โครงการสมาชิกวุฒิสภาพบประชาชน กำหนดลงพื้นที่จังหวัดตรัง เพื่อรับฟังความคิดเห็นของประชาชน ระหว่างวันที่ 11-12 พ.ย.2563
นายขจรศักดิ์ เจริญโสภา ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง เปิดเผยว่า คณะกรรมการโครงการสมาชิกวุฒิสภาพบประชาชนในพื้นที่จังหวัดภาคใต้ ได้กำหนดจัดโครงการสมาชิกวุฒิสภาพบประชาชนในพื้นที่จังหวัดภาคใต้ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อรับฟังความคิดเห็นของประชาชนในพื้นที่และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อนำข้อมูลมาประกอบการพิจารณากลั่นกรองกฎหมายและผลสัมฤทธิ์ของกฎหมายที่ประกาศใช้บังคับแล้วให้สอดคล้องกับหลักการตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 มาตรา 77 รวมทั้งปฏิบัติภารกิจตามรัฐธรรมนูญฯ มาตรา 270 ซึ่งกำหนดให้วุฒิสภามีหน้าที่และอำนาจในการติดตามผลการดำเนินงานของหน่วยงานที่มีภารกิจเกี่ยวข้องกับการปฏิรูปประเทศและยุทธศาสตร์ชาติ ตลอดจนเสนอแนะและเร่งรัดเพื่อให้บรรลุเป้าหมายตามรัฐธรรมนูญฯ หมวด 16 การปฏิรูปประเทศ และตามที่กำหนดในยุทธศาสตร์ชาติ ตลอดจนเพื่อเปิดโอกาสในการสร้างความเข้าใจในเรื่องบทบาทหน้าที่และอำนาจของวุฒิสภาต่อส่วนราชการ ภาคเอกชน และภาคประชาสังคมได้รับทราบ
ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง ได้กล่าวอีกว่า โครงการสมาชิกวุฒเสภาพบประชาชนในส่วนจังหวัดตรังได้กำหนดในวันพุธที่ 11 พฤศจิกายน โดยคณะที่เดินทางมาประกอบด้วย นายเนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์ ที่ปรึกษาคณะกรรมการ พลเอกไพโรจน์ พานิชสมัย ที่ปรึกษาคณะกรรมการ นายสมชาย เสียงหลาย รองประธานกรรมการคนที่สาม นางสาวปิยฉัฎฐ์ วันเฉลิม พลอากาศเอก สุจินต์ แช่มช้อย นายนิอาแซ ซีอุเซ็ง พลเอก นิวัตร มีนะโยธิน พลเอก บุญะรรม โอริส นายวิชัย ทิตตภักดี กรรมการ และนายสถิต ลิ่มพงศ์พันธุ์ สมาชิกวุฒิสภา โดยในเวลา 15.30 -17.00 น.คณะจะลงพื้นที่รับฟังความคิดเห็นของศิลปินพื้นบ้าน ณ ชุมชนท่องเที่ยวตำบลนาข้าวเสีย อ.นาโยง วันพฤหัสบดีที่ 12 พฤศจิกายน เวลา 10.15-12.00 น.ลงพื้นที่รับฟังความคิดเห็นของประชาชน ณ วิสาหกิจชุมชนล่องแก่งบ้านเขาหลัก หมู่บ้านต้นแบบเศรษฐกิจพอเพียง/ชุมชนท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถี หมู่ที่ 7 ตำบลน้ำผุด อำเภอเมืองตรัง ในภาคบ่ายเวลา 14.00-16.00 น.คณะลงพื้นที่รับฟังความคิดเห็นของประชาชน ณ บ่อหินฟาร์มสเตย์/วิสาหกิจชุมชนเลี้ยงปลากระชังบ้านพรุจูด แหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตร เลขที่ 145/1 หมู่ที่ 2 ตำบลบ่อหิน อำเภอสิเกา ทั้งนี้ขอเชิญชวนพี่น้องประชาชนในพื้นที่ระดับหมู่บ้าน ตำบล และอำเภอ กลุ่มการศึกษา หน่วยงานภาครัฐ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น องค์กรภาคเอกชน และสื่อมวลชน รวมถึงผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในพื้นที่ เข้าร่วมโครงการดังกล่าวฯ ซึ่งโครงการนี้สามารถเป็นเวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้และช่วยกันขับเคลื่อนประเทศตั้งแต่ระดับฐานราก ชุมชน สังคม และระดับประเทศ ให้พัฒนาไปข้างหน้าได้อย่างสอดคล้องกันและเป็นระบบ เพื่อให้เกิดความตระหนักสำนึกรับผิดชอบต่อประเทศชาติและสังคมโดยรวม นำไปสู่สังคมที่ประชาชนมีความสุข มีคุณภาพชีวิตที่ดี มีสังคมที่มีความสงบสุข ประเทศชาติมีความสงบเรียบร้อย มีความรักสามัคคี ปรองดอง และมีการพัฒนาอย่างยั่งยืนในทุกด้าน บนพื้นฐานของการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข