58 ปี พช.ก้าวย่างสู่ปีที่ 59 มุ่งมั่นสร้างชุมชนเข้มแข็ง พัฒนาคุณภาพชีวิต น้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง

58 ปี พช.ก้าวย่างสู่ปีที่ 59 มุ่งมั่นสร้างชุมชนเข้มแข็ง พัฒนาคุณภาพชีวิต น้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง

วันที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2563 เจ้าประคุณสมเด็จพระมหาวีรวงศ์ เลขานุการในสมเด็จพระสังฆราช กรรมการมหาเถรสมาคม เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ เจริญพระพุทธมนต์ เนื่องในโอกาสครบรอบวันก่อตั้งกรมการพัฒนาชุมชน 58 ปี โดยมี นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน ศ.พิเศษ ดร.ยุวัฒน์ วุฒิเมธี นายไพโรจน์ พรหมสาส์น นายวิเชียร ชวลิต อดีตอธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน นายวทัญญู ทิพยมณฑา รองเลขาธิการ เลขาธิการผู้ตรวจการแผ่นดิน พันตำรวจเอกอภิรักษ์ เวชกาญจนา รองผู้บังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ กองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ นายศรัณย์ศักดิ์ ศรีเครือเนตร เลขานุการกรมการปกครอง นายดนัย สุนันทารอด หัวหน้าผู้ตรวจราชการ กรมโยธาธิการและผังเมือง นายธวัชชัย เลี้ยงประเสริฐ หัวหน้าผู้ตรวจราชการกรม กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น นายบุญเกื้อ สมนึก เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ดร.ศิริลักษณ์ พฤกษ์ปิติกุล ผู้อำนวยการสำนักประยุกต์และบริการภูมิสารสนเทศ สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) พ.ต.ท.หญิง ปณตสรณ์ มาบำรุง รองผู้กำกับการฝ่ายเทคโนโลยีตรวจคนเข้าเมือง สำนักงานการตรวจคนเข้าเมือง3 และหน่วยงานภาคี ตลอดจนข้าราชการบำนาญ คณะผู้บริหาร ข้าราชการ เจ้าหน้าที่กรมการพัฒนาชุมชน พร้อมด้วยสื่อมวลชน เข้าร่วมพิธี ณ ห้องสัมมนา 3003 ชั้น 3 กรมการพัฒนาชุมชน

กรมการพัฒนาชุมชนได้ถือเอาวันที่ 1 ตุลาคมของทุกปีเป็นวันก่อตั้งกรม นับตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2505 ตาม พ.ร.บ.ปรับปรุงกระทรวง ทบวง กรม ฉบับที่10 พ.ศ.2505 จนถึงปัจจุบันเป็นเวลา 58 ปี โดยหน่วยงานทั้งส่วนกลางและส่วนภูมิภาคในสังกัดกรมการพัฒนาชุมชน มีการจัดกิจกรรมเพื่อน้อมรำลึกถึงคุณูปการในการก่อตั้งกรมการพัฒนาชุมชน กระตุ้นให้ข้าราชการและลูกจ้างในสังกัดเกิดความรักความภาคภูมิใจ ตลอดจนการสร้างขวัญกำลังใจให้เกิดขึ้นในองค์กร มุ่งมั่นสานประโยชน์เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนต่อไป ภายใต้วิสัยทัศน์ “เศรษฐกิจฐานรากมั่นคงและชุมชนพึ่งตนเองได้ ภายในปี 2565”

ในโอกาสนี้ ศ.พิเศษ ดร.ยุวัฒน์ วุฒิเมธี ได้ให้โอวาทความว่า “ขอแสดงความยินดี และภาคภูมิใจกับ 58 ปี ของกรมการพัฒนาชุมชน สิ่งที่ต้องคำนึกถึงในทำงานพัฒนาชุมชน คือ ความรู้และเข้าใจในหลักการปรัชญาการพัฒนาชุมชน การสร้างพลังชุมชนและใช้พลังชุมชน ในการพัฒนาชุมชน ปรัชญาดังกล่าวเป็นสิ่งที่มีนัยยะลึกซึ้งเป็นอย่างยิ่ง กรมการพัฒนาชุมชน ตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน ถือได้ว่าเป็นองค์กรที่มีภารกิจในการบุกเบิกครอบคลุมหลากหลายมิติทั้งด้านสุขอนามัย การเกษตร สวัสดิการสังคม สร้างองค์กรชุมชน ผู้นำชุมชน เป็นต้น จะเห็นได้ว่าเป็นงานที่ต้องลงมือทำ ออกพื้นที่ ลงหมู่บ้าน ทำงานร่วมกับประชาชน (Work for People) ไม่ใช่งานเพียงเชิงบริหาร ฉะนั้นพัฒนากรต้องอุทิศตัว หากทำงานแล้วอย่าเป็นกังวลเรื่องเวลาหากงานไม่สำเร็จลุล่วง เพราะสิ่งสำคัญคือการดูแล ประชาชน หมู่บ้าน ตำบล อย่างใกล้ชิด อันใดเป็นปัญหาต้องรับมาและประสานบูรณาการเพื่อนำสู่การแก้ไขและพัฒนาสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีของประชาชนต่อไป”

