบาท/ปี ทำให้เศรษฐกิจฐานรากของประเทศเกิดความมั่นคง มีความเข้มแข็ง อย่างยั่งยืนต่อไป” อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชนกล่าว
ด้าน นายวิชัย เหล่าเจริญพรกุล ผู้จัดการทั่วไป กล่าวว่า รู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้เป็นตัวแทน บริษัท อีสท์ เวสท์ ซีด จํากัด มอบเมล็ดพันธุ์ผักตราศรแดง แก่กรมการพัฒนาชุมชน เพื่อแจกจ่ายให้กับประชาชนทั่วประเทศไทย จากโครงการ ปฏิบัติการ 90 วัน ปลูกผักสวนครัวเพื่อสร้างความมั่นคงทางอาหาร ครั้งที่ 1 เราได้ทำร่วมกับทางกรมการพัฒนาชุมชน เมื่อเกิดวิกฤตโควิด-19 ครั้งแรกนั้น ทางเราได้ผลตอบรับเป็นอย่างดีมาก เมล็ดพันธุ์ที่พี่น้องประชาชนนำไปปลูกแล้วได้ผลผลิตอย่างยอดเยี่ยม มีคุณภาพที่ดีทานได้ตลอดปี ต้องขอขอบคุณท่านอธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน ที่ให้โอกาสกับทางเราเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนกิจกรรมดีๆ ซึ่งแนวคิดนี้ตรงกับปณิธานของมิสเตอร์ ไซมอน แนน์ กรู๊ท ผู้ก่อตั้งบริษัทที่ท่านกล่าวไว้ว่า “เมล็ดพันธุ์ที่ดีสามารถเปลี่ยนชีวิตคนนับล้าน” สามารถช่วยเหลือพี่น้องประชาชนในสถานการณ์แพร่ระบาดโควิด-19 นี้ ซึ่งสอดคล้องกับแนวทางของกรมการพัฒนาชุมชน เพื่อสร้างความมั่นคงทางอาหาร ลดรายจ่าย เพิ่มรายได้แก่ประชาชน ซึ่งเมล็ดพันธุ์นี้ อาจเป็นส่วนเล็กๆ ในการช่วยเหลือสังคม แต่ถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของห่วงโซ่อาหาร ที่เราสามารถมีแหล่งอาหารภายในครัวเรือน สร้างความมั่นคงทางอาหาร ให้กับประชาชนในสภาวะการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 เราจึงมุ่งมั่นสร้างมาตรฐานสินค้าที่ดีที่สุด เพื่อสร้างความมั่นคงให้กับเกษตรกรและประชาชน ทางบริษัทจึงไม่ลังเลที่จะเข้าร่วมเป็นภาคีเครือข่ายกับกรมการพัฒนาชุมชนในการขับเคลื่อนโครงการ เพื่อช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดโควิด-19 ระลอกที่ 2 นอกจากนี้ ยังให้สิทธิแก่ผู้เข้าร่วมโครงการ หน่วยงานภาครัฐ เอกชน ที่เข้าร่วมโครงการ ซื้อเมล็ดพันธุ์ 1 แถม 1 และยังมีเจ้าหน้าที่ภาคสนามที่มีความรู้และความเชี่ยวชาญด้านการปลูกผัก ถ้าหน่วยงานหรือประชาชนที่เข้าร่วมโครงการ ต้องการให้เจ้าหน้าที่ภาคสนามของเราไปมอบองค์ความรู้ด้านการปลูกหรือการทำแปลงสาธิต ก็สามารถติดต่อมาที่บริษัทได้เลย ดังนั้นจึงเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่บริษัท อีสท์ เวสท์ ซีด จำกัด ได้มีโอกาสเป็นส่วนหนึ่งใน โครงการปฏิบัติการ 90 วัน ปลูกผักสวนครัวเพื่อสร้างความมั่นคงทางอาหาร ครั้งที่ 2 จากเมล็ดพันธุ์ที่ดี มีมาตรฐาน ของบริษัทฯ จะช่วยเป็นจุดเริ่มต้นของความสุขปลูกได้ เพื่อสร้างความมั่นคงทางอาหาร ให้ประชาชนในประเทศไทยของเรารอดพ้นจากวิกฤตในครั้งนี้