วันที่ 17 ธันวาคม พ.ศ.2563 ที่วัดไผ่ล้อม อำเภอเมือง จังหวัดนครปฐม ตำรวจภูธรภาค7 แถลงข่าวจับกุมโจรใจบาป ฉายา “คิด สไปเดอร์แมน” ตระเวนลักพระเครื่องและทรัพย์สินตามวัดต่างๆหลายที่ ตามนโยบายของสำนักงานตำวจแห่งชาติ โดยพล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รอง ผบ.ตร.
ให้เร่งรัดการสืบสวนสอบสวนคดีอุกฉกรรจ์เพื่อจับกุมตัวคนร้ายที่ก่อเหตุลักทรัพย์ในวัดไผ่ล้อม ต.พระปฐมเจดีย์ อ.เมืองนครปฐม
จ.นครปฐม เมื่อวันที่ 7 ธันวาคม พ.ศ.2563 และวัดอื่นๆอีก 3 วัดในพื้นที่ใกล้เคียง
โดยให้ตำรวจภูธรภาค 7 ภายใต้อำนวยการของ พล.ต.ท.ธนา ชูวงศ์ผบช.ภ.ต,พล.ต.ต.สรายุทธ สงวนโภคัย รอง ผบช.ภ.7 ได้สั่งการเร่งรัดให้จับกุมผู้กระทำความผิด มาดำเนินคดีตามกฎหมาย
กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 7 ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ต. นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ ผบก.
สส.ภ.7, พ.ต.อ.ปรีดา อิ่มเจริญ รอง ผบก.ฯ พ.ต.อ.ประสพชัย มัตสยะวนิชกูล รองผบก.ฯ ได้สั่งการให้ พ.ต.อ.สุภาพ วัยนิพิฐพงษ์ ผกก.สส.1 ฯ พ.ต.ท.ทศพร รุ่งเรืองศุภรัตน์ สว.สส.1 ฯ พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนกองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 7
กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนคปฐม ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ต.สุรชาติมณีจักร ผบก.ภ.จว.นครปฐม
ได้สั่งการให้ พ.ต.อ.วัชรินทร์ บุญรักษ์ ผกก.สส.ฯ พ.ต.อ.ไพบูลย์ แพรสีนวลผกก.สภ.เมืองนครปฐม, พ.ต.ท.ชัยชาญพัฒน์ ยติรัตนกัญญา
รอง ผกก.สส. ๆ, พ.ต.ท.ยงลิต ศุภผล รอง ผกก.สส.ฯ พ.ต.ท.ภูริพรรษณ์ โลหะกิตระกูลรอง ผกก.สส.ฯ, พ.ต.ต.ไชยศ อุปริกธาติพงษ์
สว.กก.สส.”พร้อมจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน กก.สส.ภ.จว.นครปฐมและเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองนครปฐม
กองบังคับการตำรวจนครบาล 9 ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต ต.พงศ์อานันต์คล้ายคลึง ผบก.น.7,
พ.ต.อ.นครินทร์ สุคนธวิท รอง ผบก.น.9 ได้สั่งการให้ พ.ต.อ.ณกฤช บุญศักดิ์ ผกก.สส. ฯ พ.ต.อ.วิศิษฐ์ สังขนันท์ ผกก.สน.บางขุนเทียน,พ.ต.ท.วิเชียร เพชรเสนา รองผกก.สส.ฯ พ.ต.ท.ปรเมศว์ เมฆสั้น รอง ผกก.สส.สน.บางขุนเทียน, พ.ต.ท.อิทธิกร ลุนสะแกวงศ์ สว.