ด้านอธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน เปิดเผยว่า “กรมการพัฒนาชุมชน ได้ขับเคลื่อนงานตามภารกิจ ด้วยการกิจกรรมโครงการสำคัญ เพื่อให้ประชาชนมีความเป็นอยู่ที่ดี เศรษฐกิจฐานรากมั่นคง ชุมชนพึ่งตนเองได้ โดยดำเนินภารกิจ น้อมนำพระราชดำริของสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี สู่แผนปฏิบัติการ 90 วัน ปลูกผักสวนครัว เพื่อสร้างความมั่นคงทางอาหาร เป็นการสร้างความมั่นคงทางอาหารให้แก่ชุมชน ซึ่งความสำเร็จในระยะที่ 1 และต่อในระยะที่ 2 ด้วยการทำอย่างต่อเนื่อง จนเป็นวัฒนธรรมการปลูกผักสวนครัว สร้างความมั่นคงด้านอาหารอย่างต่อเนื่อง
การรณรงค์ส่งเสริมการสวมใส่ผ้าไทย ร่วมกับสภาสตรีแห่งชาติ ในพระบรมราชินูปถัมภ์ จนนำไปสู่มติ คณะรัฐมนตรี เพื่อให้คนไทยช่วยสวมใส่ผ้าไทยอย่างน้อยสัปดาห์ละ 2 วัน ถือเป็นการกระตุ้นยอดขายผ้าไทย สร้างรายได้สู่ชุมชน การดำเนินการส่งเสริมการจ้างงาน นักการตลาดรุ่นใหม่ เพื่อเป็นการสร้างรายได้ สร้างงาน และเป็นการส่งเสริม ให้ผู้ผลิต ผู้ประกอบการ OTOP เข้าถึง การตลาดออนไลน์ได้ เพื่อส่งเสริมการจำหน่าย การพัฒนาการตลาดออนไลน์ สร้างรายได้แก่ชุมชน

โครงการพัฒนาพื้นที่ต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิตตามหลักทฤษฎีใหม่ ประยุกต์สู่ “โคก หนอง นา โมเดล” ซึ่งเป็นโครงการตามแนวทางพระราชดำริที่ก่อให้เกิดการพัฒนาที่ยั่งยืนแก่ฐานราก คือ ชุมชน เกิดความร่วมมือร่วมใจ ภาครัฐและองค์กรภาคีเครือข่ายในพื้นที่ และในปีที่ผ่านมา กรมการพัฒนาชุมชน ดำเนินงานเพื่อประชาชน จนได้รางวัลถึง 8 รางวัล ได้แก่ รางวัลเลิศรัฐจำนวน 5 รางวัล รางวัลองค์กรที่มีความเป็นเลิศในการบริหารจัดการด้านการเงินการคลัง จากกรมบัญชีกลาง กระทรวงการคลัง 2 รางวัล และรางวัลองค์กรต้นแบบด้านสิทธิมนุษยชน ประจำปี 2563 จาก กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ กระทรวงยุติธรรม
แต่เหนือสิ่งอื่นใด คือ พระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ที่ทรงพระราชทานภาพวาดฝีพระหัตถ์ “โคกหนองนาแห่งน้ำใจละความหวัง” ด้วยสายใยแห่งพระเมตตา ได้ทรงพระราชทานความห่วงใยต่อความเป็นอยู่วิถีชีวิตที่มีความสุขด้วยธรรมชาติที่สมดุล เติมเต็มความรัก ความสามัคคี ความเอื้ออาทร พร้อมทั้งทรงพระราชทานกำลังใจให้ข้าราชการกรมการพัฒนาชุมชน และพสกนิกรชาวไทยทั้งประเทศ” อธิบดี พช.กล่าว

ครบรอบ 58 กรมการพัฒนาชุมชน ย่างก้าวสู่ปีที่ 59 และจะครบรอบ 60 ปี ในปี 2565 กรมการพัฒนาชุมชนพร้อมขับเคลื่อน ส่งเสริมกระบวนการมีส่วนร่วมของประชาชน สร้างรายได้ สร้างอาชีพ และคุณภาพชีวิตที่ดี บำบัดทุกข์ บำรุงสุข ให้กับประชาชน อันเป็นกลไกขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากให้มีความมั่นคง ชุมชนสามารถพึ่งตนเองได้ ตามภารกิจที่ได้รับมอบหมายจากรัฐบาลบรรลุวิสัยทัศน์ยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี “ประเทศไทยมีความมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน เป็นประประเทศพัฒนาแล้ว ด้วยการพัฒนาตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง”