มหัศจรรย์หุบป่าตาดชมป่าดึกดำบรรพ์

หุบผาตาด  เป็นสถานที่ท่องเที่ยวตามธรรมชาติที่มีมาช้านาน   ค้นพบโดยพระครูสันติธรรมโกศล (หลวงพ่อทองหยด) เจ้าอาวาสวัดถ้ำทอง  สภาพธรรมชาติเต็มไปด้วยพันธุ์ไม้นานาชนิด

นางสุชารัตน์ แสงอรุณ ผอ.ททท.สำนักงานอุทัยธานี  ใจดี  พาพวกเราไปยังหุบป่าตาด  ซึ่งตั้งอยู่ใน ตำบลทุ่งนางาม อำเภอลานสัก อุทัยธานี   อยู่ในความดูแลของเขตห้ามล่าสัตว์ป่าถ้ำประทุน   ที่นี่.!! เป็นสถานที่ที่เต็มไปด้วยความสวยงามปลกตาของทางธรรมชาติ หุบป่าตาด ได้ถูกประกาศจากกรมอุทยานแห่งชาติ ให้เป็นพื้นที่อนุรักษ์ เนื่องจากมีสภาพทางภูมิศาสตร์ที่แปลกตาด้วยพันธุ์ไม้ หายากมากมายหลายชนิด เช่น เต่าร้าง เปล้า คัดค้าวเล็ก ขนุนดิน เป็นต้น   โดยหุบป่าตาดมีลักษณะเป็นโถงถ้ำขนาดใหญ่ที่ภายในคือผืนป่าที่เต็มไปด้วยต้นตาดและพืชพันธุ์โบราณแปลกตา ถ้ำหุบป่าตาดนั้นค้นพบโดยพระครูสันติธรรมโกศล (หลวงพ่อทองหยด) เจ้าอาวาสวัดถ้ำทอง เมื่อปี พ.ศ. 2522 ครั้งนั้นพระครูได้ปีนลงไปในหุบเขานี้แล้วพบว่ามีต้นตาดขึ้นอย่างดาษดื่น  ซึ่งต้นตาดนั้นจัดเป็นไม้ดึกดำบรรพ์ตระกูลเดียวกับปาล์ม ท่านจึงได้เจาะถ้ำเพื่อเป็นทางเข้าไปสู่หุบป่าตาดนั้นในปี พ.ศ. 2527  เมื่อมาถึงปากทางขึ้นไปยังหุบป่าตาด เสียค่าบริการเข้าชม  พร้อมไฟฉาย 1 อัน

สำหรับระยะทางเดินชมธรรมชาติ ไป-กลับ 700 เมตร ใช้เวลาชมประมาณ 30 นาที  เป็นเส้นทางเดินชมธรรมชาติที่เดินสบายๆ แบบเพลิดเพลิน ได้เห็นต้นตาดขึ้นปกคลุมหนาแน่นในวงล้อมของผาหินที่เต็มไปด้วยหินงอก หินย้อย รูปร่างแปลกตา โดยเริ่มจากเดินผ่านไปยังบันไดทางเดินที่ได้จัดทำไว้  ไปสู่จุดแรก คือ โถงถ้ำที่มืดสนิท และปลายทางคือปล่องขนาดใหญ่ที่มีแสงส่องลงมา

โดยมีจุดชมวิวที่เผยให้เห็นภาพอันน่ามหัศจรรย์ของป่าตาด พืชตระกูลปาล์ม มีใบเป็นแฉกแผ่กว้าง เจริญเติบโตได้ดีในพื้นที่ป่าดงดิบที่มีอากาศเย็นชื้นสภาพหนาทึบ ขึ้นปกคลุมตลอดเส้นทางเดิน ราวกับว่ากำลังหลุดอยู่ในโลกยุคดึกดำบรรพต์  หากมาเที่ยวในช่วงฤดูฝนตั้งแต่ประมาณเดือนสิงหาคม – พฤศจิกายน  จะได้พบเห็นเจ้ากิ้งกือมังกรสีชมพู  มีสีชมพูสดใสมองไปมองมาคล้ายเกสรดอกไม้  มีลักษณะโดดเด่นด้วยลวดลายและปุ่มหนามคล้ายมังกร พบได้ในป่าที่มีความชุ่มชื้นสูงและอุดมสมบูรณ์ เมื่อโตเต็มที่จะมีลำตัวยาวประมาณ 7 เซนติเมตร  ถือว่าเป็นสัตว์ไฮไลท์พบได้แห่งเดียวในโลกที่หุบป่าตาด  โดยมันจะคลานอยู่ตามพื้นกำแพงทางเดินบ้าง ตามต้นไม้บ้าง ต้องคอยสังเกตให้ดี เพราะตัวค่อนข้างเล็ก  เดินเข้ามาเกือบสุดเส้นทางจะพบกับถ้ำอีก 1 ถ้ำ แบบเปิดโล่งพอเห็นแสง มีหินงอกหินย้อย และหินปูน ซึ่งลวดลายหินที่งดงาม หากมาเที่ยวในช่วงกลางวันจะมีแสงอาทิตย์สาดส่องลงมากลางหุบที่ล้อมรอบด้วยภูเขาหินปูนสูงชัน

 

 

สำหรับใครที่อยากมาสัมผัสความรู้สึกเหมือนเราหลุดไปอยู่ในโลกของพืชพันธุ์ดึกดำบรรพ์ เชิญมาเดินชมความมหัศจรรย์กันที่จังหสัดอุทัยธานี  #TATUthaithani #เรียบง่ายสไตล์อุทัยธานี