กก.สส.บกน.9 , พ.ต.ต.ภราดร ชิดชูล้ำตระกูล สว.สส.สน.บาขุนเทียนและเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนกก.สส.บก.น.9 และเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สน.บางขุนเทียน
ได้ร่วมกันจับกุมผู้ต้องหา คือ นายสมคิดหรือติ่ง แต้มงาม อายุ 33 ปี อยู่บ้านเลขที่ 49 ม.10 ต.สำโรงตาเจ็น อ.ขุขันธ์ จ.ศรีสะกษ ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดนครปฐม เลขที่ ๓๐๗/๒๕๖๓ ลง ๑๖ ธันวาคม ๒๕๖๓
พร้อมด้วยของกลาง คือ
๑. พระเครื่องของวัดหนังราชวรวิหาร จำนวน ๗๓๕ รายการ
พระเครื่องวัดท่าไม้ จำนวน ๑๒ รายการ
๓. มูลนิธิสมเด็จพระพุฒาจารย์โตพรหมรังษี อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา จำนวน ๑๖๙รายการ
๔.พระเครื่องวัดไผ่ล้อม จำนวน ๗ รายการ
๕. เงินทำบุญวัดไผ่ล้อม จำนวน ๔,๕๕๓ บาท
โดยกล่าวหาว่า ” ลักทรัพย์ในวลากลางคืน โดยทำอันตรายสิ่งกีดกั้นสำหรับคุ้มครองบุคคลหรือทรัพย์โดยเข้าทางช่องทางซึ่งได้ทำขึ้นโดยไม่ได้จำนงให้เป็นทางคนเข้า “
วันเวลาที่จับกุม และสถานที่ตรวจค้น วันที่ ๑๖ ธันวาคม พ.ศ.๒๕๖๓ เวลาประมาณ๒๒.๐๐ น. ที่หอพักไม่มีชื่อ ในชอยพระราม
ที่ ๒ ชอย ๕๙ แขวงแสมดำ เขตบางขุนเทียน จังหวัดกรุงเทพมหานคร
พฤติการณ์การจับกุม เมื่อวันที่ ๗ ธันวาคม ๒๕๖๓ เกิดเหตุคนร้ายลักทรัพย์พระเครื่องและเงินบริจาคในวัดไผ่ล้อม ต.พระปฐม
เจดีย์ อ.เมืองนครปฐม จ.นครปฐม จากการตรวจสอบพบว่าแผนประทุษกรรมของคนร้ายจะงัดหน้าต่าง ปืนเข้ามาลักทรัพย์ภายในวัดไผ่ล้อมแล้วหลบหนีโดยใช้การเดินทางโดยรถยนต์สาธารณะ ซึ่งในการก่อเหตุของคนร้ายรายนี้มีพฤติการณ์ในลักษณะ
เดียวกันกับวัดหนังราชววิหารในพื้นที่ สน.บางขุนเทียน บก.น.9 จึงได้ร่วมกันสืบสวน จนทราบว่าผู้ก่อเหตุคือนายสมคิด หรือติ่ง
แต้มงาม เพิ่งออกจากเรือนจำมาเมื่อต้นเดือน ตุลาคม ๒๕๖๓ และได้หลบซ่อนตัวอยู่ภายในหอพักไม่มีชื่อ ในชอยพระรามที่๒
ชอย๕๙ แขวงแสมดำ เขตบางขุนเทียน จังหวัดกรุงเทพมหานคร เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนตำรวจภูธภาค๗ และเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน
บก.น.๙ ได้ร่วมกันติดตามตรวจสอบจนพบว่า ทรัพย์สินที่นายสมคิดหรือติ่ง แต้มงามได้ลักทรัพย์มานั้นได้ซุกซ่อนอยู่ภายใน
ห้องพักเป็นพระครื่องจำนวนหลายรายการ และงินสดเป็นเหรียญจำนวน ๔๕๕๓ บาทและต่อมาได้จับกุมตัวนายสมคิดฯ ได้
