ที่ อุทยานมังกรสวรรค์ ศาลเจ้าพ่อหลักเมืองสุพรรณบุรี นายณัฐภัทร สุวรรณประทีป ผู้ว่าราชการจังหวัดสุพรรณบุรี กล่าวภายหลังการสัมภาษณ์กับทีมงานของ อพท.7 ว่า
การขับเคลื่อนเมืองสร้างสรรค์ด้านดนตรีของยูเนสโก นั่นต้องได้รับความร่วมมือจากทุกภาคส่วนโดยเฉพาะพี่น้องประชาชนชาวจังหวัดสุพรรณบุรี ซึ่งในส่วนของจังหวัด ต้องเสนอความโดดเด่นของจังหวัดสุพรรณในด้านดนตรีให้ชัดเจน โดยเฉพาะความเชื่อมโยงระหว่างดนตรีกับวิถีชีวิตของผู้คน และความหลากหลายทางด้านดนตรี ตั้งแต่ดนตรีชาติพันธุ์ การละเล่น การแสดงต่าง ๆ ตลอดจน 5 สายธารดนตรีที่มีความโดดเด่นของสุพรรณที่เรียกกันว่า “เบญจภาคีดนตรีสุพรรณ” ประกอบด้วย ดนตรีไทยเดิม ดนตรีพื้นบ้าน เพลงลูกทุ่ง เพลงเพื่อชีวิต และเพลงสตริงป๊อบร็อค มีอัตลักษณ์ที่โดดเด่นทั้งในวิถีชีวิตที่มีเพลงและดนตรีเข้ามาเกี่ยวข้องกับคนสุพรรณบุรีตั้งแต่เกิดจนตาย ด้วยน้ำเสียงเหน่ออันมีเสน่ห์
ดังนั้นการผลักดันให้จังหวัดสุพรรณบุรีเป็น Music City ทุกคนต้องเป็นทั้งผู้นำและผู้สนับสนุนไม่ใช่ ผู้ว่าฯคนเดียวทำไม่ได้ และต้องอาศัยงานอีเว้นท์ต่างๆที่มีการแสดง และการประกวดดนตรีสอดแทรกอยู่ ดังนั้น เพื่อดึงดูดและเพิ่มการมีส่วนร่วมของประชาชนในจังหวัด การประชาสัมพันธ์ผ่านช่องทางต่าง ๆ ทั้งออนไลน์ และออฟไลน์ ตลอดจนการจัดกิจกรรมทางด้านดนตรีที่กระจายไปยังพื้นที่ต่าง ๆ ทั่วจังหวัด สร้างบรรยากาศของความเป็นเมืองดนตรีทั่วทั้งจังหวัด เพิ่มการจัดแสดงดนตรีในพื้นที่สาธารณะ และสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ ให้มากขึ้น เพื่อให้ประชาชนค่อย ๆ ซึมซับบรรยากาศ และเสียงดนตรีเข้าไปในทุก ๆ กิจกรรมที่เขาทำ สร้างการเรียนรู้ตลอดชีวิตทางด้านตรีที่ประชาชนทุกเพศ ทุกวัยสามารถเข้าถึงได้ ตั้งแต่เด็กเล็กไปจนถึงกลุ่มผู้สูงอายุ และกลุ่มผู้ด้อยโอกาสในจังหวัด
ทั้งนี้ อพท.7 ร่วมกับจังหวัดสุพรรณบุรี องค์การบริหารส่วนจังหวัดสุพรรณบุรี หน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง สถาบันการศึกษา ภาคีเครือข่ายศิลปิน ผู้ประกอบการด้านดนตรี และชุมชน เพื่อก่อให้เกิดการพัฒนาเมืองอย่างต่อเนื่อง นำไปสู่การเป็นสมาชิกเครือข่ายเมืองสร้างสรรค์ด้านดนตรีของยูเนสโก้