จาการตรวจสอบประวัติและคำรับสารภาพของ นายสมคิด แต้มงาม เพิ่มเติมสอบถามแล้วได้ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา นายสมคิด หรือติ่ง แต้มงาม มีประวัติการต้องโทษย้อนหลัง ดังนี้
๑. เมื่อประมาณปี ๒๕๕๙ ถูกจับกุมในข้อหา ลักทรัพย์ (ม.๓๓๔) เลขคดีที่ ๖๑๖/ ๒๕๕๙สน.บางขุนเทียน โดยมีพฤติการณ์
แบบ สไปเดอร์แมน โรยตัวลงมาจากฝ้าเพดานเพื่อลักโทรศัพท์มือถือ จนได้ฉายา ” คิดสไปเดอร์แมน ” โดย
ลักโทรศัพท์หลายครั้ ก่อนถูกจับกุมและต่อมาศาลได้พิพากษาลงโทษจำคุก ๘ เดือน
๒. ถูกอายัดตัวในข้อหา ลักทรัพย์ในเวลากลางคืน (ม.๓๓๕) เลขคดีที ๔๗๑/ ๒๕๕๕สภ.บางใหญ่ ถูกศาลพิพากษาจำคุก ๓ ปี
เพิ่งพ้นโทษออกมาเมื่อ ๓ ตุลาคม ๒๕๖๓ หลังจากพ้นโทษมาในช่วงระยะเวลา ๒ เดือนนายสมคิด แต้มงาม ก็ได้มาก่อเหตุลัก
ทรัพย์ในเวลากลางคืน โดยทำอันตรายสิ่งกีดกั้นสำหรับคุ้มครองบุคคลหรือทรัพย์โดยข้าทางช่องทางซึ่งได้ทำขึ้นโดยไม่ได้จำนงให้เป็นทางคนเข้า
ทั้งหมด ๔ วัด ได้แก่ วัดหนังราชวรวิหาร, วัดท่าไม้, มูลนิธิสมเด็จพระพุฒาจารย์โตพรหมรังษี, และ
วันที่ ๗ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๖๓ ได้ก่อหตุที่วัดไผ่ล้อม ต.พระปฐมเจดีย์ อ.เมืองนครปฐมจ.นครปฐม ดังกล่าว
จากการค้นพบเอกสาร จดหมายและการจดบันทึกข้อความของนายสมคิด แต้มงาม พบว่ามีการตระเวณไปสำรวจวัด
ต่างๆทั้งใน กรุงเทพมหานครและต่างจังหวัด หลายวัดมาก พร้อมการเข้าไปพบพระสงฆ์ในวัด เข้าไปตีสนิท เข้าไปเช่าพระ เข้าไป
สำรวจเส้นทางเข้า ออกของวัด การเก็บเงินสดของวัดและตู้บริจาคที่วางไว้ในวัด และสถานที่เก็บวัตถุมงคลของวัด รวมทั้ง
ทรัพย์สินมีค่า พระพุทธรูป พระเครื่องต่างๆ พร้อมทั้งเตรียมพร้อมจะรอวางแผนร่วมกับเพื่อนซึ่งใกล้จะออกจากเรือนจำ ในการที่
จะร่วมมือกันก่อเหตุลักทรัพย์
จึงขอประชาสัมพันธ์ทุกๆวัด ที่มีพระเครื่อง พระพุทธรูปสำคัญ รวมทั้งตู้รับบริจาค ทางคณะกรรมการวัดรวมทั้งคณะพระสงฆ์
และประชาชนที่มีจิตศรัทธาทั้งหลาย ได้ช่วยกันดูแล รักษาความปลอดภัย เฝ้าระวังภัยจากมิจฉาชีพกลุ่มโจรใจบาป
เข้ามาตีสนิท เข้ามาก่อหตุภายในวัด โดยร่วมมือร่วมใจป้องกันระวังภัย ทั้งติดตั้งแสงสว่างภายในวัดให้เพียงพอ การติดตั้งกล้อง
วงจรปิด และการเก็บรักษพระครื่อง พระพุทธรูปสำคัญ ตู้บริจาค ให้อยู่ในสถานที่ปลอดภัยมีสิ่งกีดกั้นที่จะรักษาทรัพย์สิน
ดังกล่าวไว้ได้ รวมทั้งการจัดวงรอบในการตรวจสอบอย่างใกล้ชิดและต่อเนื่อง
